ระหว่างที่ต้องไหลไปตามน้ำ


เพิ่มเพื่อน    

        เห็นข่าวหน้าหนึ่ง ไทยโพสต์ ช่วงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (23 ส.ค.) ที่ได้อ้างอิงถึง แหล่งข่าว ด้านความมั่นคง ระดับนายกฯ รัฐมนตรีกลาโหม ปลัดกลาโหม ผบ.เหล่าทัพ ฯลฯ ถกกันไป-ถกกันมา ระหว่างดูบัญชีรายชื่อการโยกย้ายทหาร ถึงสถานการณ์การชุมนุมของบรรดา ม็อบ ต่างๆ แล้วนำไปสู่ข้อสรุปแบบสั้นๆ ง่ายๆ ประมาณว่า น้ำกำลังเชี่ยว-อย่าเอาเรือไปขวาง อะไรทำนองนั้น ก็ต้องถือว่า...น่าจะ โอเช พอสมควร...

                                    -----------------------------------------------

        คือจัดอยู่ในระดับ เล่นเป็น อยู่บ้าง...สำหรับการกำหนดกิริยา ท่าที ในแบบ แค่เฝ้าระวังอย่าให้มีการทำผิดกฎหมาย การปลุกระดมให้ใช้ความรุนแรง ด้วยการทำลาย เผาสถานที่ต่างๆ แบบฮ่องกงโมเดล และ ให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องเร่งชี้แจง ทำความเข้าใจกับครอบครัว สถาบันการศึกษา รวมทั้งค้นหาต้นตอการเผยแพร่ข้อมูล ฯลฯ อะไรต่อมิอะไรตามที่เนื้อข่าว ไทยโพสต์ ได้ระบุรายละเอียดเอาไว้ เพราะโดยแนวโน้มของการแฟลชม็อบ แฟลชแดนซ์ ของพวกเด็กๆ คราวนี้ ไม่น่าจะถึงกับต้องตื่นเต้ลล์ล์ล์ ตกอก ตกใจ อะไรมาก หรือไม่น่าจะถึงขั้น แดง-ไม่แดง...แต่ขอให้แรงเข้าว่า แบบที่เคยเป็นมา-เป็นไป อย่างครั้งก่อนๆ...

                                     ------------------------------------------------

        เพราะยังไงๆ...เขาก็คงหนักไปทาง เด็กๆ นั่นแหละเป็นหลัก แถมออกจะเป็นเด็กที่ค่อนข้างบอบบาง เปราะบาง ไม่ได้ถึงกับ ทนมือ-ทนตีน แบบเด็กๆ ยุคก่อนๆ และไม่น่าจะถึงกับเผาโน่น เผานี่ หรือไปถึงขั้นราดน้ำมันจุดไฟเผา ผู้ที่พูดจาผิดหู ผิดไปจากความปรารถนาและต้องการของตัวเอง แบบพวก กุมารฮ่องกง ที่อาจดูหนังจีนกำลังภายในมากมายเกินไปซักหน่อย แต่สำหรับเด็กๆ บ้านเรา อย่างมาก...น่าจะหนักไปทาง หนังเกาหลี ประเภทโรมันคาทอลิกซะมากกว่า เรียกว่า...ขนาดเรื่องที่จะแก้หมวดนั้น หมวดนี้ มาตรานั้น มาตรานี้ ยังหนีไม่พ้นต้องหันไปเจ๊าะๆ แจ๊ะๆ ซุบซิบ นินทา เถียงกันไป-เถียงกันมา ด่ากันไป-ด่ากันมา ถึงขั้นยกให้เป็น สตาลินทางเว็บไซต์ ไปโน่นเลย จนไม่น่าถึงกับต้องตกอก ตกใจ อะไรมาก...

                                    -------------------------------------------------

        พูดง่ายๆ ว่า...ถ้าหากผู้มีบทบาท อำนาจ หรือผู้นำรัฐบาล สามารถ ยืนระยะ ไปได้ถึงเดือนพฤศจิกง พฤศจิกา ปลายปง ปลายปีอย่างที่บรรดาพวก โห หรือ โหร เขาได้ทำนายทายทัก เอาไว้ก่อนหน้านี้ ก็น่าจะพอมี ลูกฮึด หรือน่าจะข้ามผ่านวิกฤติในลักษณะที่ว่านี้ได้ตามสมควร เพราะถ้าหากกระแสน้ำ กระแสความไหลหลากเริ่ม หายเชี่ยว ลงไปบ้าง โอกาสที่จะไสเรือแป๊ะ หรือเรือเหล็ก ออกอ่าว ออกทะเล กันอีกรอบ ไม่ถึงกับเรือล่มเมื่อจอดเอาดื้อๆ ก็น่าจะมีความเป็นไปได้อยู่มั่งไม่มาก-ก็น้อย ส่วนจะไปถึงท่าไหน ต่อท่าไหน หรือแล่นวนมา-วนไป ไม่คิดจะขึ้นฝั่งซักกะที อันนั้น...ค่อยไปว่ากันอีกครั้ง...

