โอ่!ปฏิรูปตร.จบแน่ 'วิษณุ'ลั่นมีชัยชุดสุดท้าย/บิ๊กสร้างจ่อดันโยกย้ายเข้า'ครม.'


เพิ่มเพื่อน    

     "วิษณุ" ชี้ปฏิรูปตำรวจชุด "บุญสร้าง" ไม่เสียของ ยันทุกอย่างจบที่คณะ "มีชัย" แน่ แย้ม "บิ๊กตู่" เร่งเข็นประเด็นแต่งตั้งโยกย้ายโชว์ก่อน "อดีต ผบ.สส." ระบุข้อเสนอปรับสีกากีอีก 70% เตรียมชงเข้า ครม. 24 เม.ย.นี้ "วิทยา" โวยล้มเหลวแก้ไม่ตรงจุด "ศาล" เผย "สตช." แชมป์หน่วยงานโดนฟ้องเยอะสุด
    เมื่อวันที่ 22 เม.ย. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.…. ที่มีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธานเมื่อวันที่ 20 เม.ย. เห็นว่าอาจพิจารณายกร่างใหม่ทั้งฉบับว่า ตนและ พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ อดีต ผบ.สส. ในฐานะอดีตประธานกรรมการปฏิรูปตำรวจ ได้เข้าร่วมประชุมด้วย ซึ่งหากจะยกร่างใหม่ก็ไม่เป็นไร ทำอย่างไรก็ได้ ขอให้เร็ว ที่เขาทำมาเราใช้เป็นฐานในการพิจารณาได้ 
    นายวิษณุกล่าวว่า การปฏิรูปตำรวจเป็นเสี้ยวหนึ่งของการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม เราจะนำข้อสังเกตและรายงานของคณะกรรมาธิการ 3 คณะ คือ คณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ ที่มี พล.อ.บุญสร้างเป็นประธาน,  คณะกรรมการปฏิรูปด้านกระบวนการยุติธรรม ที่มีนายอัชพร จารุจินดา เป็นประธาน และคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย ที่มีนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นประธาน มาประกอบการพิจารณา และนายมีชัยได้สั่งให้นำรายงานการพิจารณาของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.), สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ที่ทำไว้อย่างละเอียดมาพิจารณาด้วย
    ถามว่า ต้องยกร่างใหม่ ถือว่าการทำงานของคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจชุด พล.อ.บุญสร้างเสียเปล่าหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่เสียเปล่า เพราะได้รับฟังความคิดเห็นมา ถือว่าได้สิ่งนั้น อีกทั้ง พล.อ.บุญสร้างระบุว่ามีอีกหลายส่วนที่ยังไม่ได้เขียน ถ้ามีเวลาเขาเตรียมจะทำ คราวนี้ เราจะเอาอันนั้นมาใส่ต่อกันกับของคณะกรรมการชุดนี้ ได้ประโยชน์แน่ และการปฏิรูปตำรวจจะจบในคณะกรรมการชุดนี้ ไม่มีการตั้งเพิ่มอีก
    รองนายกฯ กล่าวว่า ในส่วนของกรอบการทำงานของคณะทำงานชุดนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ใช้คำว่าเร่งรัด อย่างน้อยเอาอะไรที่ทำได้เลยออกมาก่อน เช่น ประเด็นการแต่งตั้งโยกย้าย แต่ถ้าออกมาได้ทีเดียวทั้งหมดก็อยากให้เป็นเช่นนั้น ไม่เช่นนั้นจะไม่เห็นภาพรวม 
    "ต้องให้ความเห็นใจชุด พล.อ.บุญสร้าง เพราะต้องทำปฏิรูปทั้งหมด มีการแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรก 30% เป็นเรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย พอออกมาก็ตื่นเต้นว่าทำมา 1 ปีได้เท่านี้ แต่ส่วนที่เหลืออีก 70% เขาส่งมาแล้ว หลายอย่างสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ โดยจะนำทั้งหมดมาใช้ในชุดของนายมีชัย" รองนายกฯ กล่าว
    ย้ำว่าจะเห็นการปฏิรูปตำรวจเป็นรูปธรรมภายในปีนี้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า อยากใช้คำว่าไม่กี่วันนี้ด้วยซ้ำ และไม่จำเป็นต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษาเหมือนกับการปฏิรูปอื่นๆ เพราะไม่ต้องทำแผนปฏิรูป ทำเพียงกฎหมายส่วนหนึ่งของกระบวนการยุติธรรม    
    ขณะที่ พล.อ.บุญสร้าง กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการชุดนายมีชัยจะรื้อการปฏิรูปตำรวจใหม่ว่า ไม่ทราบเขาจะรื้อแค่ไหน เพราะในที่ประชุมก็ไม่ได้มีการพูดตรงๆ แต่ขอให้สิ่งที่ทำนั้นออกมาดีและเป็นประโยชน์กับชาติบ้านเมือง 
