‘หมอยง’เตือน อาหารแช่แข็ง อาจแพร่โควิด


เพิ่มเพื่อน    

 

ศบค.เผยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 3 ราย เดินทางกลับจากต่างประเทศ และอยู่ในสถานที่กักตัวของรัฐ เวียดนามช็อก! มีผู้ติดเชื้อในรอบ 3 เดือน "หมอยง" เตือนระวังอาหารแช่แข็งจากต่างประเทศอาจเป็นตัวการแพร่เชื้อ "อนุทิน" ลั่นเงินเสี่ยงภัย อสม.ต้องได้ 19 เดือน
    เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เผยแพร่ข้อมูลสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 3 ราย ในสถานที่กักตัวของรัฐ ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสม 3,282 ราย หายป่วยสะสม 3,109 ราย ผู้ป่วยรักษาอยู่ 115 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ทำให้ยอดสะสมคงที่ 58 ราย
    สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ จากซูดาน 1 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 23 ปี อาชีพรับจ้าง เดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม เที่ยวบินเดียวกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 18 ราย เข้าพักในสถานที่กักตัวของรัฐที่ จ.ชลบุรี และตรวจหาเชื้อในวันที่ 21 กรกฎาคม ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ
    รายที่ 2 และ 3 จากสหรัฐอเมริกา เป็นนักเรียนหญิงไทย อายุ 14 ปี และชายไทย อายุ 23 ปี อาชีพรับจ้าง เดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม เที่ยวบินเดียวกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า 4 ราย เข้าพักสถานที่กักตัวของรัฐที่กรุงเทพฯ และตรวจหาเชื้อในวันที่ 23 กรกฎาคม ผลตรวจพบเชื้อ โดยผู้ป่วยหญิงมีอาการเจ็บคอ และผู้ป่วยชายไม่มีอาการ
    สถานการณ์ทั่วโลก ยอดผู้ติดเชื้อรวม 15,939,175 ราย อาการรุนแรง 66,242 ราย รักษาหายแล้ว 9,723,365 ราย เสียชีวิต 642,622 ราย อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 1. สหรัฐอเมริกา จำนวน 4,248,327 ราย 2.บราซิล จำนวน 2,348,200 ราย 3.อินเดีย จำนวน 1,337,022 ราย 4. รัสเซีย จำนวน 800,849 ราย และ 5.แอฟริกาใต้ จำนวน 421,996 ราย ซึ่งประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 105 จำนวน 3,282 ราย ส่วนเที่ยวบินนำคนไทยที่ตกค้างกลับวันที่ 25 ก.ค. 3 เที่ยวบิน จำนวน 588 ราย และวันที่ 26 ก.ค. จำนวน 383 ราย
    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในเวียดนาม 1 คน เป็นชาวชาวเวียดนาม อายุ 57 ปี อาศัยอยู่ที่เมืองดานัง ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเชื้อในชุมชนรายแรกในรอบ 3 เดือน ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 416 คน
         เบื้องต้นยังไม่มีการเปิดเผยว่าเขาติดไวรัสได้อย่างไร ระบุเพียงว่าเขาไม่ได้ออกจากเมืองมาเกือบเดือนแล้ว แต่ได้เดินทางไปใช้บริการที่สถานพยาบาล 3 แห่ง และเข้าร่วมงานแต่งงานงานหนึ่ง โดยเจ้าหน้าที่ได้กักตัว 50 คนที่เขาใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
         ข่าวนี้มีขึ้นในช่วงที่เวียดนามเตรียมเปิดเที่ยวบินระหว่างประเทศอีกครั้ง หลังจากใช้มาตรการกักดูอาการอย่างเข้มงวด และมีการตรวจหาเชื้ออย่างทั่วถึง จนสามารถควบคุมยอดผู้ป่วยสะสมไว้ที่ 145 คน และไม่มีการติดเชื้อภายในชุมชนมานาน 100 วัน
    นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ เผยว่า เป็นที่น่าสังเกตว่ามีการระบาดโควิด-19 ในจีนเกี่ยวข้องกับตลาด ตั้งแต่เริ่มต้นที่อู่ฮั่น การระบาดในปักกิ่ง และการระบาดที่ต้าเหลียน (Dalian) มณฑลเหลียวนิง Liaoning การระบาดที่อู่ฮั่นก็เป็นตลาดค้าของสด อาหารทะเล และสัตว์มีชีวิต การระบาดที่ปักกิ่ง ตลาดซินฟาดี มีการพบเชื้อที่เขียงปลาแซลมอนนำเข้าจากเดนมาร์ก การระบาดล่าสุดตลาดที่ต้าเหลียนก็มีการพบเชื้อที่กุ้งที่ส่งมาจากเอกวาดอร์ ทำให้ทางการจีนต้องระดมเชิงรุกตรวจทั้งสิ่งแวดล้อม และคนเป็นแสนราย เพื่อป้องกันการระบาด
