พรก.เปิดทางชุมนุม ศบค.ต่อฉุกเฉิน1เดือนเว้นม.9/จี้รบ.ฟังม็อบมุ้งมิ้ง


เพิ่มเพื่อน    

  พลิกเกม! ศบค.ประกาศใช้มาตรา 9 พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในการควบคุมโควิด-19 โดยบริสุทธิ์ใจแต่เพียงอย่างเดียว เพื่อประโยชน์ทางด้านสาธารณสุขจริงๆ ไม่ห้ามชุมนุมทางการเมือง อยากก่อม็อบก็ให้ไปใช้กฎหมายปกติ "เทพไท" เจ้าเก่า ในฐานะรุ่นพี่ให้กำลังใจนักศึกษาประท้วงรัฐบาล

    เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ แถลงภายหลังศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค.ชุดใหญ่ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธาน ว่าเหตุผลความจำเป็นในการขยายพ.ร.ก.ฉุกเฉิน หลังจากเมื่อวันจันทร์ที่ 20 ก.ค. เราได้เชิญหน่วยงานความมั่นคง ประชาคมข่าวกรอง และเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุข ซึ่งคุณหมอทั้งหลายได้ยืนยันกับเราว่ายังต้องมีกฎหมายในลักษณะนี้ควบคุมต่อไปอีกระยะหนึ่งก่อน
    เหตุผลเพราะว่าจากสถานการณ์โลกปัจจุบัน จะพบว่ามีการติดเชื้อทั่วโลกเฉลี่ย 2 แสนคนต่อวัน ซึ่งยังเป็นสถานการณ์ที่ยังรุนแรงอยู่ และอยู่รายล้อมประเทศไทย เราจึงยังคงมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง และด้วยเหตุผลว่าขณะนี้อยู่ในช่วงที่เราจำเป็นต้องเปิดประเทศมากยิ่งขึ้น และวันนี้ในที่ประชุม ศบค.ได้ให้ความเห็นชอบในหลายๆ ประการที่เกี่ยวข้องกับการเปิดประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะการรับแรงงานต่างด้าว การเปิดให้มีการผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น การมีโปรแกรมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น การอนุญาตให้ต่างชาติมาจัดประชุมในประเทศไทย หรือแม้แต่อนุญาตให้มาถ่ายทำในประเทศไทย ทั้งหมดนี้เป็นมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่อยู่บนพื้นฐานความปลอดภัยทางด้านสาธารณสุข
    "เครื่องมือเพียงอย่างเดียวที่จะประกันได้ว่าสิ่งที่เราอนุญาตหรือผ่อนคลายไปในเชิงธุรกิจ เชิงเศรษฐกิจจะถูกชั่งน้ำหนักโดยความปลอดภัยทางด้านสาธารณสุข เครื่องมือเพียงอย่างเดียวในขณะนี้ที่มีอยู่คือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นที่ต้องขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินออกไปอีก 1 เดือน"
     พล.อ.สมศักดิ์กล่าวว่า เราใช้มาตรา 9 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินอย่างค่อนข้างที่จะเบาที่สุดแล้ว ถึงวันนี้เราไม่ได้มีการห้ามการออกนอกเคหสถานหรือเคอร์ฟิว และวันนี้สิ่งที่เราจะไม่ห้ามต่อไปคือเราจะไม่ใช้มาตรา 9 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาห้ามการชุมนุม เพื่อแสดงให้เห็นว่าการต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในเดือน ส.ค.ทั้งเดือนนี้มีเจตนาเพื่อใช้ในการควบคุมโรคโดยบริสุทธิ์ใจแต่เพียงอย่างเดียว การห้ามการชุมนุมจะไม่ปรากฏอยู่ใน พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่จะต่อออกไปอีก 1 เดือน แต่การชุมนุมทางการเมืองท่านต้องปฏิบัติตามกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นกฎหมายปกติ
    "ขอยืนยันตรงนี้ว่าเราจะเสนอ ครม.ในวันอังคารที่จะถึงนี้ในการต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไปอีก 1 เดือน โดยไม่มีมาตรการเรื่องการห้ามการชุมนุม เพื่อให้มั่นใจว่าเราใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพื่อประโยชน์ทางด้านสาธารณสุขจริงๆ"
    ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีการชุมนุมที่ผ่านมา ที่บางคนถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไปแล้ว จะเป็นอย่างไรต่อไป พล.อ.สมศักดิ์ตอบว่า ตรงนั้นต้องว่าไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แต่การต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉินในเดือน ส.ค.เราจะไม่นำประเด็นของการชุมนุมมาเกี่ยวข้องอีกต่อไปแล้ว ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ต้องขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะแจ้งข้อหาโดยใช้กฎหมายอื่นๆ หรือแม้กระทั่งใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินก็ตาม
พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพื่อมาตรฐานเดียวกัน  
    เมื่อถามว่า การต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในเดือน ส.ค.นี้ การชุมนุมการใช้ชีวิตของประชาชนในประเทศปกติ แต่กฎหมายนี้จะควบคุมคนที่เดินทางเข้าประเทศเพื่อกักตัว 14 วันเท่านั้น ถูกต้องหรือไม่ เลขาฯ สมช.ยืนยันว่า ถูกต้อง ถ้าพี่น้องประชาชนสังเกตดีๆ ในช่วงที่เราประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้น เพื่อใช้บังคับประชาชนส่วนใหญ่ไม่ให้ทำโน่นทำนี่ หรือปิดกิจการเพื่อประโยชน์ในการควบคุมโรคและจำกัดการเคลื่อนไหว แต่ระยะหลังๆ เป็นมาตรการผ่อนคลายจนถึงขณะนี้ระยะที่ 5 ไปแล้ว พ.ร.ก.ฉุกเฉินจะใช้ประโยชน์เพื่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ ไม่ได้มีมาตรการอื่นๆ ในเชิงบังคับประชาชนอีกต่อไป นั่นคือความแตกต่าง แต่เรายังคงจำเป็นต้องใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไปอีกสักอย่างน้อยก็ 1 เดือนก่อน เพื่อรอว่าจะมีกลไกอื่นๆ ที่จะมาทดแทน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกัน
    นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่าประเด็นดังกล่าวพิจารณาตั้งแต่ครั้งแรกของการประชุม ศบค.แล้ว แต่เกิดข้อกังวลว่าคนจะเคลื่อนย้ายไปในพื้นที่ที่ไม่ได้ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่โรคติดต่อไม่เหมือนกับการชุมนุม ไม่เหมือนกับการก่อเหตุความไม่สงบเมื่อปี 57-58 เพราะเหตุดังกล่าวเราสามารถกระชับพื้นที่ได้ แต่โควิด-19 ไปทางอากาศ เราไม่สามารถกระชับพื้นที่ได้? ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องประกาศทั่วประเทศ เพียงแต่ไม่เอามาตรการต่างๆ มาใช้ เพราะมาตรการที่มีอยู่ 6 มาตรการก็ยกเลิก สิ่งที่ได้ประโยชน์จากการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินคือ? การสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ ซึ่งไม่มีกฎหมายใดให้สนธิกำลังแบบนี้ได้  เพราะ พ.ร.บ.โรคติดต่อนั้นแพทย์เป็นคนใช้ ซึ่งไปสั่งหน่วยงานอื่น? เช่น? ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองไม่ได้ หากใช้ พ.ร?.บ.โรคติดต่อ ประเทศไทยมี 77 จังหวัด ก็จะมี 77 มาตรฐาน ด่านเข้า-ออกและด่านผ่อนปรน 70 ด่าน? ก็จะมี 70 มาตรฐาน และนายกรัฐมนตรีไม่สามารถลงไปสั่งงานละเอียดในแต่ละด่านได้
    "ดังนั้นการมี? พ.ร.ก.ฉุกเฉินจะเป็นมาตรฐานที่ใกล้เคียงกันที่สุด เพราะบางอย่างเรายอมให้ผู้ว่าราชการจังหวัดใช้ดุลพินิจได้ และสามารถบูรณาการการใช้กำลังเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจที่เข้ามาร่วมทำงานเป็นจำนวนมาก แต่ พ.ร.?บ.โรคติดต่อไม่สามารถไปสั่งงานทหารตำรวจเหล่านั้นได้" นายวิษณุระบุ
    อย่างไรก็ตาม การต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินยังคงเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของนักการเมืองฝ่ายค้านว่ามีไว้เพื่อไม่ให้มีการชุมนุม
    คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ระบุว่า สิ่งที่รัฐบาลควรจะต้องทำเร่งด่วนคือต้องรีบเปิดทุกธุรกิจ และสนับสนุนให้ประชาชนทำมาหากินได้อย่างสะดวก พร้อมเร่งมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจต่างๆ ออกมาเพื่อให้คนไทยมีกำลังซื้อ
