จบเกมแย่งชามข้าว โผครม.ประยุทธ์2/2เสร็จ‘พปชร.’แบ่งโควตานายกฯ


เพิ่มเพื่อน    

  “ประยุทธ์” ทุบโต๊ะเป็นคนตัดสินใจเลือกรัฐมนตรี ใครจะพูดอย่างไรก็ได้ เพราะได้คุยกับพี่ป้อมเข้าใจแล้ว แย้มโผเสร็จแล้วรอขั้นตอนทางกฎหมายเท่านั้น พรรค พปชร.มีมติส่งชื่อชิง 5 เก้าอี้ “ประวิตร” นั่งมหาดไทย “สุริยะ” นั่งพลังงาน “อนุชา” เสียบ รมว.อุตฯ “สุชาติ” คั่วแรงงาน “นฤมล“ ยึด รมต.สำนักนายกฯ บิ๊กป้อมเผยนายกฯ ให้โควตาแค่ 2-3 เก้าอี้ ส่วนการสลับเก้าอี้ “น้องตู่” เคาะเอง พร้อมดีดปาก “ไพบูลย์” ออฟไซด์เกิน “รปช.” ตีกันเก้าอี้จับกัง 1 เชื่อนายกฯ รักษาสัญญาที่เคยให้ไว้

    เมื่อวันอังคารที่ 21 กรกฎาคม ในช่วงเช้าบรรยากาศที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ยังคงเป็นปกติ แม้จะมีรัฐมนตรีลาออกถึง 6 คน โดยบรรดารัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทยอยเดินทางเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างพร้อมเพรียง แต่จากการลาออกของรัฐมนตรีทั้ง 6 คน ทำให้ลานจอดรถประจำตำแหน่งว่างลงอย่างมาก
    สำหรับการประชุม ครม.นั้น ก่อนเริ่มประชุม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เดินรอบๆ ห้องประชุมเพื่อพูดคุยและทักทายกับบรรดารัฐมนตรีต่างๆ อย่างเป็นกันเอง โดยนายกฯ อารมณ์ดีมาตั้งแต่ช่วงเช้าที่ชมกิจการประชาสัมพันธ์การจัดงานศิลปาชีพ พอใจ วิถีใหม่ ใต้ร่มพระบารมีแล้ว
ทั้งนี้ น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ระบุว่า ในช่วงต้นการประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์ได้ขอบคุณรัฐมนตรีทุกคนที่ช่วยทำงานกันมา และขอบคุณรัฐมนตรีที่ไม่ได้อยู่ตรงนี้ เพราะทุกท่านทำงานร่วมกันมานาน และต่อให้วันนี้คนน้อยลงกว่าเดิม เราก็ต้องช่วยกันทำงาน อย่างไรเราต้องทำงานต่อไป และคาดว่าการปรับ ครม.จะเรียบร้อยภายในกลาง ส.ค. ทั้งนี้ทุกคนมีสิทธิ์แสดงความเห็น แต่การตัดสินใจอยู่ที่นายกฯ
ต่อมาในเวลา 12.45 น. พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุม ครม. โดยกล่าวทันทีที่บรรดาช่างภาพได้บันทึกภาพก่อนแถลงข่าวว่า “วันนี้ถ่ายกันเยอะ วันนี้ก็ยังเป็นนายกฯ คนเดิมไม่เคยเปลี่ยนแปลง” ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ถึงการปรับ ครม.ว่า จะเร่งปรับ ครม.ให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ ซึ่งมีกระบวนการตรวจสอบคุณสมบัติ เมื่อมีคนตอบรับแล้วก็ต้องตรวจสอบคุณสมบัติ และนำรายชื่อเสนอขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายตามกระบวนการ ไปถึงขั้นตอนการถวายสัตย์ฯ ขอให้สบายใจได้ว่าจะทำให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
เมื่อถามว่าหนักใจหรือไม่ขณะนี้ยังคงมีปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โดยเฉพาะเก้าอี้ รมว.พลังงาน สรุปเป็นโควตาของนายกฯ หรือของพรรค พล.อ.ประยุทธ์ยืนยันว่าไม่มีปัญหาความขัดแย้งใดๆ ได้คุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร.แล้ว
