คณะก้าวหน้า VS บุญเกื้อ-หมอวรงค์ 'เหตุเกิดจากความมือไว'


เพิ่มเพื่อน    

       เป็นอีกศึกที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นเลยจริงๆ สำหรับคณะก้าวหน้าในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ในประเด็น โครงการ “เมย์เดย์ เมย์เดย์” ของคณะก้าวหน้า ที่ออกมารับบริจาคเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนในช่วงที่โควิด-19 ระบาด โดยเปิดรับบริจาคระหว่างวันที่ 1-2 พ.ค.ที่ผ่านมา ก่อนจะได้รับเงินบริจาคประมาณ 7,751,783 ล้านบาท และนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนรายละ 3000 บาท ถึงมือประชาชนจำนวน 2,427 ราย

                สาเหตุที่ทำให้เรื่องนี้กลายมาเป็นประเด็น ต้องย้อนความไปที่กรณีของ ฌอน บูรณะหิรัญ ไลฟ์โค้ชคนดัง ที่กลายมาเป็นจำเลยสังคม (โซเชียล) จากคลิปที่เจ้าตัวชม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ผู้เป็นที่รักของคนในสังคมว่า “ท่านเป็นคนน่ารัก” ไม่เหมือนกับที่เห็นใน MEME พร้อมให้ข้อแนะนำว่า อย่าเชื่อคำพูดของคนอื่น หากไม่ได้สัมผัสกับเจ้าตัวจริงๆ และถึงแม้จะสัมผัสแล้ว ก็ขอให้เชื่อสิ่งที่เห็นเพียง 50% เท่านั้น

                แต่ประเด็นที่โดนถล่ม นอกจากเรื่องกระแสนิยมของ ”ลุงป้อม” ในโลกโซเชียลจะต่ำเตี้ยเรี่ยดินแล้วนั้น คำสอนดังกล่าวของนายฌอนเองก็ดันเป็นลักษณะขัดกับสิ่งที่ตนเองพูดเองด้วยซ้ำ เพราะการที่เจ้าตัวบอกว่า “ท่านเป็นคนน่ารัก” นั้นเท่ากับว่าฌอนเองก็ตัดสิน “บิ๊กป้อม” ไปแล้วด้วยเช่นกัน ทั้งที่เจ้าตัวบอกว่าอย่าตัดสินใครเพียงแค่แรกเห็น เมื่อคลิปดังกล่าวเผยแพร่ออกมาก็ไม่รอดสันดอน ที่โดนบรรดาเกรียนโซเชียลถล่มยับแบบแทบไม่เหลือที่ยืน ยอดคนกดไลค์เพจของเจ้าตัวหายไปกว่า 1 ล้านคน

                เท่านั้นยังไม่พอ เคราะห์ยังตามซ้ำหนุ่มหล่อคนนี้แบบไม่ไยดี เมื่อมีบรรดามือดีกลับไปสาวประวัติของเจ้าตัว ว่ามีเรื่องอะไรที่เจ้าตัวพูดแล้วอาจจะไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นอย่างที่พูดบ้าง ทั้งเรื่องชีวิตในวัยเด็กในสหรัฐอเมริกา ที่บอกว่าโดนฝรั่งเจ้าถิ่นบูลลี่ ทั้งที่เจ้าตัวอาศัยอยู่ในเมืองที่เต็มไปด้วยคนเอเชีย หรือการพาไปทัวร์บ้านที่เชียงใหม่ ทั้งที่ไม่ใช่บ้านตนเอง เป็นต้น เมื่อโดนสาวหนักเข้าหนักเข้า ก็เลยลามไปเรื่องการเปิดรับบริจาคเพื่อช่วยเหลือปัญหาไฟป่าในจังหวัดเชียงใหม่ของเจ้าตัว ที่โดนทวงถามถึงความโปร่งใส และกลายเป็นดรามาที่ดูเหมือนว่าจะยังไม่จบง่ายๆ

                ซึ่งเรื่องนี้คือจุดเริ่มต้นของศึกระหว่าง คณะก้าวหน้า VS บุญเกื้อ-หมอวรงค์ โดยที่ทางด้าน นายบุญเกื้อ ปุสสเทโว อดีตผู้ช่วย ส.ส.จ.กาญจนบุรี พรรคภูมิใจไทย เปิดหัวก่อน ในหัวข้อ “สเตทเมนต์ลวงโลก” พร้อมกล่าวหาคณะก้าวหน้าว่า หวังอมเงินบริจาค โดยการยกเอาชื่อของผู้รับเงินตามสเตทเมนต์มาเป็นประเด็น

                แต่ตบมือข้างเดียวไม่มีเสียงฉันใด เรื่องราวนี้ก็คงไม่กลายเป็นประเด็น หากไร้การตอบโต้จากฝ่ายผู้ถูกกล่าวหา เพราะในวันเดียวกัน คุณช่อ-พรรณิการ์ วานิช ก็ตอบโต้ทันที โดยการขู่ว่าหากบุญเกื้อไม่ลบโพสต์ใน 24 ชั่วโมง ก็เตรียมจะฟ้องแน่ ซึ่งจุดนี้ที่ทำให้กลายเป็นประเด็นโต้กันไปมา และกลายเป็นเงื่อนรัดคอฝ่ายคณะก้าวหน้า ที่ตัดสินใจออกมาตอบโต้ประเด็นนี้ด้วยตนเอง

