สรุปดราม่า'เจนนี่-เก้า'ตกลงใครโกงใคร


เพิ่มเพื่อน    

 

          น่าจะเรียกว่าเป็นหนังคนละม้วน สำหรับประเด็นดราม่าของ เจนนี่-รัชนก สุวรรณเกตุ เจ้าของค่ายเพลงได้หมดถ้าสดชื่น กับ เก้า-เกริกพล เพชรรัตน์ หนุ่มน้อยที่สร้างชื่อจากรายการ The Voice Kid Thailand ซีซั่น 5 และได้ร่วมฟีเจอริ่งในเพลงเลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว คู่กับ ลิลลี่-นารีนาท เชื้อแหลม จนยอดวิวถล่มทลายกว่า 349 ล้านวิว ซึ่งประเด็นที่เกิดขึ้นมาจากที่ทางหนุ่มเก้าได้ออกเผยถึงเรื่องส่วนแบ่งที่ไม่เป็นธรรม ทั้งเงินค่าตัวและค่ายอดวิวยูทูบในเพลงเลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว

          ซึ่งหลังมีประเด็นร้อนเกิดขึ้น ทาง เจนนี่ รัชนก ได้ออกมาเคลียร์เรื่องการตกลงกับ เก้า เกริกพล  พร้อมนำข้อความแชทมาลงในเฟซบุ๊กของตัวเอง โดยระบุว่า “ค่ายเพลงได้หมดถ้าสดชื่น ไม่เคยโกงค่าตัวใครนะคะ อีกอย่างค่ายก็เคยชวนน้องมาเป็นศิลปินในค่าย แต่ตอนนั้นน้องได้ปฏิเสธไป ทางเราก็ไม่ว่าอะไรเพราะมันเป็นสิทธิของน้อง แต่ปัญหาเกิดขึ้นหลังจากที่คุณพ่อของน้อง โทรมาขอแบ่งยอดวิว 30% จากรายได้ด้วยคำพูดที่ไม่เหมาะสม ตอนนั้นก็ยอมรับว่าตกใจมากที่คุณพ่อของน้องพูดจาไม่ค่อยดีนัก ซึ่งทางค่ายตอบไปว่าให้ไม่ได้เพราะไม่ได้ตกลงกันตั้งแต่แรกแต่ถึงแม้ว่าทางค่ายไม่แบ่งค่ายอดวิวให้น้องก็จริง ตอนเพลงดังใหม่ๆ ก็เคยโอนเงินไปให้เพิ่ม 20,000 บาท แต่ทางน้องไม่สบายใจที่จะรับและโอนคืนมาโดยที่น้องไปหาเลขบัญชีมาจากไหนก็ไม่รู้

          เราไม่เคยนิ่งเฉยกับน้องเพราะน้องเป็นเด็กน่ารัก ทุกวันนี้ยังเสียดายที่น้องไม่ได้อยู่ในค่าย มีงานรีวิวเข้ามาเราเคยขายงานน้องให้โดยไม่หักค่านายหน้าเป็นจำนวนเงิน 100,000 บาท มีงานคอนเสิร์ตเข้าก็ขายงานให้น้องตลอด แต่เนื่องจากน้องอยู่กทม. เจ้าภาพจึงสู้ราคาไม่ได้ เพราะต้องมีค่าเดินทางเพิ่ม เราจึงไม่ได้ออกงานคู่กันเลย ทั้งนี้ทั้งนั้น ที่มีผู้ใหญ่ฝั่งน้องโทรไปให้ข้อมูลที่เป็นเท็จกับเพจตลาดล่าง แทนที่จะมาพูดกับทางเราตรงๆ เพราะตอนเกิดปัญหาใหม่ๆ ทางเราเคยโทรไปเพื่อจะเจรจาแล้วแต่ทางฝั่งน้องไม่รับสาย และไม่โทรกลับอีกเลย ติดต่องานไปช่วงหลังๆ น้องก็ไม่ค่อยตอบ จนกระทั่งน้องลบเพื่อนในเฟซบุ๊กไป เราก็ไม่ติดต่อกันอีกเลย

          จนถึงวันนี้วันที่ค่ายเราประสบปัญหามากมาย ทางผู้ใหญ่ของน้องเลือกที่จะใช้เพจตลาดล่าง เพจที่โจมตีเรามาตลอด ในการเป็นสื่อเพื่อออกมาให้การเท็จ เพราะผู้ใหญ่ฝั่งน้องรู้ดีถ้าเล่นทางเพจนั้นจะมีคนเข้าข้างอย่างแน่นอน ทำไมพวกท่านไม่มาคุยกันตรงๆ ทำไมใช้วิธีแบบนี้ เพราะอย่างน้อยที่ผ่านมาเราให้เกียติน้องทุกครั้งที่เจอน้องมาโดยตลอด ทำไมพวกท่านเลือกใช้ช่วงเวลาที่เรากำลังอ่อนแอ เลือกเพจที่จ้องแต่จะทำร้ายเราในการเป็นสื่อกลาง ตอนแรกอยากนิ่งเฉยเพราะเราเหนื่อยมากพอแล้วกับทุกปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ตอนนี้พวกคุณกำลังใส่ร้ายเรา เราจึงขออนุญาตออกมาปกป้องตัวเอง

