บิ๊กตู่คะแนนนำ'พ่อฟ้า' เหตุข้องใจ'หุ้น-บริจาค'


เพิ่มเพื่อน    


    ผลโพลสะท้อนหนุนบิ๊กตู่นำลิ่วธนาธร ทำให้ประชาชนได้ประโยชน์จับต้องได้ ชี้ 2 ปมตกม้าตายความน่าเชื่อถือ บริจาคโควิด-บอกศาลโอนหุ้น ไม่ทราบ จำไม่ได้ พร้อมปลุกปั่นกระแสการเมืองเรื่องโดนใจคนรุ่นใหม่
    เมื่อวันอาทิตย์ ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) นำเสนอผลสำรวจภาคสนามเรื่อง ประชาชนหนุนใคร กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ  จำนวน 1,645 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 25-29 สิงหาคม ที่ผ่านมา พบว่าการรับรู้ของประชาชนที่มีผลต่อความน่าเชื่อถือของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้แก่ เมื่อปีที่แล้วนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ บอกศาลรัฐธรรมนูญว่าไม่ทราบ จำไม่ได้ เรื่องโอนหุ้น 90.6% มีผลต่อความน่าเชื่อถือของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในขณะที่ 9.4% ไม่มีผล
    นอกจากนี้ เมื่อปีนี้ ช่วงวิกฤติโควิด-19 กลุ่มนายธนาธรระดมเงินบริจาคแจกประชาชน แต่ไม่ได้แจกเงินทุนที่ได้มาให้หมดแก่ประชาชน 90.3% มีผลต่อความน่าเชื่อถือของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในขณะที่ 9.7% ไม่มีผล
    ในขณะที่ผลประมวลการรับรู้ของประชาชนที่มีผลต่อความน่าเชื่อถือของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พบว่า เมื่อประชาชนไม่รู้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ทำให้มีกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ช่วยเหลือเด็กนักเรียน เยาวชนที่ยากจนพิเศษได้ทุนเรียนฟรี พ่อแม่ผู้ปกครองได้รับพัฒนาทักษะมีงานทำ กำลังขยายถึงปริญญาตรี  69.7% มีผลในขณะที่ 30.3% ไม่มีผล 
    นอกจากนี้ เมื่อไม่รู้ว่ารัฐบาลทำให้ประชาชนปลูกไม้มีค่าขายได้ คนอยู่กับป่าได้ตามที่กฎหมายกำหนด และในเมืองมีระบบขนส่งรถไฟฟ้า ความเจริญด้านเทคโนโลยี เกิดขึ้นหลายแห่ง 68.9% มีผล ในขณะที่ 31.1% ไม่มีผล
    ที่น่าพิจารณาคือ เมื่อไม่รู้ว่าโครงการชิมช้อปใช้ ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ 69.4% มีผลต่อความน่าเชื่อถือของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในขณะที่ 30.6% ไม่มีผล นอกจากนี้ เมื่อประชาชนไม่รู้ว่าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐใช้ซื้อสินค้าจำเป็นได้ ซื้ออุปกรณ์การเรียนได้ ซื้อวัสดุการเกษตรได้ ซื้อตั๋วรถโดยสารตั๋วรถไฟได้ 69.8% มีผลต่อความน่าเชื่อถือของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในขณะที่ 30.2% ไม่มีผล
    ที่น่าสนใจคือ เมื่อถามว่าคนที่ทำให้ประชาชนได้ประโยชน์ที่จับต้องได้ ประชาชนได้ประโยชน์มากกว่ากันระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พบว่า ส่วนใหญ่หรือ 76.6% ระบุ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในขณะที่ 17.1% ระบุ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ 6.3% ระบุอื่นๆ
    ที่น่าพิจารณาคือเมื่อถามว่า คนที่ได้รับการสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี มากกว่ากันระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พบว่า ส่วนใหญ่หรือ 70.8% สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในขณะที่ 19.2% สนับสนุนนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ 10% ระบุอื่นๆ 
    ผศ.ดร.นพดลระบุว่า ถ้าประชาชนจำผลงานที่จับต้องได้ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเป็นผลดีส่งผลทำให้ประชาชนสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี มากกว่านายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ปีที่แล้วมีเรื่องไม่ทราบ จำไม่ได้ เรื่องการโอนหุ้น กับปีนี้มีเรื่องเงินบริจาคช่วงโควิด-19 ที่มีผลต่อความน่าเชื่อถือของประชาชนต่อนายธนาธร
    "แต่การยุยงปลุกปั่นกระแสการเมืองที่แรงๆ ใช้การสื่อสารข้อความการเมืองสั้นๆ โดนใจคนรุ่นใหม่สามารถปั่นเบี่ยงเบนกลบกระแสแย่ๆ ของฝ่ายการเมืองได้ และถูกผสมโรงรุมถล่มประเทศไทยจากฝ่ายการเมืองระหว่างประเทศที่กำลังรวมตัวกันสั่นคลอนเสาหลักของชาติในเวลานี้ ดังนั้น ถ้าคนไทยทั้งประเทศรู้เท่าทันไม่ทำตามการออกแบบชักจูงของต่างชาติ บ้านเมืองก็จะไม่วิกฤติแย่ลงไปมากกว่านี้อีก" ผศ.ดร.นพดลระบุ. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"