จุดเริ่มต้นของความรู้-รัก-สามัคคี


เพิ่มเพื่อน    

 

            เห็นภาพ ป๋าเปลว สีเงิน ของหมู่เฮา...กางมือ-กางไม้ ทำท่าสนทนาอย่างชนิดออกรส-ออกชาด กับท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ที่ออกมือ-ออกไม้ ในลักษณะไม่ต่างไปจากกัน ตีพิมพ์ เผยแพร่ อยู่ใน ไทยโพสต์ หน้าหนึ่ง เมื่อวันวาน ก็ออกจะเป็นอะไรที่น่าปลื้ม น่าสุรบถ หลีกภัย อยู่พอสมควร คืออย่างน้อย...ก็พอได้สะท้อนให้เห็นถึงความพยายาม ความตั้งใจ ของระดับผู้นำประเทศ ที่พร้อมจะลดตัว ลงมาแตะ มาสัมผัส กับใครต่อใคร ไม่ว่าจะได้ผล-ไม่ได้ผล ตามที่หวังและต้องการหรือไม่ อย่างไร ก็ตามที...

                          --------------------------------------------

            พูดง่ายๆ ว่า...ยังไงๆ มันย่อมต้องดีกว่า การนั่งๆ-นอนๆ อยู่บน หอคอยงาช้าง อยู่แล้วแน่ๆ อีกทั้งอาจช่วยให้เกิดความสอดคล้อง กลมกลืน อยู่บ้าง กับสีสัน บรรยากาศ แห่ง ความร่วมมือ-ร่วมใจ อันเป็นสิ่งที่ท่านนายกฯ ท่านได้ออกมาเรียกร้อง และให้ความสำคัญมิใช่น้อย แม้ว่าภายในพรรครัฐบาล พรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน อาจ ร่วม กันแบบค่อนข้างเจ็บปวด ทรมาน อยู่ซักหน่อย แต่ก็นั่นแหละ...ถ้าหากภาคส่วนอื่นๆ หันมาให้ความร่วมมือ-ร่วมใจกับผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจในขั้นตอนสุดท้ายของรัฐบาล อย่างเป็นเรื่อง เป็นราว เป็นกิจจะลักษณะขึ้นมาจริงๆ แล้วล่ะก็ บรรดา นักการเมือง ไม่ว่าฝ่ายรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน ก็น่าจะลดแรงจูงใจ ลดแรงหื่น ในการคิดจะร่วมแบบเจ็บๆ แสบๆ ได้บ้างเหมือนกัน...

                       -------------------------------------------------

            คือเหตุที่ ความร่วมมือ-ร่วมใจ อันเป็นสิ่งสำคัญของความเป็นชาติ บ้านเมือง มาโดยตลอด ยิ่งเป็นอะไรที่ออกจะสำคัญเอามากๆ...นับจากนี้เป็นต้นไป ก็น่าจะเนื่องมาจากฉากสถานการณ์ต่างๆ ที่กำลังทยอยอุบัติขึ้นมาในอนาคตเบื้องหน้าอีกไม่ใกล้-ไม่ไกล นั่นแหละทั่น อันเป็นฉากสถานการณ์ที่คงต้องยอมรับเอาจริงๆ ว่า ยากที่จะจินตนาการให้เห็นภาพ เห็นรูปร่าง หน้าตา ได้ชัดๆ ไม่ว่าในแง่การเมือง เศรษฐกิจ หรือสังคม ก็ตาม ยากที่จะกำหนดว่ามันจะ เวิร์ส เคส ซีเนริโอ ไปถึงขั้นไหน แต่ที่แน่ก็คือ ยังไงๆ มันคงต้อง เวิร์ส อยู่แล้วแน่ๆ และภายใต้ภาพจินตนาการซึ่งยังคงเป็นอะไรที่ พร่ามัว อยู่ตราบเท่าทุกวันนี้ สิ่งที่เรียกว่า ความร่วมมือ-ร่วมใจ หรือ ความรู้-รัก-สามัคคี นั่นเอง คือ คำตอบสุดท้าย ที่อาจช่วยให้อะไรที่ เวิร์สๆ มันพอ เบตเตอร์ ขึ้นมาได้มั่ง...

