สธ.แจงผู้ป่วยจากสหรัฐติดเชื้อโควิดซ้ำ พบเป็นชิ้นส่วนสารพันธุกรรม ไม่มีโอกาสแพร่เชื้อ


เพิ่มเพื่อน    

26 ส.ค.63 - ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยว่า มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 1 ราย ในสถานที่กักตัวของรัฐ ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,403 ราย หายป่วยเพิ่ม 8 ราย  ยอดหายป่วยสะสมรวม 3,237 ราย มีผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาล 108 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมคงที่ 58 ราย สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ 1 ราย เดินทางมาจากอินเดีย เป็นหญิงไทยอายุ 38 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว เดินทางถึงไทยวันที่ 8 ส.ค. เที่ยวบินเดียวกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า 21 ราย เข้าพักในสถานที่กักตัวของรัฐจ.กรุงเทพฯ และตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 วันที่ 21 ส.ค.ผลตรวจพบเชื้อ พบว่ามีอาการ มีไข้ ไอ เจ็บคอ อ่อนเพลีย และจมูกไม่ได้รับกลิ่น สำหรับสถานการณ์ทั่วโลก ยอดผู้ติดเชื้อรวม 24,049,707 ราย รักษาหายแล้ว 16,599,143 ราย เสียชีวิต 823,266 ราย ซึ่งอัตราการเสียชีวิตในช่วงหลังถือว่าลดลง 

นพ.โสภณ​ กล่าวว่า ในช่วง 90 กว่าวันที่ไม่มีผู้ติดเชื้อภายในประเทศ แม้เราจะมีมาตรการผ่อนคลายกิจการต่าง แต่ยังไม่มีปัญหาใดเกิดขึ้นเราจึงต้องคงมาตรการป้องกันเหล่านี้ เนื่องจากในระยะถัดไปในเดือนต.ค.รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ปลอดภัย จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาจากประเทศที่มีการระบาดน้อยหรือประเทศที่ควบคุมโรคได้ดีเริ่มเข้ามา ทั้งเรื่องการทำธุรกิจ การรักษาพยาบาล การท่องเที่ยวในพื้นที่ปิดอย่างจำกัด ดังนั้นจึงต้องมีมาตรการต่างๆและคงมาตรการที่เข้มงวดนี้

เมื่อถามว่า เคสผู้ป่วยจากสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 25 ส.ค. พบว่าเคยมีประวัติป่วยเป็นโควิด-19 มาก่อนหน้านี้ และยังตรวจพบอีกครั้งเมื่อเดินทางกลับมาถึงประเทศไทย อยากทราบว่ารายนี้ผลการสอบสวนโรคเป็นอย่างไร นพ.โสภณ ​กล่าวว่า ผู้ที่ติดเชื้อและหายแล้วหลังจากออกจากโรงพยาบาล ก็มีโอกาสที่จะพบเชื้ออยู่ได้ แต่เป็นชิ้นส่วนของสารพันธุกรรมที่อาจหลงเหลืออยู่ในระบบทางเดินหายใจ แต่ไม่มีโอกาสในการแพร่เชื้อ ซึ่งการสอบสวนให้ชัดเจนต้องเก็บตัวอย่างเลือดมาตรวจดูภูมิคุ้มกัน ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการ ขณะเดียวกันคนที่อยู่ใกล้ชิดเราได้แนะนำให้สวมหน้ากากอนามัยและลดการสัมผัสกับผู้อื่น เพื่อความปลอดภัยสูงสุดในระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติม

ด้าน พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงมาตรการความปลอดภัยในการใช้บริการขนส่งสาธารณะว่า หลังระบบขนส่งสาธารณะอนุญาตให้มีผู้โดยสารเต็มจำนวน แต่ยังคงมาตรการคัดกรองที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง ในอาคารที่พักยังต้องเว้นระยะห่าง มีรอบของการทำความสะอาดที่เพิ่มมากขึ้น ส่วนอาคารปิดที่ใช้เครื่องปรับอากาศเราจะดูระบบระบายอากาศตามมาตรฐานที่กำหนด สำหรับยานพาหนะแบบปิดคือใช้เครื่องปรับอากาศ เรื่องการทำความสะอาดเป็นมาตรการที่กระทรวงสาธารณะสุขยังพูดคุยและให้ดูแลการทำความสะอาด

ที่สำคัญขอให้ลดของที่ไม่จำเป็นในยานพาหนะ และไม่แนะนำให้มีการเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มระหว่างเดินทาง ขณะที่คนขับรถจะมีการทำประวัติความเสี่ยง หากพบว่าไม่สบายจะอนุญาตให้หยุดงาน และขอฝากถึงผู้โดยสารทุกคนต้องปฏิบัติตามมาตรการ รวมถึงดูแลสมาชิกในครอบครัวที่ไปในพื้นที่สาธารณะ ควรลดการพูดคุย เลี่ยงการรับประทานอาหารขณะอยู่บนรถ เว้นระยะตัวเองจากผู้โดยสารอื่นๆ หากมีไข้ ไอ จาม ควรเสียสละตัวเองงดใช้บริการรถสาธารณะด้วย


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"