งัดแผนสองเจรจาจีน ‘บิ๊กตู่’แย้มหากซื้อเรือดำนํ้าสะดุดอาจยืดระยะจ่าย


เพิ่มเพื่อน    

  “บิ๊กตู่” แอ่นอกในฐานะ รมว.กห. ไม่โดดหนีเรือดำน้ำ แย้มเตรียมแผนไว้แล้วจะเจรจากับจีนอย่างไรหากสะดุดชั้น กมธ.  "บิ๊กป้อม" ปัดมีใบสั่งเลื่อนโหวตเคาะงบประมาณ โฆษก ทร.ขอให้เป็นเรื่องของชั้น กมธ.กับกองทัพเรือ ยันแจงเหตุจำเป็นไปหมดแล้ว ปชป.โบ้ยให้ กมธ.งบฯ พิจารณา ขณะที่ "ยุทธพงศ์" กอดคอ ปชป.มีมติไม่เอาเรือดำน้ำแล้ว บวกกับเสียงฝ่ายค้านหากผ่าน กมธ.ต้องเจอที่ประชุมสภาใหญ่จมเรือได้แน่

    ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 27 สิงหาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ถึงกรณีคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 เลื่อนการพิจารณางบจัดซื้อเรือดำน้ำ โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีใบสั่งจากนักการเมืองว่า เรื่องใบสั่งนักการเมืองยุ่งกันมาตลอด การจัดซื้อเรือดำน้ำตนจะไม่ไปเกี่ยวข้องในตรงนี้ก็ไม่ใช่ เพราะเป็น รมว.กลาโหม แต่ตนได้เรียนไปแล้วว่าอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมาธิการฯ ตนไม่ได้ไปสั่ง ไม่มีใครสั่งหรอก ใครสั่งไม่ได้ ทราบว่าจะมีการพิจารณากันในวันที่ 28 ส.ค. และลงมติในวันที่ 31 ส.ค. ต้องรอดูกันอีกที รัฐบาลและตนในฐานะเป็น รมว.กลาโหม ได้เตรียมที่จะแก้ไขปัญหา ขอให้เดินทีละขั้นตอน การทำงานเป็นขั้นตอนแบบนี้  
    “ผมได้เคยพูดไปแล้ว และไม่เคยบอกว่าต้อง แต่ไปพาดหัวข่าวกันว่าต้องซื้อ ผมไม่ได้หมายความอย่างงั้น แต่ได้พูดถึงเหตุผลความจำเป็น และแหล่งที่มาของงบประมาณ ถ้าซื้อไม่ได้จะต้องเจรจากับจีนอย่างไร ผมก็ได้เตรียมแผนงานของผมไว้อย่างนี้ ทั้งนี้เป็นการอนุมัติมาล่วงหน้าแล้ว ขั้นตอนนี้อยู่ในระดับที่ 2 ที่ 3 อย่างที่ว่าในเรื่องความจำเป็น การต่อเรือไม่ได้ใช้เวลาสั้นๆ ต้องมีการเตรียมวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ไว้ อะไรที่คุยไว้ จะผ่อนยืดระยะได้บ้างไหม ซึ่งตรงนี้ต้องคุยกัน มีหลายส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้ทำงานคนเดียว ฉะนั้นทั้งหมดต้องรับผิดชอบด้วยกันอยู่แล้ว ในฐานะที่ผมเป็นรัฐบาล เป็นนายกฯ และเป็น รมว.กลาโหมด้วย ขอแต่เพียงความเข้าใจ ไม่อยากให้เป็นประเด็นที่ขัดแย้งกันอีก ถ้าขัดแย้งกันทุกเรื่องมันก็ไปไม่ได้หมดทุกอย่าง” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
    พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ ICT รัฐวิสาหกิจและทุนหมุนเวียน ระบุว่าอาจมีใบสั่งจากทางรัฐบาลให้เลื่อนการพิจารณาการจัดซื้อเรือดำน้ำ ในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ว่า "ไม่มี (เสียงสูง) ใบสั่งใบเสิ่งที่ไหนเล่า"