                      ---------------------------------------------------

            เรียกว่า...ไม่ใช่เรื่อง โควิด-ไม่โควิด ล้วนๆ เท่านั้น ที่จะนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลง หรือทำให้ โลกไม่มีวันเหมือนเดิม อีกต่อไป แต่ด้วยระบบโลก หรือระเบียบโลก ไม่ทางการเมือง เศรษฐกิจ ทรัพยากรสิ่งแวดล้อม ฯลฯ ที่มันใกล้ถึงจุดอิ่มตัว หรือจุดที่ไม่อาจเคลื่อนไหวไปตามทิศทางเดิมๆ ได้อีกแล้ว มันจึงก่อให้เกิด ความเปราะบาง เอามากๆ ต่อการเปลี่ยนแปลงจากสิ่งหนึ่งไปสู่อีกสิ่งหนึ่ง โดยที่สิ่งที่ว่านั้น...จะเป็นอะไรกันแน่!!! ก็ยากที่จะกำหนด กฎเกณฑ์ ยากที่จะวาดภาพ วาดจินตนาการออกมาได้ชัดๆ เนื่องจากมันยังต้องเคลื่อนไหว ต้องพัฒนา ต้องยกระดับ ไปตาม เงื่อนไข และ เหตุปัจจัย ตามแบบฉบับเดียวกันกับกฎเหล็กแห่งธรรมชาติ หรือกฎอิทัปปัจจยตา-ปฏิจจสมุปบาท นั่นแล หรือ... ด้วยเหตุเพราะสิ่งนี้-สิ่งนี้...สิ่งนี้จึงเป็นไป นั่นเอง...

                ---------------------------------------------------

            ด้วยเหตุนี้...การหันมาให้ความสำคัญกับ สิ่งที่เรียกว่า ความรัก ความสามัคคี หรือ ความร่วมมือ-ร่วมใจ ใดๆ ก็แล้วแต่ ก็อาจพอช่วยให้การเป็นไปของสิ่งนี้-สิ่งนี้ นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี หรือที่ปรารถนาและต้องการของบรรดาผู้คนในแต่ละสังคม ตามกฎเหล็กแห่งธรรมชาติ หรือกฎอิทัปปัจจยตา ตั้งแต่จุดเริ่มต้น หรือตั้งแต่ เหตุปัจจัย นั่นเอง ส่วนจะอาศัย รูปแบบ และ เนื้อหา กันในแบบไหน อย่างไร? อันนี้...ก็คงขึ้นอยู่สิ่งที่เรียกว่า ความรู้ ว่ารู้กันในลักษณะไหน รู้แบบงูๆ-ปลาๆ รู้แบบรู้ทุกเรื่อง แต่ดันไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร เป็นอะไร หรือรู้แบบ เข้าถึง-เข้าใจ หรือไปถึงขั้น รู้แจ้ง-เห็นจริง ยิ่งดีเข้าไปใหญ่...

                                --------------------------------------------------

            แต่โดยสรุปรวมความแล้ว...การหันมาให้ความสำคัญ หรือหันมาเริ่มต้นกันที่ความร่วมมือ-ร่วมใจ หรือความรู้-รัก-สามัคคีนี่แหละ ย่อมถือเป็น เครือข่ายป้องกันทางสังคม ที่น่าจะได้ผลที่สุด และแข็งแกร่งที่สุด ภายใต้ฉากสถานการณ์อันสุดแสนจะ พร่ามัว ซึ่งรอคอยอยู่ในอนาคตเบื้องหน้า เพียงแต่ว่า...การเนรมิต สร้างสรรค์ ให้บรรดาสิ่งทั้งหลาย ทั้งปวง เหล่านี้ เป็นจริงขึ้นมา ไม่ว่าโดย รูปแบบ หรือ เนื้อหา ก็ตามที ย่อมไม่ใช่สิ่งที่ง่ายดายกันซักเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง...เมื่อมันหนีไม่พ้นต้องเริ่มต้นกันที่ ตัวกู-ของกู ของใครๆ ของกลุ่มใด ฝ่ายใด กันก่อนเป็นอันดับแรก หรือการลด-ละ-เลิก อัตตา ของตัวเองลงไปให้น้อยที่สุดเท่าที่จะน้อยได้...

                     -----------------------------------------------------

            อย่างไรก็ตาม...ภายใต้ ลักษณะพิเศษ ของสังคมไทย หรือ ความเป็นไทย ก็แล้วแต่จะเรียก มันก็มีบางสิ่ง บางอย่าง ที่พอเอื้ออำนวยให้ พอช่วยเกื้อหนุน ส่งเสริม ให้โอกาสความเป็นไปได้ของการเนรมิต สร้างสรรค์ สิ่งเหล่านี้ ไม่ถึงกับยากลำบากแบบชนิดต้องปิดประตูตายไปซะทั้งหมด การพร้อมที่จะลดตัว ลดอัตตา ลงมาแตะ มาสัมผัส กับใครต่อใครของผู้นำประเทศ อย่างท่านนายกฯ บิ๊กตู่ จึงอาจถือเป็น นิมิตหมาย ในทางที่ดี ส่วนจะนำไปสู่ผลในทางปฏิบัติระหว่างกางมือ-กางไม้ ระหว่างพูดคุยกับ ป๋าเปลว สีเงิน ของหมู่เฮาหรือไม่ อย่างไร? นั้น อันนั้น...คงต้องค่อยไปว่ากันอีกที...

                           ------------------------------------------------------

            ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้...จาก Lao-tse”... He who conquers others is strong; he who conquers himself is mighty. - ผู้พิชิตคนอื่น...คือผู้เก่งกล้า ผู้พิชิตตนเอง...คือผู้เกรียงไกร”.

                   ----------------------------------------------------------

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"