                                    --------------------------------------------------

        อย่างไรก็ตาม...สิ่งที่ออกจะน่าวิตก น่ากังวล อยู่บ้าง อาจไม่ได้เกี่ยวอะไรกับจุดเริ่มต้น หรือจุดที่ก่อให้เกิดอาการ แผ่นดินไหว ขึ้นมาในช่วงนี้ แต่น่าจะเกี่ยวกับ อาฟเตอร์ช็อก หรือสิ่งที่ตามมาหลังจากนั้นซะล่ะมากกว่า คือไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องข้อเรียกร้อง ไม่ว่าจะ 3 ข้อ หรือ 10 ข้อ ไปจนความฝง ความฝัน แบบฝันเปียก-ฝันแห้งใดๆ ก็แล้วแต่ แต่น่าจะเป็นเรื่องของ สภาวะแวดล้อม ที่อาจเป็น ตัวช่วย ให้บรรดาข้อเรียกร้องใดๆ ไม่ว่าจะโดยเด็ก โดยผู้ใหญ่ หรือโดยบรรดาคนแก่-คนชรา ที่อยู่เบื้องหน้า เบื้องหลัง ก็ตาม มันออกจะเป็นอะไรที่มี น้ำหนัก หรือออกจะเป็นเรื่อง เป็นราว ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ...

                                   ----------------------------------------------------

        ไม่ว่าจะเป็น อาฟเตอร์ช็อก ประเภท คดีบอส กระทิงแดง ที่ยังหามุมจบ หาจุดลงตัวเหมาะๆ ยังไม่เจอ จนตราบเท่าทุกวันนี้ ไปจนถึงประเภท บ่อนเฮียตี้ ตามด้วยเรื่อง เรือดำน้ำ ที่อาจดันมาดำในช่วงจังหวะใกล้จุดเกยตื้น แบบพอดิบ พอดี ฯลฯ อะไรต่อมิอะไรเหล่านี้นี่แหละ ที่อาจเป็นตัวช่วย หรือเป็นตัวส่งผลให้บรรดา ข้อเรียกร้อง ใดๆ ก็ตาม ล้วนแล้วแต่มี น้ำหนัก เพิ่มขึ้นและเพิ่มขึ้น ไปด้วยกันทั้งสิ้น ยิ่งโดยเฉพาะถ้าหากดันเกิดการ เจ๊ง ของธนาคาร สถาบันการเงิน ตามมาติดๆ ในอีกไม่กี่ปี กี่เดือน นับจากนี้ ลากยาวไปถึงปัญหาเงินกู้ เงินคงคลัง เงินอัดฉีด เยียวยา ฯลฯ ที่ไม่ว่าหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ หรือลูกทีมเศรษฐกิจใดๆ ก็ ไม่น่าจะเอาอยู่ ไปด้วยกันทั้งนั้น อันนี้นี่แหละ...ที่น่าขนหัวลุก ขนคอตั้ง เอาไว้ก่อนล่วงหน้า...

                                   ------------------------------------------------------

        คือถึงจะ ยืนระยะ ไปได้ไกลถึงเดือนพฤศจิกาฯ แต่ถ้าหากทุกสิ่ง ทุกอย่าง มันดัน เจ๊ง เอาตอนปลายปี สิ้นปี แถมปีหน้า ปีโน้น ยังมองไม่เห็น แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ เอาเลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าจะโหรอีทง อีที หรือ โหน ระดับไหน ก็คงช่วยอะไรไม่ได้ไปด้วยกันทั้งสิ้น โอกาสที่จะ ตาย...กับ...ตาย หรือโอกาสที่จะต้อง สับไพ่ใหม่ กันทั้งสำรับ ก็ใช่ว่าจะไม่มีเอาซะเลย เพราะทางออก ทางรอด ทางไป สำหรับ อาฟเตอร์ช็อก ในระดับนี้ มันคงหนีไม่พ้นต้องเปลี่ยนไพ่ทั้งสำรับ เปลี่ยนแนวทางเศรษฐกิจ การเมือง หรือแม้กระทั่งสังคม กันใหม่หมดนั่นแหละ ถึงจะพอ เอาอยู่ ได้มั่ง หรืออาจถึงเวลาที่ นักฆ่าแห่งลุ่มแม่น้ำมูล-น้ำชี ที่ ฆ่าทีมเศรษฐกิจ ตัวเองไปแล้วไม่รู้กี่ศพ ต่อกี่ศพ อาจต้องหันมาฆ่าตัวเอง หรือฆ่าตัวตาย กันไปตามสภาพ???

                                 --------------------------------------------------------

        ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก H. Jackson Brown. Jr.... “You can get by on charm for about 15 minutes. After that, you’d better know something. - คุณอาจใช้เสน่ห์เอาตัวรอดได้ราว 15 นาที แต่หลังจากนั้นก็น่าจะแสดงภูมิรู้อะไรออกมาบ้าง...”

                                  ------------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"