        การศึกษาพันธุกรรมสายพันธุ์ไวรัสจะบอกต้นตอแหล่งที่มาได้ดี แต่ไม่เห็นข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลที่มีอยู่ขณะนี้เป็นข้อเตือนใจการซื้ออาหารแช่แข็ง โดยเฉพาะที่มาจากต่างประเทศ การจับต้อง การเตรียมอาหารจะต้องล้างมือให้สะอาด ไม่จับต้องใบหน้า ระวังสัมผัสกับอาหารอื่น ควรบริโภคสุก ป้องกันไว้ก่อนเพื่อกันการระบาด เชื้ออาจจะมากับอาหารแช่แข็ง และเชื้อจะอยู่ได้ตลอดการแช่แข็ง
ค่าตอบแทนอสม.19เดือน
    นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวที่สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเตรียมตัดงบค่าตอบแทน อสม. 500 บาท จาก 19 เดือน เหลือเพียง 6 เดือน ว่าเราตั้ง ศบค.ขึ้นมาตั้งแต่เดือนมีนาคมประกาศโควิด-19 เป็นโรคติดต่อร้ายแรง และ พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท
    โดยกระทรวงสาธารณสุขได้รับการจัดสรรงบมา 4.5 หมื่นล้านบาท และผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขทุกฝ่ายได้หารือกันอย่างละเอียดเรียบร้อยรอบคอบแล้ว ควรจะต้องตอบแทนความเสี่ยงภัยของพี่น้อง อสม. ที่ช่วยให้ประเทศไทยปลอดภัยจากโควิด-19 มาถึงทุกวันนี้ และสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ที่ถือว่าเป็นผลงานที่สำคัญของ อสม.ทั่วประเทศ? และขอยืนยันว่าการจัดวงเงินตอบแทน อสม.ก็อยู่ในวงเงิน 4.5 หมื่นล้านบาท ไม่ได้ขอเงินเกินงบประมาณ
    ดังนั้นตนจึงไม่เห็นด้วยที่จะมีการปรับลดงบที่จะให้ อสม. เพราะเขาเป็นผู้เสี่ยงภัย และเป็นผู้ที่ทำให้สถานการณ์สงบจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ดังนั้นเมื่อสถานการณ์ดีขึ้น เราจะลืมกลุ่มบุคคลที่ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นได้อย่างไร
    รมว.สาธารณสุขกล่าวว่า การพิจารณาของหน่วยงานที่ไม่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการดูแลรักษาสุขภาพของพี่น้องประชาชน และตัดสินใจมาแบบนี้ ตนต้องใช้สิทธิ์ ในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และยังมีความเชื่อว่ายังมีเพื่อนใน ครม. มีพรรคการเมือง?ร่วมรัฐบาล หรือแม้กระทั่งพรรคร่วมฝ่ายค้านจะช่วยกันปกป้องและดูแลเรื่องเงินตอบแทน อสม.ให้มากที่สุด ขณะที่สภาผู้แทนราษฎรซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชนที่ประกอบด้วยฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ก็สนับสนุนตามแนวทางนี้ ดังนั้นคนที่จะมาตัดจะมายุ่งอะไร รู้ได้ยังไงว่าให้แค่นี้พอแล้ว รู้หรือไม่ว่าเขาทำงานหนักแค่ไหน รู้หรือไม่ อสม.เสียชีวิตไปกี่คน เจ็บป่วยไปกี่คน เขาพิการไปกี่คน เพราะฉะนั้นคนที่ทำหน้างาน ประชุมอยู่เฉยๆ มันคนละบัญชีกัน
    เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะต้องทำความเข้าใจกับสภาพัฒน์ ที่มีกระแสข่าวว่าจะตัดงบจาก 19 เดือน เหลือเพียง 6 เดือนหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ในเมื่อสภาพัฒน์เสนอมาอย่างนี้แล้ว ก็จะต้องคุยกันใน ครม. เพราะงบประมาณทั้งหมดจะต้องผ่าน ครม. และตนเองก็ต้องปกป้องเต็มที่ และต้องนำเสนอเข้า ครม.เพื่อให้ทุกคนได้ทราบเหตุผล และอย่าเอางบของ อสม.ไปเทียบกับค่าตอบแทนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพราะเป็นเรื่องของคนละกระทรวงและคนละภารกิจ
    "หากเป็นเช่นนั้น ผมก็ต้องถามกลับว่าทำไมไม่เอากำนันและผู้ใหญ่บ้านมาทำหน้าที่ อสม. ซึ่งตอนนี้ทราบว่ามีการพิจารณา?ให้ค่าตอบแทนเสี่ยงภัย อสม.จำนวน 7 เดือน แต่ผมยืนยันจะพยายามผลักดันให้ได้ 19 เดือน ตามกรอบระยะเวลาของ พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ที่เริ่มต้นตั้งแต่ มี.ค.63-?ก.ย.64 ซึ่งอะไรมีปัญหาก็แก้ไป ไม่ควรไปตัดสิทธิ์?ของประชาชน" นายอนุทินกล่าว.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"