          ส่วนดราม่าอื่นๆ ปล่อยให้เป็นไปตามกระแส คำตัดสินจะออกมายังไงค่อยว่ากัน เราทำดีที่สุดแล้ว ผิดก็ว่าไปตามผิด เราพร้อมแก้ไขในสิ่งที่ผิดพลาดอย่างแน่นอน”

 

 

          และล่าสุดเมื่อเรื่องราวยังลุกลามบานปลาย ทำให้ เจนนี่ รัชนก ได้ออกมาโพสต์ข้อความแจ้งนัดกับสื่อมวลชนว่าจะมีการแถลงชี้ประเด็นต่างๆ ในวันที่ 4 สิงหาคม ก่อนขอเลื่อนมาเป็นวันที่ 2 สิงหาคม และสุดท้ายเจ้าตัวตัดสินใจไลฟ์สดผ่านเพจได้หมดถ้าสดชื่นในวันที่ 1 สิงหาคม แทน

          โดยใจความสำคัญในการแถลงครั้งนี้ ก็ยังคงเป็นประเด็นเรื่องโกงค่าตัว ที่เจนนี่เผยว่าไม่เป็นความจริง ยืนยันไม่เคยโกงใคร  และเงิน 70 : 30 เป็นเรื่องข้อตกลง หากมาอยู่ในค่ายจะให้ตามนี้ ที่ไม่ให้ เพราะน้องไม่ได้มาอยู่ในค่าย เรื่องสัญญาใจก็ไม่เป็นความจริง แต่เป็นข้อเสนอที่ยื่นให้ก่อนทำเพลงว่า ถ้าน้องเก้าเป็นศิลปินค่ายตนเองก็จะแบ่งยอดวิวให้ 30% ทุกเพลง เรื่องค่าตัว 3 พันบาท  เป็นข้อตกลงตอนที่จะให้มาอยู่ในค่าย ตอนที่ค่ายยังไม่ดังและยังไม่ได้ปล่อยเพลง ถ้าเก้ามาอยู่ค่ายเพลงแล้ว แต่ยังไม่มีงาน ก็จะแบ่งเงินจากค่าตัวของตนเองให้ 3,000 บาท เหมือนศิลปินในสังกัดทั่วไป

          ปัญหาที่เกิดขึ้น เจนนี่ ชี้แจงว่า มาจากในโซเชียล ที่น้องออกมาไลฟ์ว่าตนเองไปด่าพ่อน้อง “หลังเกิดเรื่องเราไม่ได้คุยกัน พ่อน้องไม่เคยรับโทรศัพท์เราเลย  หนูติดต่อพ่อไปตลอด แต่พ่อเลือกที่จะไม่รับสาย ซึ่งการที่พ่อออกมาถามว่าร้อยล้านวิวแล้วไม่เคยคิดถึงน้องบ้างเหรอ เราเข้าใจว่าเป็นเรื่องผลประโยชน์ โดยเราตอบไปว่า เรื่อง 30เปอร์เซ็นต์ น้องไม่ได้เพราะน้องไม่ได้อยู่ในค่าย ก่อนหน้าเพลงดังเราออกรายการทีวีด้วยกันตลอด จนเพลง 100 ล้านวิว พ่อก็เลยโทรมา เรื่องก็เลยเกิดขึ้น

          เราขอบคุณน้องมาตลอด และโทรหาน้อง น้องก็ไม่รับ เราโอนเงินไป 2 หมื่น เพราะตนเองเพิ่งได้เงินค่ายอดวิวจากยูทูบได้เดือนเดียว และที่โอนให้เพราะรู้สึกไม่สบายใจ ที่พ่อเก้าบอกค่าตัว 10,000 บาทมันน้อยไป แต่น้องบอกว่า ไม่รับ ไม่สบายใจที่จะรับเงิน โดยทางเรายืนยันว่า เราอยากให้เป็นค่าน้ำใจ ส่วนเรื่องเงินค่าตัว 500 บาทจากการไปออกรายการ ถ้ารายการไหนได้ 10,000 บาท เป็นไปไม่ได้ที่จะให้น้อง 500 บาท แต่มีบางรายการที่ได้น้อยกว่า 10,000 บาท ตนเองก็ให้ 500 บาทจริง แต่ให้ตามสมเหตุสมผล เพราะบางรายการก็ได้แค่ไม่กี่พัน ซึ่งการไปออกรายการไปเพื่อโปรโมทไม่ได้หวังค่าตัว”

          ก่อนจบไลฟ์ เจนนี่ รัชนก ได้ขอโอกาสทุกคนให้ได้กลับมาทำงานเหมือนเดิม และเชื่อว่าในอนาคตตนเองสามารถพัฒนาไปได้ไกลกว่านี้ ส่วนหลังจากนี้ก็คงต้องรอดูว่า ทางน้องเก้าและครอบครัว จะออกมาชี้แจงยังไงต่อไป

 

 

 

 

 

ขอบคุณภาพจากอินสตาแกรม @janey_suwannaket ,เฟซบุ๊กน้องเจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น และเฟซบุ๊กเกริกพล เพชรรัตน์


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"