    "ถ้ามีการพิจารณาร่างกฎหมายทั้งฉบับ ก็เป็นธรรมดาที่ปฏิรูปตำรวจอาจล่าช้าออกไป อาจจะเลื่อนได้บ้าง แต่ขอให้ออกมาดี จะช้าไปบ้างทุกฝ่ายก็คงรอได้ ซึ่งทราบว่าภารกิจที่เหลืออีก 2 ด้าน ซึ่งเป็นงานถึงร้อยละ 70 ที่คณะกรรมการปฏิรูปตำรวจได้ดำเนินการมาจะเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม ครม.ในวันที่ 24 เม.ย.นี้" พล.อ.บุญสร้างกล่าว
    ส่วน พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะกรรมการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ..... ชุดนายมีชัย กล่าวว่า นายมีชัยมีแนวทางให้เร่งดำเนินการนัดประชุมสัปดาห์ละ 3 วัน และกำหนดว่าภายใน 2 เดือน จะได้ร่างกฎหมายตำรวจและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปสู่การปฏิรูปตำรวจได้ หลังจากร่างกฎหมายลงตัวตกผลึก จะได้นำไปสู่กระบวนการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ต้องทำในการปฏิรูปตำรวจต่อไป
    "คณะกรรมการชุดใหม่ก็คล้ายนับหนึ่งใหม่ แต่ก็นำร่างกฎหมาย แนวทางในเรื่องต่างๆ ที่คณะกรรมการปฏิรูปตำรวจเสนอขึ้นมามาดูทั้งหมด เพราะที่ผ่านมาคณะทำงานชุด พล.อ.บุญสร้างเป็นประธาน ก็ทำออกมาตามกรอบรัฐธรรมนูญแล้ว ชุดใหม่ก็มาพิจารณากันว่าจะเพิ่มตรงไหนให้สมบูรณ์ขึ้น ไม่ถึงกับโละ หลักการอันไหนถ้าดีก็ไปต่อ ต้องเพิ่ม ปรับเปลี่ยนบ้าง หาแนวทางที่ลงตัว ตกผลึกในชุดนี้ ซึ่งไม่มีวิธีไหนดีที่สุด เนื่องจากยังไม่มีผลการปฏิบัติเกิดขึ้น จึงบอกไม่ได้ว่าวิธีไหนถูกต้องที่สุด" พล.ต.อ.รุ่งโรจน์กล่าว
    รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า ตนในฐานะที่เป็นตำรวจในราชการคนเดียวที่อยู่ในกรรมการ ก็จะทำหน้าที่เป็นปากเสียงของตำรวจ สะท้อนเรื่องจริงให้กรรมการได้รับทราบ ถึงปัญหาและการแก้ปัญหาที่เป็นอยู่ แม้ผลสรุปต้องอยู่ที่เสียงส่วนใหญ่ในกรรมการ แต่หน้าที่ของตนต้องเสนอความจริงให้กรรมการได้รับทราบมากที่สุด เพื่อจะได้นำไปสู่แนวคิดแนวทางที่อยู่บนพื้นฐานของความจริง
    "การปฏิรูปตำรวจต้องทำ 3 อย่าง คือ 1.แก้กฎหมายที่เป็นอุปสรรค การทำงาน ออกกฎหมายส่งเสริม สนับสนุนการทำงานทุกมิติ 2.แก้ในเชิงบริหาร บางเรื่อง เช่น เรื่องบุคคล การเพิ่มกำลังพล การสนับสนุนงบประมาณอย่างสอดคล้องกับสถานะประเทศ 3.การปรับภายในองค์กรตำรวจเอง" รอง ผบ.ตร.ระบุ 
    ด้านนายวิทยา แก้วภราดัย อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปประเทศ แสดงความผิดหวังกับคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจชุดนี้อย่างมาก เนื่องจากได้ยกร่างการปฏิรูปที่ขัดกับรัฐธรรมนูญ ที่ไม่ได้ยกร่างให้สอดคล้องกับการถ่วงดุลกันระหว่างพนักงานสอบสวนกับพนักงานอัยการ รวมทั้งการจัดให้มีการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์จากสองหน่วยงานที่มีศาสตร์แตกต่างกัน ซึ่งการที่ไม่มีสองประการนี้ เท่ากับข้อเสนอการปฏิรูปขัดกับรัฐธรรมนูญไปแล้ว
    วันเดียวกัน ในช่วงเดือนครบรอบสถาปนาศาลยุติธรรม 136 ปี ได้เผยแพร่สถิติคดีที่เข้าสู่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง และภาค 1-9 ในช่วงปี 2560 ที่ผ่านมา พบว่าคดีที่เกี่ยวกับบุคลากรในหน่วยงานที่ถูกฟ้องใน 5 อันดับ อันดับที่ 1 คือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 402 คน, อันดับที่ 2 กระทรวงมหาดไทย 368 คน, อันดับที่ 3 องค์การบริหารส่วนตำบล 351 คน,  อันดับที่ 4 กระทรวงศึกษาธิการ 348 คน, อันดับที่ 5 องค์การบริหารส่วนเทศบาล 195 คน
    โดยข้อหาที่เข้าสู่การพิจารณาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง และภาค 1-9 ในปี 2560 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,295 ข้อหา โดยข้อหาที่เข้าสู่การพิจารณา อันดับที่ 1 ฐานเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติโดยทุจริตหรือโดยมิชอบ ม.157 จำนวน 757 ข้อหา, อันดับที่ 2 ฐานเจ้าพนักงานเบียดบังทรัพย์ ม.147 จำนวน 82 ข้อหา เป็นต้น.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"