“เราไม่ได้พูดถึงว่าเป็นโควตาของใคร ผมจัดสรรให้เหมาะสมก็แล้วกัน ผมขอบคุณสมาชิก พปชร.ทุกคนด้วย ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะพูด แต่คนตัดสินใจคือผม โดยการทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน คิดว่าก็มีความเห็นชอบด้วยกันอยู่แล้วในท้ายที่สุด คิดว่าอีกไม่นานจะมีการปรับเปลี่ยน ครม.ในช่วงเร็วๆ นี้ อย่างที่บอกแล้วเป็นขั้นตอนที่ต้องดำเนินการตามกฎหมายทุกประการ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
อยู่ในขั้นตอนตรวจคุณสมบัติ
เมื่อถามว่า โผ ครม.ใหม่มีชื่อนายบรรสาน บุนนาค รองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายการเมืองใน ครม.หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ”ใครเสนอ ก็พูดกันไปกันมา ผมจำได้ว่าท่านเป็นรองเลขาฯ อยู่ไม่ใช่หรือ” เมื่อถามอีกว่า นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประเทศ จะยังทำหน้าที่ต่อหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "ยังไม่รู้ คอยผมประกาศสิ โธ่"
ซักอีกว่าแสดงว่าขณะนี้รายชื่อ ครม.ใหม่เรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "ก็คงงั้น ก็ต้องตรวจสอบคุณสมบัติ ผู้ที่จะเข้ามาต้องกรอกคุณสมบัติ รับรองตัวเอง เร่งเคลียร์ เรื่องคนคงไม่มีปัญหาหรอกมั้ง" ย้ำถามว่า แสดงว่ารายชื่อทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวยอมรับว่า ก็คงเป็นไปตามนั้น
เมื่อถามว่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ยังยืนยันอยากจะอยู่ในตำแหน่ง รมว.พลังงงาน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ไม่รู้เหมือนกัน ใครอยากได้ ก็พูดกันมาตลอดว่านายกฯ เป็นผู้ตัดสินใจไม่ใช่หรือ จะได้-ไม่ได้ก็ไม่รู้ ก็แล้วแต่ นายกฯ เป็นผู้ตัดสินใจ เมื่อถามย้ำว่า แต่มีข่าวว่านายสุริยะยืนยันและออกตัวแรงในเรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “อ๋อเหรอ เดี๋ยวรอดู”
ถามอีกว่ามีชื่อนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ ในโผหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ถอนหายใจเสียงดัง "เฮ้อ" ก่อนเดินออกจากโพเดียม และกล่าวว่า "เดี๋ยวก็รู้เอง"
    ด้านนายดอน กล่าวภายหลังมีกระแสข่าวว่านายบรรสานจะมานั่งตำแหน่ง รมว.กต.ว่า นายกฯ ยังไม่มีการพูดคุยถึงการปรับตำแหน่ง รมว.กต. และเมื่อถามย้ำว่านายกฯ เปรยว่าให้อยู่ทำงานต่อหรือไม่ นายดอนยกมือขึ้นโบกปฏิเสธแล้วตอบว่า ยังไม่มีพูดอะไรกัน เราก็ทำงานกันไปต่อตามปกติ เมื่อถึงเวลาจะอะไรก็แล้วแต่สื่อจะทราบเอง
ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงการปรับ ครม.ว่า ต้องถามนายกฯ เพราะส่วนตัวยังไม่ได้รับสัญญาณใดๆ ทั้งสิ้นว่าจะมีการปรับ ครม.ในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลหรือในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งขณะนี้รัฐมนตรีของพรรคก็เพียงแต่ต้องทำงานให้เต็มที่เท่านั้น ซึ่งตัดสินใจอะไรเองไม่ได้ เพราะผู้ที่จะประเมินผลงานก็คือหัวหน้าพรรคและเลขาธิการของพรรค
