ศบค.แจง 'ทหารอียิปต์' ติดเชื้อโควิด พักโรงแรมระยอง-เดินห้าง อีกรายเด็ก 9 ขวบครอบครัวทูตแอฟริกากักตัวอยู่กทม.


เพิ่มเพื่อน    

13 ก.ค.63 - ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย พบผู้ป่วยรายใหม่ 3 ราย ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ ผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,220 ราย หายป่วยสะสม 3,090 ราย ผู้ป่วยรักษาอยู่ 72 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม จำนวนคงที่ 58 ราย ทั้งนี้ไม่มีผู้ติดเชื้อภายในประเทศติดต่อกัน 49 วัน สำหรับผู้ป่วยรายใหม่รายที่ 1 กลับจากคูเวต เป็นชายไทยอายุ 48 ปี อาชีพรับจ้าง เดินทางถึงไทย 29 มิ.ย. เข้าพักในสถานที่เฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ จ.กรุงเทพฯ วันที่ 11 ก.ค.ตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ รายที่ 2 จากบาห์เรน เป็นหญิงไทย อายุ 22 ปี เดินทางถึงไทย 12 ก.ค. ผ่านการคัดกรอง ณ ด่านควบคุมโรค พบว่ามีอาการเข้าเกณฑ์ จากนั้นวันที่ 12 ก.ค.ตรวจพบเชื้อ ขณะนี้รักษาที่รพ.ฉะเชิงเทรา

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า รายที่ 3 เป็นทหารชายสัญชาติอียิปต์ อายุ 43 ปี ซึ่งเดินทางพร้อมกับคณะรวม 31 คนในวันที่ 8 ก.ค. ที่ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา และเข้าพักในสถานที่เฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ ซึ่งเป็นโรงแรมจ.ระยอง วันที่ 9 ก.ค.ชายคนดังกล่าวเดินทางไปปฏิบัติภาระกิจทางทหารประเทศจีนและกลับมาเมืองไทยอีกครั้งวันเดียวกัน โดยวันที่ 10 ก.ค.ตรวจหาเชื้อพร้อมลูกเรือรวมทั้งหมด 31 ราย และคณะทั้งหมดเดินทางกลับวันที่ 11 ก.ค.

ทั้งนี้ผลตรวจยืนยันออกมาวันที่ 12 ก.ค. พบเชื้อ 1 ราย ส่วนอีก 30 รายไม่พบเชื้อ อย่างไรก็ตามการเดินทางของทหารกลุ่มนี้เป็นไปตามเงื่อนไขข้อยกเว้นที่ให้ลูกเรือต่างชาติเข้ามาปฏิบัติภารกิจในประเทศไทยได้ และในขณะนี้ที่เปิดให้เดินทางเข้ามามากขึ้นตามข้อยกเว้นของศบค. จากนี้ทีมสอบสวนโรคจะเข้าไปสอบสวนโรคอย่างละเอียดที่โรงแรมดังกล่าว พร้อมกันนี้ยังพบว่าคณะดังกล่าวมีการเดินทางไปยังสถานที่บางแห่งจ.ระยอง เช่น ห้างสรรพสินค้า ทีมสอบสวนโรคก็จะเข้าไปตรวจสอบ

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีกรณีผู้ป่วยหญิงอายุ 9 ขวบ เป็นครอบครัวคณะทูตจากแอฟริกา เดินทางจากแอฟริกาวันที่ 7 ก.ค. มารวม 5 คน โดยผลตรวจก่อนขึ้นเครื่องไม่พบเชื้อโควิด-19 มาถึงไทยวันที่10 ก.ค. ผ่านด่านคัดกรองไม่มีอาการแต่เก็บตัวอย่างส่งตรวจ พบเชื้อในเด็กหญิงอายุ 9 ขวบ บิดาเด็กหญิงจึงนำตัวไปรักษาที่รพ.เอกชนแห่งหนึ่งในกทม.มีการตรวจซ้ำ ขณะที่ครอบครัวเด็กหญิงคนดังกล่าวพำนักที่คอนโดแห่งหนึ่งในกทม. โดยวันที่ 11 ก.ค.เด็กหญิงคนดังกล่าวมีอาการปอดอักเสบและมีการส่งตัวต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่ง