    "ประชาชนรอคำชี้แจงจากนายกฯ อยู่นะว่าประโยชน์ของการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อประเทศชาติและประชาชนคืออะไร หรือใช้เพื่อประโยชน์ต่อความมั่นคงของตัวเอง ในการคุมนักศึกษาไม่ให้ออกมาเคลื่อนไหวเท่านั้น ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินทันที" ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยกล่าว
รัฐบาลสร้างความเกลียดชัง
         ด้าน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้คนไทยเดือดร้อนแสนสาหัสจากสภาพเศรษฐกิจที่ตกต่ำ สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ควรทำมากที่สุดคือการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับคนไทยและนักลงทุนต่างชาติ ว่าประเทศไทยสามารถควบคุมโควิดได้ และหากมีปัญหาเรื่องโรคติดต่อรัฐบาลก็พร้อมรับมือ ไม่ใช่ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินมาข่มขู่ ทำลายความเชื่อมั่นของประเทศ และเป็นอุปสรรคต่อการทำธุรกิจค้าขายของประชาชนอยู่ในขณะนี้
         “หากรัฐบาลยังยืนยันที่จะต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไปตามมติ ศบค. ผมเชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศจะต้องมีคำครหาต่อ พล.อ.ประยุทธ์อย่างแน่นอน ว่าการต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินมีประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนอย่างไร นอกจากการบังคับใช้เพื่อประโยชน์ความมั่นคงของตัวเอง และควบคุมไม่ให้นักศึกษาออกมาเคลื่อนไหวเท่านั้น ดังนั้นพรรคเพื่อไทยจึงขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินในทันที หากยังดื้อดึงที่จะต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไปให้ได้ พรรคเพื่อไทยจะยื่นกระทู้สดหรือญัตติด่วนเพื่อให้นายกรัฐมนตรีมาชี้แจงเหตุผลกับสภาอย่างแน่นอน เพราะ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นอกจากจะไม่สร้างความปรองดองแล้ว ยังเพิ่มความเกลียดชังและสร้างความแตกแยกให้คนในชาติอีกด้วย”เลขาธิการพรรคเพื่อไทยกล่าว
        นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังพิจารณาจะดำเนินคดีหรือไม่ในเหตุการณ์ฉีกรูป พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ระหว่างร่วมการชุมนุมกับนายอานนท์ นำภา ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน พร้อมกลุ่มเยาวชนปลดแอก-Free YOUTH และสหภาพนักเรียนนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) ไปรวมตัวประท้วงหน้ากองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) กรณี พ.อ.หญิงนุสรา วรภัทราทร อดีตรองโฆษก ทบ.กล่าวหาว่าเป็นม็อบมุ้งมิ้ง รวมถึงกรณี ทบ.ใช้งบจัดซื้อเครื่องบินวีไอพี และใช้กฎหมายคุกคามประชาชน เมื่อช่วงเย็นวันที่ 20 ก.ค.
         ล่าสุด นายพริษฐ์ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว "เพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์ Parit Chiwarak" โดยระบุข้อความว่า "เอาสิครับ เอาให้รู้กันไปว่าประเทศนี้ฉีกรูปประท้วงผิดกฎหมาย แต่ว่าตีหัวคนจับคนร้ายไม่ได้"
    ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม ได้มีการพิจารณาญัตติด่วน ภายหลังมีการชุมนุมทางการเมืองของนิสิตนักศึกษา ซึ่งมีหลายพรรคการเมืองเสนอญัตติในลักษณะเดียวกัน
    อาทิ นายจักรพันธ์ พรนิมิตร ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ เสนอญัตติให้พิจารณาถึงกรณีม็อบนักศึกษา ปัจจุบันมีข้อเรียกร้องให้ยุบสภา ควบคุมการใช้อำนาจของรัฐบาล และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แม้ว่าสองข้อแรกจะเกี่ยวข้องกับฝ่ายบริหาร แต่ข้อสุดท้ายเกี่ยวข้องกับฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งมีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว ก็จะสามารถเปิดเวทีเพื่อแลกเปลี่ยนและรับฟังความคิดเห็นของนักศึกษาและเยาวชนได้ ซึ่งผมคิดว่าเป็นพลังบริสุทธิ์ที่มีความคิดที่ดีในการเปลี่ยนแปลงบ้านเมือง แต่จะเป็นในรูปแบบวิธีการใด ต้องให้สมาชิกแสดงความคิดเห็น
    นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้เสนอญัตติด่วนขอให้สภาผู้แทนราษฎรมีมติให้รัฐบาลรับฟังความเห็นของนิสิต นักศึกษา และเยาวชน ว่าการจำกัดเสรีภาพในการแสดงออกทั้งการพูด การพิมพ์ และการเขียน ทำไม่ได้ วันนี้มีการสื่อความหมายหลายแบบในโลกโซเชียล หลายเรื่องที่กลุ่มนักศึกษาเรียกร้องก็ยังไม่ได้รับการตอบสนอง โดยเฉพาะการแก้รัฐธรรมนูญ พวกเขาเคยมาแสดงความคิดเห็นใน กมธ.วิสามัญศึกษาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ เช่น เรื่องการเลือกตั้งและการให้อำนาจ ส.ว. โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งมองว่ากฎหมายตอนนี้ยังไม่เป็นธรรม
ส.ส.ทำตัวเป็นกองเชียร์
    ด้านนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เสนอญัตติด่วนให้มีการรับฟังความเห็นของนิสิตนักศึกษานอกรั้วสถาบันการศึกษา อภิปรายว่า รัฐบาลเข้ามาโดยไม่ชอบธรรม ไม่มีเสถียรภาพในการบริหารงานและการ์ดตกกับการบริหารงาน แต่ไม่เคยการ์ดตกกับการลิดรอนเสรีภาพของประชาชน ตั้งแต่ คสช. จนถึงปัจจุบัน หลายคนถูกติดตามตัวและถูกคุกคาม นิสิตนักศึกษาเหล่านี้ให้คุณค่ากับความเท่าเทียมของมนุษย์ และที่สำคัญคือต้องการเข้ามาเพื่อเปลี่ยนแปลงแก้ไขความผิดปกติของประเทศที่ผู้ใหญ่รุ่นเราสร้างเอาไว้
        นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เสนอญัตติให้สภาผู้แทนราษฎรเปิดพื้นที่ให้นิสิตนักศึกษาเข้ามามีส่วนร่วมในการหาแนวทางการแก้ปัญหาบ้านเมือง ว่าปัจจุบันมีปัญหาที่ส่งผลกระทบโดยตรงกับเยาวชนอีกมาก ทั้งปัญหาเชิงระบบ ไปจนถึงนโยบายของรัฐ ดังนั้นจึงจำเป็นที่ต้องเปิดโอกาสให้กับเด็กมาแสดงความคิดเห็น
    นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่ ส.ส.ทำตัวเป็นกองเชียร์หรือทำตัวเป็นฝ่ายค้านในเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมืองของนิสิตินักศึกษา คิดว่าไม่ถูกต้อง แต่เราต้องเปิดใจให้กว้าง หาสาเหตุว่าอะไรที่ทำให้เป็นแบบนี้
    เขากล่าวว่า ถ้าแยกแยะประเด็นเนื้อหาในการชุมนุม จะเห็นหลากหลายประเด็น ตนยอมรับว่ามีหลายประเด็นที่ถูกบิดผันให้ร้ายนิสิตนักศึกษาได้ หรือเป็นประเด็นที่ไม่ควรเคลื่อนไหว เนื่องจากเป็นประเด็นอ่อนไหวที่อาจสร้างความขัดแย้งใหญ่ในสังคม แต่ก็มีหลายประเด็นที่น่าสนใจ เช่น ประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ การบังคับใช้กฎหมายให้เป็นธรรม การแก้ไขปัญหาปากท้อง เหล่านี้มีน้ำหนักในการเคลื่อนไหว และคิดว่าสภาสามารถมีส่วนร่วมกับจุดนี้ได้ ตนจึงสนับสนุนให้มี กมธ.วิสามัญเพื่อรับฟังเรื่องนี้โดยเฉพาะ และการตั้ง กมธ.ดังกล่าวไม่ได้แปลว่าเป็นการตัดตอนหรือไม่ให้มีความเคลื่อนไหว ยังคงเคลื่อนไหวได้ แต่ต้องเป็นไปสิทธิตามรัฐธรรมนูญ
     นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า ต้องให้กำลังใจนิสิตนักศึกษา เพราะเป็นอนาคตของประเทศ และมีถ้อยคำอยากบอกกับนิสิตนักศึกษา ซึ่งเป็นบันทึกจากเหตุการณ์ 6 ตุลา ที่ระบุว่าถ้านักเรียนนักศึกษาเอาแต่ก้มหน้าอ่านตำรา แสงสว่างแห่งความธรรมจะไม่ปรากฏ
    นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายตอนหนึ่งว่า ตนในฐานะผู้นำนักศึกษารุ่นพี่ ขอให้กำลังใจกับนักศึกษา เยาวชนคนหนุ่มสาว ด้วยบทกลอนของนายเสถียร จันทิมาธร ว่า “ตื่นเถิดเสรีชน อย่ายอมทนก้มหน้าฝืน ดาบหอกกระบอกปืน หรือทนคลื่นกระแสเรา”
    ต่อมาเวลา 19.20 น. นายสุชาติ ตันเจริญ ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้สั่งปิดการประชุมและให้มีการประชุมต่อในวันรุ่งขึ้นเวลา 09.30 น.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"