เตือนม็อบเป็นลิงแก้แห อภิรัชต์ปัดข่าวลือปฏิวัติ


เพิ่มเพื่อน    

 

"ประยุทธ์" ย้ำอย่าลืมความเป็นไทยที่ยืนยงมาหลายร้อยปี เพราะมี 3 สถาบันหลัก ชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์  เตือน "เดินขบวน-ประท้วง" จะกลายเป็นลิงแก้แหแก้ปัญหาไม่รู้จบ   สะกิดม็อบไทยภักดีอย่าล้ำเส้นกฎหมาย "บิ๊กป้อม" เชื่อไร้ปัญหา  อดีตเด็ก ปชป.แนะรัฐบาลฟ้องเฟซบุ๊กเหมาะสมกว่า “อภิรัชต์” จ่อแจงผลงานก่อนเกษียณ ปัดข่าวลือปฏิวัติ

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานกล่าวปาฐกถาพิเศษภายใต้หัวข้อ “เกษตรทางรอดของประเทศไทย” ในพิธีเปิดงานเกษตรกรสร้างชาติ ครั้งที่ 2 โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้โลกเปลี่ยน ถ้าเราไม่ปรับจะอยู่อย่างไร เรามีความภาคภูมิใจในความเป็นไทยมายาวนานหลายร้อยปี วันนี้เราต้องเพิ่มความภาคภูมิใจในประเทศ เพื่อดันตัวเองผ่านปัญหาอุปสรรคไปข้างหน้าให้ได้ นั่นคือความเป็นไทยของเรา อย่าให้ใครมาทำลายความเป็นไทย ความเป็นเอกลักษณ์ไทย ต้องช่วยกันสร้าง ช่วยกันทำในสิ่งที่เป็นไปได้
    “ในยุทธศาสตร์ระยะที่ 1 จะต้องดูว่า 5 ปีแรกผลที่ดำเนินการเป็นอย่างไร ไม่ใช่แก้แบบลิงพันแห มันจะแก้ไม่ได้ เดี๋ยวก็เดินขบวน เดี๋ยวก็เรียกร้อง ทุกรัฐบาลจะต้องดูแลทุกภาคส่วน และเดินไปตามขั้นตอน การบริหารราชการต้องเป็นแบบนี้ ท้ายที่สุดคนที่ไม่ได้ก็จะน้อยลง ไม่ใช่ได้แต่กลุ่มเดิมๆ อยู่ตลอด จะกลายเป็นการเลี้ยงไข้ให้ยาพิษกันไป” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว และว่า เราต้องยึดมั่นหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง นี่คือสิ่งสำคัญที่สุดที่เราต้องยึดมั่นต่อสถาบันที่มีมาอย่างต่อเนื่อง นั่นคือการรวมใจไทยสร้างชาติมาได้ทุกวันนี้ ต้องมีศูนย์รวมใจ ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน จนมาถึงอนาคตของไทย
    ในตอนท้ายนายกฯ กล่าวว่า เราต้องรวมไทยสร้างชาติของเราหลายๆ เรื่อง ทุกอย่าง ความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม กฎหมาย กระบวนการยุติธรรม นี่เป็นสิ่งที่รับผิดชอบที่จะต้องทำให้ได้ ตราบที่มีเวลาของตนอยู่ จะได้มากได้น้อยหรือมีอุปสรรคก็ต้องฟันฝ่าตรงนี้ไป แต่เชื่อมั่นว่าคนไทยก็ยังเชื่อมั่นในความเป็นไทยของเราอยู่ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สิ่งเหล่านี้ทำให้ประเทศเราเข้มแข็ง เมื่อไหร่ที่เราไม่มี 3 อย่างนี้ ก็ไปกันทั้งหมดบอกให้เลย เพราะวันนี้ประเทศไทยก็เป็นแกนกลางของอาเซียนอยู่แล้ว เป็นแกนนำโดยพฤตินัยของอาเซียนอยู่แล้ว วันนี้อย่าทำลายภาพนี้ในสิ่งที่เรามีศักยภาพ ขอร้องเถอะ ช่วยกันสร้างความสงบเรียบร้อย นำพาลูกหลานของท่านไปสู่อนาคตที่ดี งานที่ดีงามต่อไป”