                ดูเหมือนว่าผู้เสียประโยชน์ในหมากเกมนี้จะเป็นทางคณะก้าวหน้า ที่ต้องมาเสียพลังงานจากเรื่องไม่เป็นเรื่อง จากการที่โต้กันไปมาทั้ง 2 ฝ่าย ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งนั้นเป็นเพียงแค่อดีตผู้ช่วย ส.ส.เท่านั้น และดูเหมือนว่าเรื่องนี้คงจะต้องเคลียร์กันอีกยาว เพราะมีการฟ้องร้องกันทั้ง 2 ฝ่ายไปแล้ว ซึ่งทางคณะก้าวหน้าเองเรียกค่าเสียหายจากนายบุญเกื้อเป็นเงิน 1 ล้านบาทอีกด้วย

                อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ประเด็นเรื่องการรับบริจาคเงินของคณะก้าวหน้าเคยถูกหยิบยกมาโจมตีตั้งแต่ช่วงหลังจบกิจกรรมไม่กี่วัน แต่ก็ไม่ได้กลายเป็นประเด็นที่สังคมจับจ้องแต่อย่างใด จนกลายมาเป็นเรื่องอีกครั้งหลังการตอบโต้ของนางสาวพรรณิการ์เอง

                เท่านั้นยังไม่พอ เมื่อมีการโดดมาร่วมวงของ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย ย้ำเข้ามาอีก อย่างไรก็ตาม ในส่วนของรายละเอียดการกล่าวหานั้น ยังไม่น่าสนใจเท่ากับบทสนทนาตอบโต้อันเผ็ดร้อนระหว่างอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ท่านนี้กับทางอดีตโฆษกของพรรคอนาคตใหม่

                เป็นที่รู้กันมาก่อนแล้วว่า ทางหมอวรงค์เองมีทัศนะอย่างไรต่อพรรคอนาคตใหม่ ที่กลายร่างมาเป็น คณะก้าวหน้า และพรรคก้าวไกล ในปัจจุบัน ด้วยความที่เจ้าตัวแสดงตัวชัดเจนว่ามีแนวคิดทางการเมืองที่จัดอยู่ในกลุ่ม “อนุรักษนิยม” จึงไม่แปลกที่เจ้าตัวจะมองว่า บรรดากลุ่ม “ก้าว” ทั้งหลายเป็นศัตรู โดยที่ผ่านมามีการออกมาแซะ ออกมาเหน็บ รวมทั้งโจมตีในหลายๆ ประเด็นอย่างต่อเนื่อง แต่ทางผู้ที่โดนโจมตียังคงนิ่งเฉย ไม่ได้ตอบโต้ จนมาถึงเคสล่าสุด

                ที่พีกที่สุดคือ ประโยคที่ว่า “รู้สึกเห็นใจ “นพ.วรงค์ เพราะสอบตกแพ้พรรคอนาคตใหม่ในการเลือกตั้ง และต้องการมีที่ยืนทางการเมือง” และ “แต่ที่ผ่านมายังไม่เห็นบทบาทของ นพ.วรงค์ ในการทำประโยชน์ให้กับประชาชนและประเทศชาติ” ตามที่นางสาวพรรณิการ์ให้สัมภาษณ์ ซึ่งถือว่าเจ็บจี๊ดเลยทีเดียว

                ซึ่งทางหมอวรงค์ก็ออกมาโต้ว่า “ผมถามเลยว่าวันนี้คุณช่อกับผม คุณทำประโยชน์อะไรให้กับประเทศชาติ หรือแม้คุณธนาธร คุณปิยบุตร คุณทำประโยชน์อะไรให้กับประเทศชาติ หรือพวกคุณทั้ง 3 คนมาเปรียบเทียบกับผมเลย ใครทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติมากกว่ากัน” แน่นอนว่าการโต้กันไปโต้กันมาแบบนี้คงจะไม่จบง่ายๆ อย่างแน่นอน ซึ่งทางคณะก้าวหน้าเองก็ประกาศแล้วว่า พวกเขาเตรียมจะฟ้องร้องหมอวรงค์ต่อไป

                อย่างไรก็ตาม เรื่องวุ่นวายทั้งหมดอาจจะไม่เกิดขึ้นหาก “คุณช่อ” ไม่ไปโพสต์ขู่ว่าจะฟ้องทางนายบุญเกื้อก่อนตั้งแต่แรก และจนถึงตอนนี้ก็กลายเป็นว่า จากศัตรูคนเดียวก็มีเพิ่มขึ้นมาอีก 1 คน และมีแนวโน้มว่าอาจจะมีคนอื่นๆ ตามออกมาขยี้ประเด็นนี้อีก

                 ซึ่งการที่ต้องออกมาตอบโต้ในประเด็นนี้ ย่อมเป็นการทำให้ทางคณะก้าวหน้า เสียทั้งเวลา ความรู้สึก และทรัพยากร โดยใช่เหตุไปซะอย่างนั้น.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"