ปลุกผีกสทช.ลงสมัครใหม่ได้


เพิ่มเพื่อน    

     “วิษณุ” ยัน สนช.มีอำนาจเต็มโหวตอย่างไรก็ไม่ผิด เพราะมีเอกสิทธิ์คุ้มครอง พร้อมปลุกผี กสทช.ที่วืดไปมีสิทธิสมัครได้อีก “พท.-ปชป.” ประสานเสียงข้องใจคลิปเสียง วอนสรรหาคนดีเพราะมีผลประโยชน์เยอะ
    เมื่อวันอาทิตย์ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ  (สนช.) มีมติไม่เห็นชอบผู้ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ว่า รัฐธรรมนูญกำหนดให้ สนช.ตั้งคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่ง กสทช. เพื่อเสนอที่ประชุม สนช.ประกอบการพิจารณา ดังนั้นเขาสามารถตรวจสอบคุณสมบัติได้
     เมื่อถามว่า เมื่อคณะกรรมการสรรหาตรวจสอบประวัติมาแล้ว สนช.มีสิทธิ์ที่จะไม่เห็นชอบด้วยเหตุผลขาดคุณสมบัติได้อีกหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่แน่ใจ แต่คณะกรรมการสรรหาฯ ต้องตรวจสอบและรายงานทุกอย่างแก่ สนช.เพื่อตัดสินใจ ส่วนผู้ที่ถูกลงมติไม่เห็นชอบสามารถฟ้องกลับได้หรือไม่นั้น แล้วแต่เขา น่าลองดู แต่ไม่คิดว่าจะเป็นปัญหาในภายหลัง เพราะการลงมติของ สนช.มีเอกสิทธิ์คุ้มครองอยู่ ไม่ว่าสมาชิกจะลงมติอย่างไรก็ตาม การอภิปรายเป็นเหตุผลของสมาชิกแต่ละคน ทั้งนี้ บุคคลที่ สนช.ไม่ให้ความเห็นชอบครั้งนี้สามารถเข้ารับการสรรหาเป็น กสทช.ใหม่ได้
    ด้านนายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีนี้ว่า เป็นลักษณะเดียวกับการโหวตคว่ำคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จึงตั้งข้อสังเกตว่าเป็นเพราะผู้มีอำนาจต้องการควบคุม กสทช.ให้ได้คนที่ตัวเองสั่งการได้เพื่อใช้ควบคุมสื่อมวลชนหรือไม่ เหมือนกับสั่ง กกต.ได้ เพราะเมื่อมีการเลือกตั้งสื่อจะมีความสำคัญ ส่วนที่ สนช.ออกมาปฏิเสธว่าคลิปเสียงไม่จริง นายกฯ ไม่เคยสั่งการนั้นเป็นเรื่องแปลก เพราะผลโหวตที่ออกมาเป็นไปตามคลิป ดังนั้น นายกฯ ต้องชี้แจงให้ชัดเจนว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร 
“มองเป็นอย่างอื่นได้ยาก ที่ผ่านมาใครที่ทำงานตอบสนองผู้มีอำนาจให้ได้เปรียบทางการเมือง จะได้รับการต่ออายุให้ทำงานต่อ เช่น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แต่พอคัดสรรองค์กรอื่นเมื่อไม่ได้คนดังใจก็ให้คัดกันใหม่ แบบนี้ท่านต้องการจะควบคุมให้ทุกอย่างเป็นดังใจเพื่อรอวันเลือกตั้งใช่หรือไม่”
    นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย พท. กล่าวเช่นกันว่า ถือเป็นเรื่องแปลกประหลาดอีกกรณีหนึ่งทำนองเดียวกันกับที่เคยเกิดขึ้มมาแล้วกรณีโหวตคว่ำ กกต. ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง สนช.และกรรมการสรรหาควรต้องชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชน ไม่ใช่ปล่อยอึมครึมคาดเดากันเอาเอง และที่อยากจะเรียกร้องคือ ความรับผิดชอบของฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพราะมีผู้ที่ขาดคุณสมบัติจำนวนมาก แสดงว่ามีความบกพร่อง ไม่รอบคอบในการสรรหาหรือไม่ เป็นความบกพร่องแบบเหลือวิสัยหรือไม่ใส่ใจ หรือมีอะไรอยู่เบื้องหลังหรือไม่ 
“การสอบสวนคลิปหลุดนั้น คงไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันที่จะตอบประชาชนให้คลายความสงสัยข้องใจไปได้ ส่วนคำถามว่า สนช.มีใบสั่งหรือไม่ ก็ต้องถามว่าที่ไปที่มาของ สนช.มาอย่างไร คงเป็นคำตอบอยู่ในตัวเองอยู่แล้ว”
    ส่วนนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) มองเหมือนกันว่า น่าจะมีความไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มที่คณะกรรมการสรรหา โดยมีความเคลือบแคลงสงสัยหลายประการ คือ 1.คณะกรรมการสรรหาได้ทำหน้าที่ครบถ้วนสมบูรณ์หรือไม่ มีความพยายามบล็อกโหวตหรือไม่ อย่างไร 2.สนช.ทำหน้าที่ตามที่พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 บัญญัติไว้ หรือไม่ เพราะกฎหมายบัญญัติให้ สนช.มีหน้าที่ลงมติเลือกเท่านั้น ไม่ได้มีหน้าที่ให้ความเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ และ 3.มีการส่งสัญญาณจากนายกฯ หรือผู้มีอำนาจในบ้านเมืองให้ล้มการเลือก กสทช.ครั้งนี้จริงหรือไม่  
“กสทช.มีความสำคัญเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์มหาศาล และมีอำนาจหน้าที่ให้คุณให้โทษอย่างมาก  การสรรหา กสทช.จึงต้องเป็นไปด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อเราจะได้ กสทช.ที่มีหิริโอตตัปปะ ทำงานด้วยความซื่อสัตย์ จึงขอเรียกร้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการสรรหา กสทช. ทั้งคณะกรรมการสรรหาและ สนช. ทำหน้าที่ด้วยความสุจริต เที่ยงธรรม โปร่งใส ไม่มีลับลมคมใน เพื่อประโยชน์ของประเทศอย่างแท้จริง” นายองอาจกล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"