ส่วนนายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม กล่าวถึงกระแสข่าวลือจะลาออกจากตำแหน่งว่า ไม่มีความคิดลาออก เพราะยังมีงานที่นายกฯ มอบหมายให้ทำอยู่ และก็ทำงานอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการปรับภารกิจให้เข้ากับสถานการณ์โควิด ซึ่งวันนี้งบประมาณ 88,000 ล้านบาท ในส่วนของกระทรวงวัฒนธรรมที่สามารถนำมาใช้ได้แล้ว จะนำมาเยียวยาศาสนสถานที่ยังค้างอยู่
    "ผมจะทำงานไปจนกว่าจะปรับ ครม.ในช่วงเดือน ส.ค. ผมไม่ทราบว่ามีการปล่อยข่าวลือว่าผมจะลาออก ซึ่งการพิจารณาผู้ที่เหมาะสมจะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีเป็นอำนาจของนายกฯ และกระแสข่าวนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทำงาน และเชื่อว่าไม่ใช่การปล่อยข่าวเตะตัดขากันเองภายในพรรค" นายอิทธิพลระบุ
    เมื่อถามว่ากระแสข่าวที่ว่านายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี ในฐานะประธาน ส.ส.พรรค พปชร.จะได้รับเลือกให้เป็นรัฐมนตรีด้วย จะทำให้กระทบสัดส่วนของรัฐมนตรีที่มาจากชลบุรีหรือไม่ นายอิทธิพล?กล่าวว่า? การจัดสรรโควตารัฐมนตรีภายในพรรคไม่ได้เกี่ยวกับจังหวัดหรือภูมิภาค แต่การแบ่งภาคทั้ง 10 ภาคในพรรคเพื่อให้การทำงานของ ส.ส.ใกล้ชิดประชาชน ซึ่งไม่เกี่ยวกับการพิจารณาตำแหน่งรัฐมนตรี ทุกอย่างเป็นไปตามที่ พล.อ.ประวิตร หัวหน้าพรรคเคยกล่าวไว้
         ทั้งนี้ ก่อนการประชุม ครม. พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงบรรยากาศการประชุม ครม.ที่มีรัฐมนตรีหลายคนลาออกว่า "ไม่เห็นเป็นอะไร" และเมื่อถามต่อถึงโควตากระทรวงพลังงานยังเป็นของนายกฯ อยู่หรือไม่ เนื่องจากพรรค พปชร.ระบุว่าเป็นโควตาพรรค พล.อ.ประวิตรกล่าวตัดบทว่า "ไปถามนายกฯ เป็นเรื่องนายกฯ"
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรค พปชร. เพื่อพิจารณารายชื่อรัฐมนตรีในโควตาที่จะเสนอให้นายกฯ ว่ายังไม่ทราบเลย และรายชื่อจะตรงตามกระแสข่าวก่อนหน้านี้หรือไม่นั้นก็ไม่ทราบ เป็นเรื่องของที่ประชุม
ดีดปาก "ไพบูลย์"
ส่วนนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวถึงการประชุม กก.บห.พรรคว่า จะเริ่มด้วยการประชุม ส.ส. ซึ่งจะเปิดให้แสดงความเห็นถึงการปรับ ครม.อย่างหลากหลาย และจากนั้น กก.บห.จะนำมาพิจารณา ส่วนมติจะออกมาอย่างไรต้องรอติดตาม จากนั้นเสนอให้นายกฯ ต่อไป เพราะสุดท้ายอยู่ที่หัวหน้ารัฐบาล เชื่อว่าไม่มีความวุ่นวาย เพราะ พล.อ.ประวิตรรับฟังทุกความเห็น แต่หากมีการเสนอไปแล้ว ถ้าได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ต้องจบ
เมื่อถามถึงกรณีนายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค ออกมาเสนอชื่อนายสุริยะดำรงตำแหน่ง รมว.พลังงานนั้น นายสมศักดิ์ระบุว่า ไม่ควรพูด เพราะปกติจะไม่มีการมาพูดกันก่อนที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะโปรดเกล้าฯ เป็นเรื่องของเบื้องสูง ไม่ควรแสดงความเห็นหรือเปิดเผยชื่อก่อน ซึ่งในส่วนของกลุ่มสามมิตรไม่มีการพูดคุยกันว่าจะผลักดันใครเป็นพิเศษหรือไม่ ขึ้นอยู่กับ ส.ส.ที่จะแสดงความเห็น ไม่ควรมีการระบุชื่อ ที่ผ่านมาอาจหลุดกันไปบ้างก็ต้องให้อภัยกัน ซึ่งจริงๆ ไม่ควรพูดไปเอง
