‘โควิด’ทั่วโลกสยอง! ป่วยเกือบ3แสน/วัน


เพิ่มเพื่อน    

 

ศบค.เผยมีผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 2 คนในสถานกักตัว หนึ่งในนั้นเป็นนักฟุตบอลสโมสรบุรีรัมย์ชาวเซอร์เบีย ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกสยองหนัก ติดเชื้อเพิ่มวันเดียวเกือบ 3 แสนคน แพทย์เป็นห่วงรอบประเทศไทยวิกฤติ เวียดนาม อินโดฯ ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น ป่วยพุ่งกระฉูด เตือนเปิดเฟส 6 เสี่ยงสูง

    เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2563 ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)? หรือ ศบค. ได้เผยแพร่รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาด?ของโรคโควิด-19 ในประเทศว่า พบผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้น 2 ราย โดยเป็นชาวต่างชาติที่มาจากประเทศเดนมาร์ก เป็นเพศชายอายุ 41 ปี สัญชาติฟินแลนด์ อาชีพวิศวกร เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ และมาจากประเทศเซอร์เบีย เป็นเพศชาย อายุ 29 ปี อาชีพนักกีฬาฟุตบอล โดยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลบุรีรัมย์ ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 3,312 ราย รักษาหายเพิ่ม 10 ราย หายป่วยสะสม 3,135 ราย กำลังรักษาอยู่ 119 ราย โดยวันนี้ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต ซึ่งผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 58 ราย
    สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 283,476 ราย ผู้ติดเชื้อสะสม 17,757,496 ราย? เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 6,243 ราย เสียชีวิตสะสม 682,998 ราย โดยประเทศที่มีผู้ติดเชื้ออันดับของโลกยังคงเป็นประเทศสหรัฐอเมริกา มีผู้ติดเชื้อสะสม 4,705,889 ราย ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 70,904 ราย เสียชีวิตสะสม 156, 747ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 1,462 ราย รองลงมาเป็นประเทศบราซิล มีผู้ติดเชื้อสะสม 2,666,298 ราย ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 52,509 ราย เสียชีวิตสะสม 92,568 ราย 1,191 เสียชีวิตเพิ่มขึ้น  ในขณะที่ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดในเอเชียคือประเทศอินเดีย มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดอันดับ 3 ของโลก มีผู้ติดเชื้อสะสม 1,697,054 ราย ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 57,704 ราย เสียชีวิตสะสม 36,551 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 756 ราย
    ส่วนประเทศในอาเซียนที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดคือประเทศอินโดนีเซีย มีผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 108,376 ราย ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 2,040 ราย เสียชีวิตสะสม 5,131 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 73 ราย สำหรับประเทศไทยมีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ในอันดับ 108 ทั้งนี้ผู้ป่วยที่หายแล้วทั่วโลกสะสมอยู่ที่ 11,160,054  ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น 222,304 ราย
     รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า ข้อมูลดังกล่าว ชัดเจนว่าการแง้มประตูให้มีการเดินทางจากต่างประเทศเข้ามานั้นมีความเสี่ยงสูง เพราะโรคโควิด-19 ระบาดอย่างรุนแรงทั่วโลก ไม่มีที่ใดจะปลอดภัย 100%
         "รัฐครับ...ความเสี่ยงสูงมากครับ เฟสห้าที่ท่านเปิดให้นักธุรกิจ นักลงทุน ผู้เชี่ยวชาญต่างๆ...เราก็เห็นหลักฐานนี้แล้วว่ามีโอกาสติดเชื้อจริงหากยังยืนยันปลดล็อกเฟส 6 แรงงานต่างด้าวเป็นแสนคน นึกแล้วหนาวแทนครับ ภาวนาให้ระบบคัดกรองโรค กักตัว และติดตาม เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เคร่งครัด และไม่หลุด      ขอให้ทุกคนป้องกันตัวเองเสมอ ปลอดภัยกันทุกคน" รศ.นพ.ธีระกล่าว
    ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่า การระบาดของโควิด-19 ระลอก 2 ระลอก 3 ประเทศในเอเชีย หลายประเทศคุมการระบาดได้ดี แต่ก็ระบาดใหม่ก็เกิดขึ้น
    ขณะนี้ประเทศญี่ปุ่นมีผู้ป่วยวันละนับพันราย ฮ่องกงที่เดิมควบคุมได้ดี ก็มีผู้ป่วยวันนั้นนับร้อย ประเทศจีนก็ระบาดใหม่ที่เมืองต้าเหลียน เวียดนาม ไม่มีการระบาดเกือบ 100 วัน ก็เกิดการระบาดใหญ่จนได้ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 คน ถึงกับต้องมาปิดเมืองใหม่  อินโดนีเซียมีผู้ป่วยวันละหลายพันคน ฟิลิปปินส์ก็มีผู้ป่วยวันละเป็นพัน