    หลังจากปาฐกถาพิเศษเสร็จสิ้น พล.อ.ประยุทธ์ได้เดินเยี่ยมชม บูธและร้านค้าต่างๆ ช่วงหนึ่งที่นายกฯ ตรวจเยี่ยมบูธของเกษตรกรอัจฉริยะ Smart Farmer ได้สอบถามเจ้าหน้าที่ประจำบูธว่าเรียนจบจากที่ไหน โดยเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวตอบว่า มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นายกฯ จึงแกล้งกระเซ้าถามเบาๆ ว่า จบเกษตรด้วยหรือ ไปชุมนุมกับเขามาหรือเปล่า โดยเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวได้ตอบกลับว่า "ไม่ได้ไปครับ ผมจบมา 20 กว่าปีแล้ว"
    ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ถึงกรณี นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม แกนนำกลุ่มไทยภักดี นัดชุมนุมแสดงพลังเพื่อปกป้องประเทศ และสนับสนุนรัฐบาลที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ในวันที่ 30 ส.ค. ว่าไปห้ามใครไม่ได้ ต้องดูว่าใครทำผิดกฎหมายบ้าง ถ้าผิดกฎหมายก็ต้องถูกดำเนินการ เว้นแต่คนดื้อต่อกฎหมายก็อีกเรื่องหนึ่งใช่หรือไม่ ฉะนั้นประชาชนส่วนใหญ่ขอให้ไตร่ตรองและคิดพิจารณาดูว่าเราจะทำให้บ้านเมืองเป็นอย่างนี้อีกต่อไปหรือไม่ มันมีผลกระทบทั้งสิ้นด้วยคนเพียงไม่กี่คน ซึ่งอาจจะอยู่เบื้องหลังหรือไม่อยู่เบื้องหลัง ไม่รู้เหมือนกัน ซึ่งต้องว่ากันด้วยหลักฐาน วันนี้ถ้าเรายังทำเช่นนี้กันต่อไป ทุกคนไม่รักษากฎหมาย แล้วมันจะอยู่กันอย่างไรก็ไม่รู้     
บิ๊กป้อมเชื่อไม่มีปัญหา
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ กล่าวในประเด็นนี้ว่า ไม่มีอะไร และเมื่อถามย้ำว่าเป็นห่วงว่าจะมาปะทะกับกลุ่มปลดแอกหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เขาไม่ชนกันหรอก ชุมนุมไม่ตรงกันหรอก ถามอีกว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่มีหรอก ไม่มีๆ
    ขณะเดียวกัน น.ส.หฤทัย ม่วงบุญศรี หรืออุ๊ หฤทัย นักร้องชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊กตอบโต้นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่ติติงการจัดม็อบของกลุ่มไทยภักดีว่า ถ้ามีคนทำลายศูนย์กลางความมั่นคงของชาติกันได้สำเร็จจริง จะไม่มีรัฐสภาให้นักการเมืองได้ทำหน้าที่หรอก เพราะเราคนไทยคงต้องหนีตายจากการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายแน่นอน เหมือนทุกประเทศในประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นมาแล้วทั้งนั้น
    ด้านนายวัชระได้โต้ น.ส.หฤทัยว่า น.ส.หฤทัยเป็นอดีตสมาชิกสภาเขตพระโขนง ปชป.ถึง 2 สมัย ย่อมเข้าใจในอุดมการณ์จงรักภักดีต่อสถาบันฯ ของสมาชิกพรรค ปชป.ดี แต่การที่ไม่เห็นด้วยกับการปลุกม็อบชนม็อบของ นพ.วรงค์ เพราะยิ่งจะทำให้สถานการณ์วิกฤติแผ่นดินร้อนระอุเป็นไฟยิ่งขึ้นไปอีก การแสดงความรักสถาบันฯ ไม่จำเป็นต้องปลุกม็อบชนม็อบเสมอไป และในอดีตมีบทเรียนที่ชัดเจนกรณี 6 ตุลาคม 2519 แล้ว
     “ประเด็นสำคัญที่คุณอุ๊ หฤทัย ถามว่าถ้ามีคนทำลายศูนย์กลางความมั่นคงของชาติได้สำเร็จจริง จะไม่มีรัฐสภาให้นักการเมืองได้ทำหน้าที่ ก็เป็นเรื่องที่ต้องช่วยกันชี้แจงทำความเข้าใจอย่างกัลยาณมิตร ไม่ใช่สร้างวาทกรรมว่าเป็นพวกชังชาติหรือศัตรูของแผ่นดิน” นายวัชระกล่าว
