กฎทรงผมนักเรียนของ ศธ.ไม่ศักดิ์สิทธิ์ "ณัฏฐพล"วอนโรงเรียนทำความเข้าใจให้ชัด 


เพิ่มเพื่อน    


8ก.ค.63-นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวถึงกรณีที่มีนักเรียนถูกโรงเรียนทำโทษโดยการตัดผม ว่า ตนเข้าใจโรงเรียนที่ต้องการสร้างระเบียบวินัยให้แก่นักเรียน แต่ความมีระเบียบวินัยสามารถสร้างได้หลากหลายรูปแบบ ซึ่งขอให้โรงเรียนได้มีการสื่อสาร เรื่อง กฎกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วย เรื่องทรงผมนักเรียนฉบับใหม่ให้ผู้ปกครอง นักเรียน และครูเข้าใจด้วย ทั้งนี้เชื่อว่าปัญหาความไม่เข้าใจเรื่องระเบียบทรงผมนักเรียนก็คงมีบ้างในบางโรงเรียน โดยโรงเรียนไหนที่ยังไม่เข้าใจกฎระเบียบฉบับใหม่ก็ขอให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) เข้าไปช่วยทำความเข้าใจ แต่ส่วนใหญ่โรงเรียนจะบริหารจัดการได้อย่างเหมาะสม

“สำหรับการเปิดภาคเรียนที่ 1 มาได้สัปดาห์แรกแล้วนั้นได้เห็นโรงเรียนดำเนินการตามาตรการคัดกรองสุขภาพอย่างเข้มงวด ดังนั้นแม้จะมีการปลดล็อคอย่างเต็มรูปแบบแล้วตนก็ไม่อยากให้โรงเรียนทำการ์ดตก ขอให้รักษามาตรฐานการคัดกรองไว้ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19”รมว.ศธ.กล่าว

ด้านนายประเสริฐ บุญเรือง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้ลงนามในหนังสือคำสั่งสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.ศธ.) ด่วนที่สุด แจ้งไปยังหน่วยงานที่มีสถานศึกษาในสังกัดทั้งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) เรื่อง ซักซ้อมความเข้าใจแนวปฏิบัติเกี่ยวกับ ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วย เรื่องทรงผมนักเรียน พ.ศ.2563 ให้รับทราบและถือปฏิบัติ พร้อมให้แจ้งสถานศึกษาในสังกัดกำกับดูแลยกเลิกการใช้บังคับระเบียบสถานศึกษาเดิมเกี่ยวกับทรงผมนักเรียน และจะต้องวางระเบียบเกี่ยวกับการไว้ทรงผมนักเรียนขึ้นใหม่ ข้อ 7 ที่จะต้องยึดหลักความเหมาะสมในการพัฒนาบุคลิกภาพที่ดี การมีส่วนร่วมของนักเรียน สถานศึกษา ผู้ปกครอง และชุมชนท้องถิ่น พร้อมต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษาหรือคณะกรรมการบริหารโรงเรียนแล้วแต่กรณีก่อนประกาศใช้

“ทรงผมนักเรียนที่เป็นประเด็นอยู่ในตอนนี้ เนื่องจากกลุ่มนักเรียนต้องการให้โรงเรียนดำเนินการตามข้อ 7 ของกฎกระทรวงฉบับใหม่ที่ต้องให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการดำเนินการ เพราะขณะนี้มีสถานศึกษาบางแห่งยังยึดกฎระเบียบฉบับเดิมอยู่ ซึ่งจากนี้ไปสถานศึกษาจะต้องจัดประชุมชี้แจงทำความเข้าใจระหว่างโรงเรียน ผู้ปกครอง นักเรียน และครู เพื่อออกเป็นข้อปฎิบัติการไว้ทรงผมนักเรียนของแต่ละโรงเรียนให้ชัดเจน เช่น โรงเรียนเอประชุมร่วมกับทุกฝ่ายแล้วมีข้อสรุปว่ายังต้องการยึดทรงผมนักเรียนแบบเดิม หรือ โรงเรียนบีประชุมร่วมกับทุกฝ่ายแล้วมีข้อสรุปว่าจะถือปฎิบัติเรื่องทรงผมนักเรียนตามกฎกระทรวงฉบับใหม่ก็ได้ เป็นต้น”ปลัด ศธ.กล่าว

นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า ส่วนประเด็นการเผยแพร่ภาพนักเรียนโดนกล้อนผมรับเปิดภาคเรียนใหม่บนโลกโซเชียลนั้น ก็ต้องยอมรับว่าโรงเรียนทำไม่ถูกต้อง เพราะการจะลงโทษนักเรียนไม่ว่าจะกระทำความผิดใดๆ ก็ตามจะต้องยึด ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการลงโทษนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ.2548 มี 4 ข้อดังนี้ 1.ว่ากล่าวตักเตือน 2.ทำทัณฑ์บน 3.ตัดคะแนนความประพฤติ และ4.ทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"