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า กรณีนี้เป็นอีกหนึ่งกรณีที่ได้รับข้อยกเว้นให้กับคณะทูตที่มาปฎิบัติงานในประเทศไทย แล้วให้ไปพำนักอยู่ในสถานที่ของสถานทูต ซึ่งกรณีนี้เป็นคอนโดฯแห่งหนึ่ง จากนี้จะทำการสอบสวนโรคในพื้นที่ดังกล่าว ขอให้ประชาชนชนในพื้นที่นั้นให้ความร่วมมือ ยืนยันเราจะดูแลอย่างดี อย่างไรก็ตามทั้งกรณีทหารชาวอียิปต์และเด็กหญิงที่เป็นสมาชิกครอบครัวคณะทูตถือเป็นข้อยกเว้นของศบค. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเราไม่กล่าวโทษใครเพราะเขาได้รับอนุญาต ไม่ใช่ข้อผิดพลาดอะไร ชุดข้อมูลนี้เราจะนำไปปรับปรุงวิธีการทำงานปิดจุดอ่อนให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น เพราะกรณีของสถานทูตนั้นเราเข้าใจว่าทุกสถานทูตมีพื้นที่พำนัก แต่กรณีนี้ที่ใช้คอนโดฯเป็นสถานที่พำนักกระทรวงการต่างประเทศจะประสานทำความเข้าใจให้สถานทูตต่างๆต้องกักตัวครอบครัวในคณะทูตให้อยู่ในสถานที่ของท่านเองเป็นเวลา 14 วัน และยืนยันขณะนี้ยังไม่มีข้อเสียหายอะไรเกิดขึ้น ข่าวดังกล่าวที่ออกมาจะช่วยย้ำเตือนให้ประชาชนรู้ว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องใกล้ตัว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์โลก ยอดผู้ติดเชื้อรวม 13,035,942 ราย รักษาหายแล้ว 7,582,035 ราย เสียชีวิต 571,571 ราย ขณะที่รูปแบบการเรียนการสอนของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ที่มีทั้งสิ้น29,235 โรงเรียน สามารถเปิดเรียนได้ปกติ 24,703 โรงเรียน เรียนแบบผสมผสาน 4,532 โรงเรียน โดยแบ่งเป็น 5 รูปแบบ คือสลับชั้นมาเรียนแบบสลับวันเรียน สลับชั้นมาเรียนแบบสลับวันคู่วันคี่ สลับชั้นมาเรียนแบบสลับวันเรียนมาเรียน5วัน หยุด 9 วัน สลับช่วงเวลามาเรียนแบบเรียนทุกวัน สลับมาเรียนแบบแบ่งนักเรียนในห้องเรียนออกเป็น2กลุ่ม และเลือกรูปแบบที่ 1-5 รวมกับรูปแบบอื่น

ผู้สื่อข่าวถามว่า ข้อเท็จจริงเรื่องการปล่อยให้นักธุรกิจชาวปากีสถานที่เอกสารไม่ครบเข้ามา จะส่งกลับหรือให้ทำธุรกรรมในประเทศไทย นพ.ทวีศิลป์ กลาวว่า ที่ประชุมศบค.ชุดเล็กพูดคุยกันพบว่าในชุดคนที่มาทั้งหมดจากปากีสถาน 27 ราย เข้ามาโดยมีเอกสารครบถ้วน แต่เอกสารระหว่างหน่วยงานของทั้ง 27 คนนั้น ครบถ้วน 19 คน อีก 8 คน การประสานงานภายในของเรามีความล่าช้า ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะรับไปปรับปรุงแก้ไข ส่วนกรณีชาวต่างชาติที่หลบหนีเข้ามาโดยช่องทางธรรมชาติแบบผิดกฎหมายจำนวน3,000-4,000 คนนั้น ขอชี้แจงว่าเป็นตัวเลขรวมในช่วงเดือนมิ.ย.-ก.ค.ตัวเลขกลุ่มดังกล่าวที่อยู่ในไทยไม่ได้มากขนาดนั้น เพราะเมื่อเจอตัวจะผลักดันกลับทันที ในส่วนที่เข้ามาในใจกลางประเทศก็อยู่ในสถานกักขังของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ซึ่งมีพื้นที่รองรับ และมีกรมควบคุมโรคเข้าไปตรวจโรคเป็นประจำ ไม่ได้ถือเป็นแหล่งเพาะเชื้อ ขณะนี้รอการดำเนินการขั้นตอนตามกฎหมายเพื่อส่งตัวกลับ


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"