ถามอีกว่า รมว.พลังงานควรเป็นของพรรคหรือไม่ นายสมศักดิ์ระบุว่า ขึ้นอยู่ที่ กก.บห.พรรค ซึ่งต้องปรึกษากันก่อน เชื่อมั่นว่าการปรับ ครม.ครั้งนี้คงไม่ไปเกี่ยวข้องกับพรรคร่วมรัฐบาล เพราะอยู่ที่นายกฯ
เมื่อถามว่า นายอนุชา นาคาศัย เลขาธิการพรรค พปชร. ควรได้ตำแหน่งรัฐมนตรีเพื่อนำไปขับเคลื่อนนโยบายที่หาเสียงไว้หรือไม่ นายสมศักดิ์ระบุว่า โดยปกติทางการเมือง หลายพรรคการเมืองก็เป็นลักษณะนี้ แต่ พปชร.คงไม่ใช่ เพราะจะพูดคุยกันด้วยความเข้าใจ
“การประชุมวันนี้เป็นการนำเสนอตำแหน่งให้นายกฯ ไม่ใช่การกดดัน เพราะสุดท้ายการตัดสินใจขึ้นอยู่กับนายกฯ และเชื่อว่าทุกอย่างจะราบรื่น” นายสมศักดิ์กล่าวทิ้งท้าย
    รายงานข่าวจากพรรค พปชร.แจ้งว่า ที่ประชุม ส.ส.พรรคมีมติเสนอชื่อผู้ที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรค เพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์พิจารณา ได้แก่ นายสุริยะเป็น รมว.พลังงาน, นายอนุชาเป็น รมว.อุตสาหกรรม, นายสุชาติ เป็น รมว.แรงงาน และนางนฤมลเป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ ขณะที่ตำแหน่ง รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไม่เสนอชื่อบุคคลใด ทั้งนี้ ยังต้องรอที่ประชุม กก.บห.พิจารณาอีกครั้ง
    มีรายงานอีกว่า ในการประชุม ส.ส.พรรค ช่วงหนึ่งมีการแสดงความเห็นของ ส.ส. โดยพูดถึงการสนับสนุนให้ พล.อ.ประวิตรมาดำรงตำแหน่ง รมว.มหาดไทย ซึ่ง ส.ส.ต่างเห็นด้วยจำนวนมาก เพื่อให้การทำงานในพื้นที่เป็นไปอย่างราบรื่น และสามารถประสานกับฝ่ายการเมืองได้มากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ดูแลพื้นที่ได้อย่างทั่วถึง และสามารถขยายฐานเสียงให้กับพรรค พปชร.ให้เป็นพรรคอันดับ 1 ได้ในอนาคต
    พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงกรณีที่ที่ประชุมพรรคเสนอให้นั่งเป็น รมว.มหาดไทยว่า ขนาดเดินยังไม่ไหวเลย แต่ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธว่าจะไปรับตำแหน่งดังกล่าวหรือไม่ เพียงแต่อมยิ้ม และโบกมือให้สื่อมวลชน
    เมื่อถามถึงการที่ ส.ส.พรรคให้เหตุผลของการเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร เนื่องจากต้องการให้ขับเคลื่อนนโยบายของพรรค และเป็นคนที่ ส.ส.ของพรรคเข้าถึงได้ พล.อ.ประวิตรยิ้ม พร้อมกับส่ายหน้า ก่อนกล่าวว่า "ไม่ต้องเป็นผม คนอื่นก็ทำได้"
ได้โควตาพรรคแค่ 2 ที่
    ต่อมา 15.40 น. พล.อ.ประวิตรได้เดินทางมาเป็นประธานที่ประชุม กก.บห.พรรคพิจารณา 5 รายชื่อรัฐมนตรีตามมติ ส.ส.พรรค โดย พล.อ.ประวิตรแจ้งที่ประชุมว่า "ในการปรับ ครม.นายกฯ ให้โควตาพรรค 2? หรือ? 3? ที่?ในการปรับ ครม.ครั้งนี้ โดยไม่ได้ระบุว่าเป็นตำแหน่งอะไรบ้าง"  ซึ่งที่ประชุมได้มีการแสดงความเห็นกันอย่างแพร่หลาย รวมถึงการเสนอให้ทั้ง 5 คนเขียนแต่รายชื่อโดยไม่ต้องระบุตำแหน่ง เพื่อไม่ให้เป็นการกดดันนายกฯ ทั้งนี้ที่ประชุมยังไม่มีความชัดเจนกรณีนายสุริยะไปดำรงตำแหน่ง รมว.พลังงาน โดย พล.อ.ประวิตรกล่าวย้ำว่า "ใครจะเสนอใคร กี่ตำแหน่งก็เสนอไป แต่เรื่องการสลับตำแหน่งเป็นเรื่องของนายกฯ เป็นผู้พิจารณา แต่ผมไม่ขอรับตำแหน่ง รมว.มหาดไทย แต่ให้เสนอรายชื่อที่เป็นโควตาพรรครวม 5 คนไปตามกลไกของที่ประชุม ส.ส."