    นายวัชระยังกล่าวถึง นพ.วรงค์ ว่ารู้จักกันมาเกือบ 20 ปี เคยประกาศว่าจะไม่ออกจากพรรค แต่เมื่อไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคดั่งใจก็ลาออก ส่วนคุณความดีเรื่องโครงการจำนำข้าว สมาชิกพรรคทำงานเป็นทีมป้อนข้อมูลให้ นพ.วรงค์รับบทเป็นขุนพลทะลวงไส้ และขอชมเชยว่า นพ.วรงค์ทำได้ดีมาก ควรได้โล่จากพรรคด้วยซ้ำ ซึ่งกลุ่มไทยภักดีจะหาเสียงเพื่อก่อตั้งเป็นพรรคการเมืองในอนาคตหรือไม่ก็เป็นสิทธิ์ แต่ไม่ควรใช้สถาบันฯ มาเป็นเครื่องมือในการสร้างฐานทางการเมือง เพราะเป็นเรื่องสุ่มเสี่ยงต่อการเร่งสถานการณ์ในเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองนอกระบบเป็นอย่างมาก แล้วประเทศชาติและสถาบันฯ จะได้อะไร
    ขณะเดียวกัน นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกฯ ได้ส่งภาพบรรยากาศ พล.อ.ประยุทธ์พบปะพูดคุยกับตัวแทนนักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่ จ.ระยอง ระหว่างการประชุม ครม.นอกสถานที่ เมื่อวันที่ 25 ส.ค.อย่างเป็นกันเอง ซึ่งการแจกภาพสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 26 ส.ค. ในโลกโซเชียลมีเดียมีการแชร์ภาพ พล.อ.ประยุทธ์ถ่ายรูปกับตัวแทนนักเรียน นิสิต นักศึกษาดังกล่าว แต่มีผู้สังเกตเห็นเยาวชนในภาพชู 3 นิ้วด้วย
    ส่วนในประชุมสภาผู้เเทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธาน น.ส.ญาณธิชา บัวเผื่อน ส.ส.จันทบุรี พรรคก้าวไกล ได้ขอหารือก่อนการประชุม ว่าขอให้ตำรวจหยุดคุกคามประชาชนจากการทำกิจกรรมชู 3 นิ้วในโรงเรียน หรือการชุมนุม โดยในช่วงท้ายการอภิปราย น.ส.ญาณธิชาได้ชู 3 นิ้ว พร้อมระบุว่า ต้องการเรียกร้อง และฝากไปถึงนายกฯ กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ให้หยุดคุกคามประชาชน หยุดคุกคาม ส.ส.ด้วย    
เปิดเพจใหม่ก็ปิดอีก    
    ด้านนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวถึงกรณีเฟซบุ๊กเตรียมฟ้องรัฐบาลไทยกรณีดีอีเอสขอให้เฟซบุ๊กบล็อกเพจหรือบัญชีผู้ใช้ที่โพสต์เนื้อหาที่พาดพิงสถาบันเบื้องสูง อาทิ เพจรอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส ว่าจนถึงเฟซบุ๊กยังไม่มีอะไรยืนยัน ไม่มีการส่งหนังสือมายังไทยแต่อย่างใด ยังไม่มีอะไรที่ชัดเจนว่าเขาจะฟ้อง แล้วจะฟ้องเรื่องอะไร หรือที่ศาลใด และที่ดีอีเอสทำยืนยันว่าไม่ได้คิดเองทำเอง
    เมื่อถามถึงกลุ่มรอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลสไปเปิดกลุ่มใหม่ และมีผู้ติดตามจำนวนมาก จะดำเนินการอย่างไร นายพุทธิพงษ์กล่าวว่า ไม่ว่ากลุ่มไหนก็ตาม ถ้าเข้าข้อกฎหมายและเห็นว่าในกลุ่มนั้นมีข้อความที่ไม่เหมาะสมและผิดกฎหมาย เราก็ต้องดำเนินคดีต่อไป ไม่ว่าจากกลุ่มนี้ไปเปิดกลุ่มใหม่ หรือมีกลุ่มเล็กกลุ่มใหญ่อื่นๆ ดีอีเอสไม่ได้ดูที่จำนวนสมาชิก ถ้าเข้าข้อกฎหมายก็ดำเนินการไปตามนั้นและต้องทำอย่างเข้มแข็งจริงจัง
    นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรค ปชป. โพสต์เฟซบุ๊กว่า เป็นเรื่องน่าสังเวชใจที่เฟซบุ๊กถามหาเรื่องสิทธิมนุษยชน ทั้งที่ตัวเองละเมิดผู้ใช้เฟซบุ๊กอยู่ทุกวัน ที่สำคัญคำร้องขอของรัฐบาลไทยอยู่บนพื้นฐานหลักกฎหมายและหลักสิทธิมนุษยชน จึงยังไม่แน่ใจว่าเฟซบุ๊กควรฟ้องเรา หรือเราควรฟ้องเฟซบุ๊กกันแน่ ผู้บริหารเฟซบุ๊กจึงต้องพึงสังวรไว้ตลอดเวลาว่า ถ้าจะทำธุรกิจในไทยต้องเคารพกฎหมายไทย ให้เกียรติและรับผิดชอบต่อความรู้สึกของคนไทย รวมถึงสถาบันที่เป็นศูนย์รวมใจของไทยทั้งชาติด้วย
    วันเดียวกัน ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานพิธีเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเปิด บก.ทบ.ครบรอบปีที่ 34 ซึ่งมีตัวแทนผู้นำชุมชนเขตพระนคร 20 ชุมชน ได้กล่าวให้กำลังใจ พล.อ.อภิรัชต์ ว่าขอให้สู้อย่าถอย ซึ่ง พล.อ.อภิรัชต์ตอบว่า “ผมสู้อยู่แล้ว” ก่อนมอบของที่ระลึกและถ่ายภาพร่วมกัน
    จากนั้น พล.อ.อภิรัชต์เป็นประธานมอบรางวัลข้าราชการดีเด่น ประจำปี 2563 ให้แก่กำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพและคุณภาพจำนวน 71 นาย ก่อนให้โอวาทว่า ขอให้ภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่ในการรับใช้ชาติและสร้างคุณประโยชน์ให้กับส่วนรวม พร้อมทั้งตระหนักเสมอว่าจะต้องดำรงตนอย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรีและเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับสังคมในการมีจิตสาธารณะ มีความเสียสละ กตัญญูรู้คุณแผ่นดิน และยึดมั่นในอุดมการณ์ในการปกป้องสถาบันหลักของชาติ และเป็นกลไกของรัฐบาลในการช่วยสร้างสังคมที่มีแต่ความรักสามัคคี นำไปสู่การร่วมมือร่วมใจกันนำพาประเทศชาติเจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคงต่อไป
    ต่อมา พล.อ.อภิรัชต์ให้สัมภาษณ์ถึงการแถลงผลงานก่อนเกษียณอายุราชการว่า คงเป็นเดือนหน้า เพราะจะมีการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกระดับผู้บังคับกองพันขึ้นไป ซึ่งจะพูดภาพรวมทั้งหมด เพราะทุกคนก็ทำงาน ไม่ใช่ทำคนเดียว ส่วนเรื่องการปฏิรูปกองทัพ ที่ผ่านมาก็ได้ไปชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 แล้ว โดยได้ตอบหมดทุกเรื่อง
    จากนั้น ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงกรณีมีการปล่อยข่าวลือกระแสการปฏิวัติรัฐประหาร พล.อ.อภิรัชต์ถึงกับร้อง "หูย" พร้อมกล่าวว่า “สื่อเองยังพูดว่าข่าวลือเลย” เมื่อถามย้ำว่า แต่อยากได้ยินจากปาก ผบ.ทบ.เอง พล.อ.อภิรัชต์กล่าวว่า “นักข่าวยังพูดว่าข่าวลือ” เมื่อถามอีกว่าจะไม่เกิดขึ้นใช่หรือไม่ พล.อ.อภิรัชต์ปฏิเสธตอบคำถามและเดินขึ้นห้องทำงานทันที.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"