'อัษฎางค์' มีคำตอบ'ธนาธร'ตัดงบราชการในพระองค์ปกป้องหรือโจมตีสถาบันฯ?


เพิ่มเพื่อน    


21 ส.ค.63 - นายอัษฎางค์ ยมนาค นักประวัติศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เรื่อง “ธนาธรปกป้องหรือโจมตีสถาบันฯ? มีเนื้อหาดังนี้
ก่อนอื่นขอบอกว่า ผมไม่ได้บอกว่า ธนาธรปกป้องหรือโจมตีสถาบันฯ แต่คนยี่ห้อธนาธรนั้น ทั้งเขาและเรา รวมทั้งคนไทย รู้กันอยู่แกใจ ว่ายี่ห้อนี้ ปกป้องหรือโจมตีสถาบันฯ
มีคนถามมาตลอดว่า เห็นคนแชร์กัน โดยโจมตีว่า ทำไม ประชาชนลำบากยากจน แต่รัฐบาลเอางบประมาณแผ่นดินจากเงินภาษีของประชาชน ไปถวายให้ในหลวงใช้ตั้งปีละ 3 หมื่นล้าน ในหลวงคนเดียวใช้เงินอะไรตั้ง 3 หมื่นล้าน
คือพูดกันตรงๆ แบบที่ชาวบ้านโดนหลอก ให้เมาส์กันสนั่นเมืองว่า ในหลวง ผลาญเงินภาษีของประชาชน
วันนี้มีคำตอบ !
............................................................................
ธนาธรรู้อยู่เต็มอก เหมือนพวกเราอีกจำนวนมาก ว่า งบประมาณในหน่วยราชการในพระองค์ ไม่ไช่เงินที่ถวายให้ในหลวงใช้ส่วนตัว แต่เป็นงบที่หน่วยงานนั้นใช้
ขอยกตัวอย่าง หนึ่งในหน่วยงานที่สังกัดอยู่ในหน่วยราชการในพระองค์ คือ กรมทหารราบ ร1 ร11 ซึ่งก็คือหน่วยงานของกองทัพ ที่ย้ายจากกลาโหม มาเป็นหน่วยงานส่วนพระองค์
แล้วหน่วยงานกองทัพต้องใช้เงินงบประมาณสูงเป็นปกติอยู่แล้ว ยกตัวอย่างเช่น มันมีงบซื้ออาวุธ แต่แทนที่มันจะโชว์ที่กลาโหม มันก็เปลี่ยนมาโชว์เป็นงบประมาณของหน่วยราชการในพระองค์
คนเลยเอาไปบิดเบือนได้ง่ายว่า งบประมาณแผ่นดินที่มาจากภาษีของประชาชน ถวายให้ในหลวงใช้(ส่วนตัว) สูงมาก ผิดปกติ
พอเข้าใจมั้ยครับ
คือเงินงบประมาณในส่วนนี้ คืองบของหน่วยราชการในพระองค์ ไม่ใช่เงินที่ถวายให้ในหลวงใช้ส่วนพระองค์
............................................................................
คนไทยเป็นคนอ่านน้อย อย่างที่เขาพูดกันว่าอ่านไม่เกิน 8 บรรทัด แต่เนื้อหาที่ธนาธรพูดมายาวเป็น 80 บรรทัด คนที่อ่านแค่ 8 บรรทัดแรก ก็จะจบด้วยความเข้าใจผิดว่า
งบประมาณแผ่นดินที่มาจากภาษีของประชาชน ถวายให้ในหลวงใช้(ส่วนตัว) สูงมาก ผิดปกติ
แต่ถ้าอ่านครบ 80 กว่าบรรทัด ก็จะเห็นข้อความที่ธนาธรพูดอย่างสวยงามว่าเข้าใจ ว่างบประมาณตรงนั้นในหลวงไม่ได้เอาไปใช้จ่ายส่วนพระองค์ แต่เป็นงบของ”หน่วยราชการในพระองค์ ” ซึ่งชื่อ”หน่วยงานในพระองค์” ไม่ได้หมายความว่า เป็นเงินที่เอาไว้ใช้ส่วนตัว แต่เป็นหน่วยงานราชการหน่วยงานหนึ่ง เหมือนหน่วยงานราชการทั่วไป แค่มีชื่อลงท้ายว่าหน่วยงานราชการ”ส่วนพระองค์” เท่านั้น
เพราะฉะนั้นพออ่านถึง 80 บรรทัดจะเจอข้อความนี้ ลองอ่านกันดู
............................................................................