นอกจากนั้น พล.อ.ประวิตรยังได้มีคำสั่งห้าม กก.บห.ทุกคนให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับมติวันนี้ พร้อมทั้งยังได้ตำหนินายไพบูลย์ที่ออกมาเคลื่อนไหว เสนอชื่อนายสุริยะให้ดำรงตำแหน่ง รมว.พลังงาน โดย พล.อ.ประวิตรย้ำว่า หากใครไม่เชื่อฟัง ต่อไปนี้ก็จะมีการลงโทษอีกด้วย
    น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร. กล่าวถึงรายชื่อรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคว่า เป็นมติพรรค ต้องเคารพเสียงส่วนใหญ่ และตอนนี้ต้องให้กำลังใจนายกฯ ตั้งคณะทำงานเพื่อกอบกู้วิกฤติของคนทั้งประเทศ ตอนนี้คนต้องการคนเป็นมืออาชีพที่พร้อมมาทำงานได้เลย และถ้าเรามองส่วนรวมก็จะเห็นว่าต้องเลือกใครหรือลักษณะแบบไหน ส่วนตัวอยากให้นายกฯ ทำเพื่อประโยชน์ของบ้านเมืองและสังคมส่วนรวม ไม่ใช่เพื่อตอบโจทย์นักการเมือง
“ยืนยันว่าอยากให้นายกฯ ทำงานเพื่อประโยชน์ของบ้านเมือง ส่วนรวมและประชาชน ที่เข้ามาทำการเมืองเพราะอยากทำการเมืองใหม่ อยากจะรู้สึกที่จะศรัทธาต่อการเมืองไทยต่อไป” น.ส.วทันยากล่าว
    ขณะที่นายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) กล่าวถึงการปรับ ครม.ในตำแหน่ง รมว.แรงงาน ว่า กก.บห.พรรคมีมติส่ง ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ สานต่องานกระทรวงแรงงาน ส่วนการปรับ ครม.เป็นอำนาจของนายกฯ ซึ่งพรรคเชื่อมั่นว่านายกฯ จะตัดสินใจแต่งตั้ง ครม.บนผลประโยชน์สูงสุดของประเทศและประชาชน
ในช่วงเย็น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรค รปช.กล่าวถึงกรณีมติ ส.ส.พรรค พปชร.เห็นควรให้นายสุชาติเป็น รมว.แรงงาน ว่าไม่ทราบในเรื่องนี้ แต่ได้เรียนต่อ พล.อ.ประยุทธ์แต่ต้นแล้วว่า พรรค รปช.เราตั้งใจทำงานที่กระทรวงแรงงานต่อเพื่อจะช่วยนายกฯ ในส่วนของเศรษฐกิจ ซึ่งได้เตรียมแผนงาน โครงการ และเตรียมร่างกฎหมายไว้แล้ว โดยได้แจ้งมติของพรรคไปได้ว่าได้มอบหมายให้นายเอนกจะนั่งในตำแหน่งดังกล่าวแทน ม.ร.ว.จัตุมงคล ดังนั้นที่เหลือจึงขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายกฯ และเชื่อมั่นในตัวของท่าน จึงได้เข้ามาช่วย  
เมื่อถามย้ำว่า หากยึดโควตากระทรวงแรงงานกลับไปจะทำอย่างไร นายสุเทพปฏิเสธที่จะแสดงความเห็น โดยกล่าวว่า อย่าพูดเป็นอย่างอื่น อย่าถ้า หรือหาก เพราะยังไม่เกิดขึ้น ที่สำคัญเชื่อมั่นในตัวนายกฯ และทั้งหมดเป็นอำนาจของนายกฯ ที่จะตัดสินใจ แต่จนถึงขนาดนี้ก็ยังไม่มีสัญญาณใดๆ จากท่านนายกฯ ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนกระทรวงในความรับผิดชอบดูแล และยังคิดว่ายังยึดถือคำมั่นที่ได้คุยกันไว้แต่เดิม
เคาะรักษาราชการแทน