    เมื่อถามย้ำว่า มี ส.ส.อ้างว่ามีใบสั่งจากทางรัฐบาลเข้าไป พล.อ.ประวิตรตอบสวนทันทีว่า "เอ้ย! ให้ใครล่ะ ใครบอก โธ่" เมื่อถามอีกว่ามั่นใจว่างบดังกล่าวจะผ่านหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า "ไม่รู้ๆ"
    พล.ร.ท.ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ รองเสนาธิการทหารเรือ ในฐานะโฆษกกองทัพเรือ (ทร.) เผยถึงกระแสข่าว กมธ.งบฯ 64 เตรียมเชิญกองทัพเรือชี้แจงประเด็นการจัดซื้อเรือดำน้ำเพิ่มเติมว่า ก็ขอให้เป็นเรื่องของชั้นกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรไปว่ากันกับกองทัพเรือ โดยหลังจากนี้จะไม่มีการแถลงข่าวใดๆ จากกองทัพ เพราะได้ชี้แจงในการแถลงข่าว เหตุผลความจำเป็นในการจัดซื้อเรือดำน้ำไปหมดแล้ว
    ที่รัฐสภา นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงมติพรรค ปชป.ที่ให้ชะลอการจัดซื้อเรือดำน้ำว่า มติพรรค ปชป.ให้ กมธ.งบประมาณในสัดส่วนของพรรคไปหารือกับพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งทราบความคืบหน้าว่าเมื่อวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการหารือในระดับหนึ่ง และมอบให้ กมธ.ชุดใหญ่ที่จะเชิญกองทัพเรือมาชี้แจงอีกครั้ง คิดว่าอำนาจในการตัดสินใจอยู่ที่ กมธ.ชุดใหญ่ เข้าใจว่าคงจะมีการสรุปด้วยเหตุผล ดังนั้นมติจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับ กมธ.ชุดใหญ่
     เมื่อถามว่าขณะนี้มีกระแสคัดค้านการจัดซื้อเรือดำน้ำ จุดยืนของพรรค ปชป.จะเป็นอย่างไร นายชินวรณ์กล่าวว่า เบื้องต้นต้องฟังเหตุผลจาก กมธ.ชุดใหญ่ก่อนว่าเป็นอย่างไร เนื่องจากเราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อตอนนี้ยังไม่มีความชัดเจน ดังนั้นต้องรอดูก่อน ก็อาจจะเป็นไปได้เมื่อ กมธ.ชุดใหญ่พิจารณาแล้วอาจจะชะลอไปหรือไม่ ซึ่งก็เป็นข้อคิดเห็นของ กมธ.ในส่วนของพรรคปชป.ทั้ง 7 คน ที่ได้เสนอความคิดเห็นไปแล้ว ส่วนนายกฯ ส่งสัญญาณชัดเจนในเรื่องดังกล่าวตนไม่ทราบ ต้องอยู่ที่ กมธ.ชุดใหญ่
     มีรายงานว่า ในการประชุม กมธ.งบประมาณชุดใหญ่เมื่อวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา ก่อนปิดการประชุมมีการถกเถียงกันอย่างดุเดือดระหว่างนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กับนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย เนื่องจากนายยุทธพงศ์ยังคงยืนยันจะให้พิจารณารายงานของอนุ กมธ.ครุภัณฑ์ฯ ต่อ แต่นายชาดาเห็นว่า การพิจารณาดังกล่าวดึกแล้ว และไม่สามารถพิจารณาได้ทัน จนมีการปะทะคารมกัน ซึ่งนายชาดาได้ต่อว่านายยุทธพงศ์ว่า “คุณก็คิดว่าตัวคุณเก่งอยู่คนเดียว” จนทำให้เกิดปัญหา และขอมติเสียงข้างมากจากที่ประชุมให้เลื่อนการพิจารณาทั้งหมดไปในวันที่ 31 ส.ค.นี้ ขณะเดียวกันในวันที่ 28 ส.ค. กมธ.งบฯ ได้เชิญผู้แทนจากกองทัพเรือมาชี้แจงเรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำ เพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนที่จะมีการลงมติในวันที่ 31 ส.ค.นี้    