ธนาธร...
“ท่านประธานครับ เหตุผลที่ผมถามคืออย่างนี้ครับ ทีแรกผมคิดว่าเมื่อปี พ.ศ. 2563 ที่มีการผ่าน พ.ร.ก.โอนอัตรากำลังพลฯ (พระราชกำหนดโอนอัตรากำลังพลและงบประมาณบางส่วนของกองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม ไปเป็นของหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นส่วนราชการในพระองค์ พ.ศ. 2562) ราบที่ 11 และราบที่ 1 จากกระทรวงกลาโหมให้กับส่วนราชการในพระองค์
“ผมเข้าใจว่างบฯ ที่เพิ่มขึ้นของส่วนราชการในพระองค์ คือการรับงบประมาณของราบที่ 1 และราบที่ 11 มาจากกระทรวงกลาโหม”
............................................................................
ข้อความตรงนี้ของธนาธร (ขีดเส้นใต้ไว้เลย) ชี้ให้เห็นว่า เขาเข้าใจว่า”งบฯ ที่เพิ่มขึ้นของส่วนราชการในพระองค์ คือการรับงบประมาณของราบที่ 1 และราบที่ 11 มาจากกระทรวงกลาโหม”
แล้ว สาเหตุที่งบประมาณในส่วนของ หน่วยราชการในพระองค์  สูง ก็เพราะเป็นส่วนหนึ่งของงบประมาณของกองทัพ เพียงแต่ปัจจุบันถูกย้ายออกจากกองทัพไปสังกัด หน่วยงานราชการส่วนพระองค์
ส่วนข้อความในท่อนต่อไป ธนาธนพูดว่า....
............................................................................
“เพราะงบของกองทัพบกปีนี้ก็”ลดลง” แต่จากเอกสารของกระทรวงกลาโหม ผมพบว่าการโอนกำลัง โอนไปแต่บุคลากร แต่กระทรวงกลาโหมยังถืองบประมาณไว้อยู่ ซึ่งก็คือปีละประมาณ 1,200 ล้านบาท ดังนั้นถ้าเป็นไปตามนี้หมายความว่า งบที่”เพิ่มขึ้น”เกิดจากส่วนราชการในพระองค์เอง”
ข้อความตรงนี้ ธนาธร พยายามจะบอกว่า ลดลง หรือ เท่าเดิม กันแน่ แกล้งพูดวกไปเวียนมา ให้คนอ่านสับสนรึป่าว
............................................................................
ใครอ่านดีๆ ก็คงเข้าใจดีว่า เมื่อแยก ราบ 1 และ ราบ 11 ออกจากกลาโหม ไปหน่วยงานราชการส่วนพระองค์แล้ว ทำให้งบประมาณในส่วนของ หน่วยงานราชการส่วนพระองค์เพิ่มขึ้น (ซึ่งต้องถือว่าเป็นเรื่องปกติ)
ส่วนที่ผิดปกติ (ตามความเห็นของธนาธร) คือกลาโหม เพราะงบประมาณของกลาโหม ยังคงเท่าเดิม
เพราะฉะนั้น ถ้ายึด”ตามความเห็นของธนาธร” งบประมาณในส่วนของ”หน่วยราชการในพระองค์  เป็นปกติ”
แต่ที่ผิดปกติคือ กลาโหม
เพราะฉะนั้น ธนาธร ต้องชี้เป้าให้คนจับตาหรือโจมตีก็แล้วแต่ ไปที่กลาโหม
ธนาธร กลับไปชี้เป้าให้คน”จับตาหรือโจมตีในหลวง” ผ่าน หน่วยงานราชการส่วนพระองค์ หรือไม่?
............................................................................
