ลุงรับข่มขืน ด.ญ.พิการจนท้อง 7 เดือนอ้างทำโทษที่ขโมยเงิน เมียโต้ทั้งน้ำตาไม่เคยขู่คู่กรณี


เพิ่มเพื่อน    

26 ส.ค.63 - ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีครอบครัวหนึ่งใน ต.เมืองไผ่ อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ กลัวจะไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังจากที่ ด.ญ.เอ  หลานสาววัย 14 ปี ซึ่งเป็นเด็กพิการทางสมอง (ออทิสติก) ถูกนายชัย อายุ 65 ปี ผู้สูงอายุในหมู่บ้านเดียวกันข่มขืนกระทำชำเรา จนตั้งท้องได้ 7 เดือนกว่าจะรู้ นายชัยก็ยอมรับว่าได้กระทำจริง และเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน แต่นายชัยถูกปล่อยตัวชั่วคราว และมีคนได้ยินว่านายชัยไปพูดบอกชาวบ้านว่า ไม่กลัว ทำกับคนพิการแล้วไม่มีความผิด และอยู่ใช้ชีวิตอยู่ในหมู่บ้านตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำให้ครอบครัวผู้เสียหายกังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม พร้อมยืนยันให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้กระทำให้ถึงที่สุด เพราะหลานเป็นเด็กพิการ

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านนายชัย ผู้ต้องหา ก็พบนายชัยอยู่ที่บ้านกับนางสวย (นามสมมติ) ซึ่งเป็นภรรยา จากการสอบถามนายชัยยอมรับสารภาพว่าได้ล่วงละเมิดทางเพศ ด.ญ.เอ จริง แต่ไม่ได้มีการบังคับหรือให้เงินเพื่อให้เด็กยอมนอนด้วยตามที่เป็นข่าว แต่ที่ผ่านมาเด็กจะมาเล่นกับหลานของตนเองที่บ้านบ่อย แล้วจะชอบเข้าไปลักขโมยเงินในบ้าน จึงบอกว่าห้ามขโมยอยากได้ให้ขอเอา จากนั้น ด.ญ.เอ ก็เข้ามาขอเงินเรื่อยๆ ตนก็ให้ไปครั้งละ 20 บาทบ้าง 120 บ้าง บางครั้งก็มาขอซื้อรองเท้า เสื้อผ้า กระเป๋าครั้ง 300 – 400 บาทก็มี จนเด็กได้ใจก็จะเข้ามาขอเงินและขอของกินที่บ้านอยู่เรื่อยๆ

นายชัย ยังอ้างว่าที่ตนเองล่วงละเมิดทางเพศ ด.ญ.เอ เพราะเด็กยินยอมเองไม่ได้บังคับ เนื่องจากเด็กอยากได้เงิน  แต่ก็ยอมรับว่าสิ่งที่ทำลงไปผิด ซึ่งหลังจากเรื่องแดงก็มีการไกล่เกลี่ยขอเยียวยาและรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ฝั่งผู้เสียหายไม่ยอมได้ไปแจ้งความให้ดำเนินคดี ตนเองก็เข้าไปมอบตัวและยอมรับสารภาพตั้งแต่แรกไม่ได้หลบหนีหรือปฏิเสธ ยืนยันว่าไม่เคยไปข่มขู่หรือพูดเยาะเย้ยฝั่งผู้เสียหายเลย ก็รอให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย

นางสวย ภรรยานายชัย ผู้ต้องหาก็ออกมาพูดทั้งน้ำตา สามีก็ยอมรับผิดและเข้ามอบตัวตั้งแต่แรกแล้ว จากการสอบถามสามีก็ยอมรับว่าทำจริง สาเหตุเพราะต้องการลงโทษที่เด็กไปขโมยเงิน ไม่อยากทุบตีเพราะสงสาร คิดว่าจะทำโทษเพียงครั้งเดียวให้เข็ดหลาบ แต่เด็กก็ยังเข้ามาหาสามีของตนอีกเรื่อยๆ ซึ่งตอนแรกตนก็ไม่รู้เรื่องกระทั่งเด็กตั้งท้อง 5 เดือน จึงรู้เรื่องแต่ก็ยอมรับสภาพกับสิ่งที่เกิดขึ้นสามีก็ไม่ได้หลบหนีไปไหน ส่วนที่อีกฝ่ายอ้างว่าตนกับสามีไปพูดเยาะเย้ยหรือบอกว่าเส้นใหญ่นั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริงสามีทำผิดก็ยอมรับผิดแล้ว ตอนนี้ก็รอไปตามที่ศาลจะเรียกตัว ก็อยากให้เห็นใจทางฝั่งตนเองด้วยเพราะหลังจากเกิดเรื่องก็เครียดกินไม่ได้นอนไม่หลับอยู่แล้ว

ทั้งนี้จากการสอบถามข้อมูลกับทางพนักงานสอบสวน สภ.กระสัง  ก็ให้ข้อมูลว่า ทางผู้ปกครองของเด็กผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2563 กล่าวหาว่าถูกนายชัย (นามสมมติ) อายุ 65 ปี ซึ่งเป็นผู้สูงอายุในหมู่บ้านเดียวกันข่มขืนกระทำชำเราหลายครั้ง จนตั้งท้องได้ 5 เดือนช่วงที่แจ้งความ

จากนั้นวันที่ 5 ก.ค. นายชัย ที่ถูกกล่าวหา ก็ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนที่โรงพัก เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้นนายชัย  ก็ยอมรับสารภาพว่าได้กระทำการข่มขืนกระทำเราเด็กจริง เบื้องต้นจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา “กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม , พรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปจากบิดามารดาผู้ปกครองหรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร , พาเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่อการอนาจาร” หลายกรรมต่างกัน จากนั้นก็ได้ประสานทีมสหวิชาชีพร่วมสอบปากคำเด็กผู้เสียหายและผู้เกี่ยวข้อง จากนั้นพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน และได้สรุปสำนวนการสอบสวน ส่งอัยการแล้วตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา พร้อมตัวผู้ต้องหา

ส่วนกรณีที่ไม่ได้มีการควบคุมตัวผู้ต้องหานั้นเนื่องจากผู้ต้องหาเข้ามอบตัวเองและไม่มีพฤติกรรมจะหลบหนี หรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ซึ่งหลังจากสรุปสำนวนส่งอัยการแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของอัยการที่จะพิจารณาสั่งฟ้องหรือไม่อย่างไร ซึ่งทางพนักงานสอบสวนก็ดำเนินการไปตามกระบวนการขั้นตอนแล้ว ไม่ได้มีความล่าช้าแต่อย่างใด แต่หากทางญาติหรือผู้เสียหายถูกคู่กรณีข่มขู่คุกคาม ก็สามารถแจ้งความร้องทุกข์เพิ่มเติมได้ 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"