         ผู้ป่วยทั่วโลก ขณะนี้ 4-5 วัน หนึ่งล้านคน ที่สำคัญในแอฟริกากำลังอยู่ขาขึ้นอย่างแรง และทำให้ในยุโรปเกิดรอบ 2 ประเทศไทยไม่มีผู้ป่วยภายใน จะรักษาสถิติไปได้อีกนานเท่าใด ทุกคนต้องช่วยกัน ดูแลสุขอนามัย ล้างมือใช้แอลกอฮอล์เจลเป็นนิจ ใส่หน้ากากอนามัยเมื่อออกจากบ้าน กำหนดระยะห่างของบุคคลและสังคม  เพื่อรักษาสถิติให้ได้นานที่สุด
    ผู้ว่าราชการจังหวัดโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 1-15 สิงหาคมนี้ นอกจากนี้ ขอความร่วมมือให้ประชาชนหยุดอยู่บ้านอย่างน้อย 2 สัปดาห์ หรือหลีกเลี่ยงการเดินทางออกนอกบ้านโดยไม่จำเป็น หลังจังหวัดโอกินาวามีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 71 ราย รวมมีผู้ติดเชื้อทั้งหมด 395 ราย ในจำนวนนี้เป็นทหารสหรัฐที่ประจำการอยู่ในฐานทัพถึง 248 นาย
    เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ฉบับที่ 13 มีเนื้อหาสรุปว่า แม้สถานการณ์ของประเทศไทยในการควบคุมโควิดมีแนวโน้มดีอย่างต่อเนื่อง แต่สถานการณ์ในต่างประเทศยังรุนแรงอยู่ และเนื่องจากการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ รวมถึงการเปิดให้มีการเดินทางเข้ามาจากต่างประเทศ จึงจำเป็นเพื่อปกป้องความมั่นคงปลอดภัยทางด้านสาธารณสุข อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และมาตรา 11 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน นายกฯ จึงออกข้อกำหนดดังต่อไปนี้ การจัดกิจกรรมรวมกลุ่ม ให้มีกิจกรรมรวมกลุ่มหรือการใช้สิทธิของประชาชนเพื่อการชุมนุมใดๆ ย่อมกระทำได้ภายใต้ขอบเขตการใช้สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย โดยให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ตามกฎหมายว่าด้วยการชุมนุมสาธารณะ และให้ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดกิจกรรม จัดให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนดด้วย
    ข้อกำหนดระบุด้วยว่า การเปิดดำเนินการสถานที่และกิจกรรมต่างๆ เพิ่มเติม ให้สถานที่กิจการและกิจกรรมที่เคยผ่อนคลายให้เปิดดำเนินการไว้แล้วคงดำเนินการต่อไปภายใต้เงื่อนไข เวลา รวมทั้งมาตรการป้องกันตามที่ทางราชการกำหนดไว้เดิมและให้สถานที่กิจการและกิจกรรมดังต่อไปนี้สามารถเปิดดำเนินการได้ตามความสมัครใจและความพร้อม ประกอบด้วยการถ่ายทำรายการโทรทัศน์ ภาพยนตร์ ที่ได้เคยผ่อนคลายไว้แล้วให้สามารถดำเนินกิจกรรมได้ รวมถึงสถานที่ใช้เครื่องเล่นเป่าลม บ้านลม และให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ หรือผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจในการพิจารณาอนุญาตให้สนามชนโค สนามชนไก่ สนามกัดปลา หรือสนามแข่งขันอื่นในลักษณะทำนองเดียวกันที่ต้องอยู่ในเขตรับผิดชอบสามารถเปิดดำเนินการและให้บริการได้ตามความเหมาะสมเมื่อมีความพร้อม โดยผู้ที่รับผิดชอบในกิจกรรมและสถานที่ดังกล่าวต้องจัดให้มีการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค ระเบียบต่างๆ รวมทั้งกฎหมาย กฎ หรือระเบียบที่เกี่ยวข้อง ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจตรวจสอบดำเนินการ หากพบการกระทำที่อาจมีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค พนักงานเจ้าหน้าที่อาจให้คำแนะนำ ตักเตือน ห้ามปราม และมีอำนาจกำหนดช่วงระยะเวลาเพื่อให้ดำเนินการปรับปรุงแก้ไข รวมทั้งเสนอให้ผู้มีอำนาจมีคำสั่งปิดสถานที่ไว้เป็นการชั่วคราวและดำเนินคดีต่อผู้ฝ่าฝืนด้วยก็ได้
    ข้อกำหนดระบุถึงผู้ที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเพิ่มเติมอีกว่า ผู้ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าราชอาณาจักรตามข้อตกลงพิเศษ (special arrangement) ระหว่างหน่วยงานของรัฐ หรือบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ได้รับอนุญาตจากนายกรัฐมนตรีตามข้อเสนอและการตรวจสอบกลั่นกรองของคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ คณะกรรมการเฉพาะกิจดังกล่าวกำหนด และให้อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของพนักงานเจ้าหน้าที่หรือเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อและต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข เงื่อนเวลา หลักเกณฑ์และมาตรการป้องกันโรค.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"