“ท่านประธานครับ เพื่อให้สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนทั้งชาติในภาวะวิกฤต เมื่อทุกหน่วยงานต่างพยายามตัดลดงบประมาณ เมื่อพี่น้องประชาชนและข้าราชการต่างก็ร่วมมือร่วมใจกันเสียสละ อดทน ต่อสู้ไปด้วยกัน หากส่วนราชการในพระองค์ยอมตัดลดงบประมาณลง ย่อมทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์สูงเด่นขึ้น เพราะเมื่อประชาชนมองมาก็จะเห็นได้ว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ก็ทรงร่วมทุกข์ร่วมสุขกับประชาชน”
ถ้าอ่านผ่านๆ มันดูเหมือนธราธรกำลังปกป้องสถาบันฯ
แต่อ่านดูดีๆ นี้มันไม่ใช่ธนาธร กำลังปกป้องสถาบันฯ แต่กำลังพูดให้ตัวเองดูดี ด้วยการชี้เป้าให้คนโจมตีสถาบันฯ หรือไม่?
เพราะอย่างที่ผมอธิบายไปแล้วว่า งบประมาณที่เพิ่มขึ้นในส่วนของหน่วยราชการในพระองค์  ความจริงคืองบเดิมของกระทรวงกลาโหม เพียงแต่ถูกโอนย้ายสังกัดจากกลาโหมไปเป็นหน่วยราชการในพระองค์
แปลว่างบประมาณในส่วนของหน่วยราชการในพระองค์  เป็นปกติ แต่ที่ผิดปกติ คืองบประมาณของกลาโหมที่ยังเท่าเดิม
แต่ธนาธร ใช้วิธี ยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัว หรือไม่?
ว่า งบประมาณในส่วนของหน่วยราชการเพิ่มขึ้น และในส่วนของกลาโหมก็เพิ่มขึ้น ทั้งๆ ที่ กลาโหมเท่านั้นที่เพิ่มขึ้น(ตามความเห็นของธนาธร)
............................................................................
“ท่านประธานครับ อย่างไรฝากสำนักงบประมาณนะครับ จาก chart (แผนภูมิ) ที่ผมได้นำเสนอให้ดูแล้วว่าในแต่ละปีตั้งแต่ปี 2561 ถึงปี 2564 มีการ revise (แก้ไขใหม่) งบประมาณเพิ่มขึ้นในอัตราที่น่าตกใจทุกปี
ผมเองก็เกรงว่าถ้าไม่โปร่งใส จะทำให้พระเกียรติเสื่อมเสีย ก็ฝากให้ท่านช่วยนำข้อความของผมไปถึงส่วนราชการในพระองค์ด้วย ด้วยความหวังดีนะครับ ขอบคุณครับ”
............................................................................
เมื่อธนาธรพูดว่าเข้าใจ แล้วทำไมยังเหมือนว่า ชี้เป้าให้คนโจมตี ทั้งกลาโหม และหน่วยงานราชการส่วนพระองค์ ซึ่งธนาธนน่าจะรู้อยู่ว่า ชาวบ้านจะเข้าใจผิดว่า เป็นงบประมาณที่ให้ในหลวงใช้ส่วนตัว
ธนาธรพูดหล่อๆ ว่า เป็นห่วงว่าประชาชนจะเข้าใจผิด จะทำให้ในหลวงเสื่อมเสียพระเกียรติ ซึ่งฟังเหมือนธราธรกำลังปกป้องสถาบันฯ
แต่ความจริงธนาธรกำลังชี้เป้าให้คนโจมตีสถาบัน หรือไม่?
............................................................................
หมายเหตุ ไม่ได้เจาะจงว่า ธนาธรคือไอ้โม่ง เพราะคำว่าไอ้โม่ง คือคนที่ปิดหน้า และทำกันเป็นขบวนการ แต่เอาธราธรมาเป็นตัวอย่าง เพราะสิ่งที่ธนาธรพูดออกมา ช่วยเปิดอธิบายและจุดประสงค์ของไอ้โม่ง
เรื่องมันยาวและเข้าใจยากสักหน่อย ด้วยคารมคมคายของคนรูปหล่อ เพราะฉะนั้นถ้าท่านอ่านรอบเดียวไม่เข้าใจ โปรดอ่านซ้ำ เพราะผมก็อ่านอยู่หลายรอบถึงเข้าใจว่า ธนาธรเล่นคำ หรือเล่นกล หรือเล่นใคร อยู่หรือไม่
https://www.facebook.com/382592748811072/posts/918985981838410/?extid=5tWByQFSoo9wjnWw&d=n
https://progressivemovement.in.th/article/1001/

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"