    น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำนายกฯ แถลงผลการประชุม ครม.ถึงกรณีรัฐมนตรีได้ลาออกจำนวน 6 คน ว่าตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยระเบียบการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534  มาตรา 42 ที่บัญญัติไว้ว่า ในกรณีไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวง หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงรักษาราชการแทน แต่ถ้าไม่มีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง ให้ ครม.มอบหมายรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งเป็นผู้รักษาราชการแทน ซึ่งประกอบด้วย 1.นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ รักษาราชการแทน 2.นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ให้ พล.อ.ประวิตร รักษาราชการแทน 3.นายอุตตม ให้นายสันติรักษาราชการแทน 4.นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.อว. ให้นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ? รักษาราชการแทน 5.นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน ให้นายวิษณุ รักษาราชการแทน และ 6.ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รมว.แรงงาน ให้นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รักษาราชการแทน
สำหรับการแถลงข่าวมติ ครม.วันนี้? นางนฤมล?ไม่ได้ร่วมแถลงข่าวด้วย? มีเพียง? น.ส.รัชดา? และ น.ส.ไตรศุลี?มาแถลง? จนเป็นที่ตั้งข้อสังเกต โดยเฉพาะหลังมีชื่อจะไปเป็นรัฐมนตรี ซึ่งต่อมาสำนักโฆษกฯ ได้แจ้งว่า?นางนฤมลได้ส่งใบลาในช่วงบ่ายเนื่องจากมีภารกิจส่วนตัว?จึงไม่สามารถมาแถลงข่าวได้
วันเดียวกัน ก่อนการประชุม ครม. นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล อดีตรองเลขาธิการนายกฯ ได้ปรากฏตัวที่ทำเนียบฯ เพื่อตรวจความพร้อมร้านซิกตี้พลัสเบเกอรี่ สาขาทำเนียบฯ ที่จะเปิดทดลองขายก่อนเปิดให้บริการจริงวันแรกในวันที่? 22 ก.ค. ซึ่งร้านดังกล่าวเป็นต้นแบบของคาเฟ่ของผู้พิการทุกประเภท ซึ่งนายกอบศักดิ์ได้ผลักดันให้เข้ามาเปิดสาขาในทำเนียบฯ
โดยนายกอบศักดิ์กล่าวว่า เคยไปอุดหนุนร้านซิกตี้พลัสเบเกอรี่ สาขาแรกที่โรงพยาบาลรามาธิบดี และได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้พิการ ซึ่งส่วนใหญ่ได้ระบุว่าไม่ต้องการให้ใครมาให้เงิน แต่ต้องการโอกาสในการประกอบอาชีพเพื่อหารายได้ จึงมีแนวคิดจะนำมาเปิดในทำเนียบฯ? โดยนายกฯ จะเป็นประธานเปิดร้านด้วย
เมื่อถามถึงอนาคตทางการเมืองของกลุ่ม 4 กุมาร นายกอบศักดิ์กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่คิดเรื่องนี้ ทุกคนถือโอกาสได้พักผ่อน ซึ่งจะหาโอกาสแบบนี้ได้ยาก.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"