    ด้านนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ในฐานะรองประธาน กมธ.งบประมาณฯ กล่าวว่า ที่ประชุม กมธ.งบฯ ชุดใหญ่มีมติให้เลื่อนการประชุมดังกล่าว ซึ่งได้เรียงลำดับตามคณะก่อนหลัง ส่วนท่าทีของพรรคภูมิใจไทยยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะสนับสนุนหรือไม่ ต้องรอการชี้แจงจากกองทัพเรือก่อน เพื่อหาข้อสรุป เนื่องจากการบริหารประเทศมีหลายมิติ ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาตนเคยทักท้วงการซื้อเรือดำน้ำแล้ว แต่ไม่ได้คัดค้านเกี่ยวกับงบประมาณ จึงขอฝากไปถึงกองทัพเรือว่าต้องการให้ฟังเสียงประชาชน รวมถึงทำความเข้าใจกับประชาชน และมองในมุมกว้าง เนื่องจากยังมีทางออกอีกหลายทาง แต่ตนไม่สามารถจะชี้ชัดอะไรได้ ต้องรอมติที่ประชุม ยืนยันไม่ได้ขัดแย้งกับนายยุทธพงศ์ แต่อาจมีบางเรื่องบางเหตุผลเข้าใจไม่ตรงกัน
    ส่วนนายยุทธพงศ์ให้สัมภาษณ์ว่า ความพยายามที่จะยื้อเวลาการพิจารณางบประมาณจัดซื้อเรือดำน้ำในครั้งนี้ เป็นเพราะรัฐบาลต้องการให้ร่าง พ.ร.บ.งบฯ ผ่านความเห็นชอบจากสภาโดยอัตโนมัติหรือไม่ เพราะตามกฎหมายมีการกำหนดกรอบเวลาว่าหากพิจารณาไม่เสร็จภายใน 105 วัน ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 28 ก.ย.63 ก็ถือว่าสภาให้ความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ โดยอัตโนมัติ ในที่ประชุม กมธ.เมื่อวานนี้ ฝ่ายรัฐบาลได้ใช้เสียงข้างมากปิดประชุมเพื่อไม่ให้มีการพิจารณาเรื่องงบจัดซื้อเรือดำน้ำ โดยไม่ขอญัตติให้ชัดเจนว่าจะไปพิจารณาในวันใด มีเพียงนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง ในฐานะประธาน กมธ. ที่ออกไปให้สัมภาษณ์สื่อว่าได้เลื่อนการพิจารณาไปเป็นวันที่ 31 ส.ค. จึงอยากถามว่าอย่างนี้เรียกว่า กมธ.ถูกรัฐบาลชี้นำหรือไม่
     "แม้จะมีความพยายามถ่วงเวลา และหากผ่านความเห็นชอบในชั้น กมธ.ไปได้ ก็จะมีปัญหาในที่ประชุมใหญ่สภา เพราะ ส.ส.พรรค ปชป.ออกมายืนยันชัดเจนว่าที่ประชุมพรรคมีมติไม่เอาเรือดำน้ำ ดังนั้นเมื่อเสียงของ ปชป.มารวมกับพรรคฝ่ายค้าน ก็จะมากเกินครึ่งหนึ่งของเสียงในสภา จึงสามารถคว่ำเรือดำน้ำได้ และเป็นที่ทราบกันดีว่าเมื่อมาตราใดถูกคว่ำไปในสภาก็จะเป็นปัญหาต่อร่างงบประมาณทั้งฉบับ เพราะคงไม่มีพรรคการเมืองใดกล้าให้ความเห็นชอบ และเมื่อถูกตีตกตามมารยาท ก็จะต้องมีการยุบสภา แต่หาก ปชป.กลับมติไปสนับสนุนเรือดำน้ำก็ต้องไปถาม ปชป. เพราะคนที่พูดเรื่องนี้เป็น กมธ.ของ ปชป. และบางคนเป็นถึงประธาน ส.ส.ของพรรค ว่ามีเหตุผลใดจึงจะมากลับมติ" นายยุทธพงศ์กล่าว.
         


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"