เผย 'กองทุนกยศ.' มีเงินมากพอให้ผู้มีคุณสมบัติกู้ได้ครบถ้วน 100 เปอร์เซ็นต์


เพิ่มเพื่อน    

3 ก.ย.63 - ที่รัฐสภา นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาแนวทางในการบริหารจัดการชำระหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร แถลงสรุปผลการทำงานของคณะกมธ.ที่ใช้เวลาศึกษาประมาณ 4 เดือน โดยกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาเรื่องขึ้นมาแล้ว 20 ปี โดยดำริของนายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี ในขณะนั้น ซึ่งขณะนี้มีเงินหมุนเวียนทั้งหมด 6.22 แสนล้านบาท เป็นเงินกองทุนหมุนเวียนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศในขณะนี้ เพื่อให้นักเรียนนักศึกษา ลูกคนยากคนจน ได้โอกาสทางการศึกษาเพิ่มสูงขึ้น ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา เพิ่มคุณภาพทางการศึกษา ตลอดจนการให้นักเรียนนักศึกษา มีโอกาส มีงานทำ เพื่อสร้างอนาคตต่อไป

นายชินวรณ์ กล่าวต่อว่า แต่ 5 ปีที่ผ่านมาประเทศ เกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจ และช่วงคณะกมธ.ศึกษาอยู่ ก็เกิดผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้กองทุนมีปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ ในอัตราสูงถึงร้อยละ 60 ของจำนวนผู้ที่อยู่ระหว่างการชำระหนี้ คิดเป็นเงินต้นค้างชำระทั้งหมด 78,643 ล้านบาท ทางคณะกรรมาธิการจึงร่วมกับสำนักงานกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) หาแนวทางแก้ไขปัญหาวิกฤติต่างๆ โดยจะต้องผลักดันให้การบริหารจัดการชำระหนี้กยศ. ได้รับการช่วยเหลือดูแลและแก้ปัญหาโดยเร่งด่วน , กรณีที่รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็จะมีมาตรการทางช่วยเหลือ ซึ่งนอกจากเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาแล้ว ยังมีค่าครองชีพอีก 300 บาทด้วย , มีข้อเสนอให้แก้ไขปัญหาการชำระหนี้ เพื่อเสถียรภาพของกองทุน , และแนวทางข้อเสนอแนะการปรับปรุงโครงสร้างการบริหารจัดการกองทุนเพื่อความยั่งยืนต่อไป

นายชินวรณ์ กล่าวอีกว่า ผู้กู้ยืมก็ต้องมีสำนึก มีวินัยทางการเงิน มีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยเฉพาะการสร้างทัศนคติที่ดีให้เกิดขึ้น ทั้งส่วนนักศึกษาที่กู้ยืม ที่ต้องมีความรับผิดชอบในการส่งต่อโอกาสให้กับรุ่นต่อไป และสร้างจิตสำนึกให้กับส่วนราชการและผู้ประกอบการต่างๆ รับนักเรียนนักศึกษาเข้าไปทำงาน เพื่อสนองตอบต่อการรับใช้สังคม และการบริหารจัดการที่ดี คำนึงถึงหลักการเพิ่มประสิทธิภาพ การดำเนินงานของกองทุนให้มีความสามารถที่จะดำรงอยู่ และเป็นหลักประกันให้กับผู้เรียนต่อไป โดยมีข้อเสนอแนะปรับปรุงการบริหารจัดการ โดยเฉพาะการใช้ระบบดิจิทัล ระบบการสื่อสารข้อมูลที่ดี และระบบการประชาสัมพันธ์ที่ทั่วถึงผู้ที่จะกู้เงินยืมเรียน โดยจะทำรายงานต่อสภาผู้แทนราษฎรต่อไป

นายประกอบ รัตนพันธ์ โฆษกคณะกมธ.ชี้แจงสาระสำคัญ ซึ่งประเด็นที่สร้างความสับสนให้ผู้กู้เข้าใจว่า เงินที่ให้กู้ยืมไม่ได้เป็นเงินให้เปล่า ผู้กู้ทุกรายจะต้องชำระหนี้ ตามระเบียบข้อบังคับของกองทุนยกเว้นเพียงผู้พิการที่ไม่สามารถประกอบวิชาชีพได้ หรือกรณีได้รับอุบัติเหตุจนเสียชีวิต , ผู้รับรองรายได้ไม่ใช่ผู้ค้ำประกัน มีหน้าที่รับรองว่าผู้กู้หรือผู้ปกครองของผู้กู้ มีรายได้ไม่เกิน 360,000 บาทต่อปี จึงไม่ต้องร่วมรับผิดชอบ , โดยผู้รับรองเงินเดือนเป็นข้าราชการ แต่ผู้ค้ำประกันเป็นบุคคลใดก็ได้ , กองทุน กยศ. ขณะนี้มีเงินมากพอให้ผู้ที่มีคุณสมบัติสามารถกู้ได้ครบถ้วน 100 เปอร์เซ็น ทุกคน , และไม่ต้องเปลี่ยนแปลงศาสนา ตามที่มีความเข้าใจคลาดเคลื่อนอยู่ขณะนี้

นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการฯ ยืนยันว่า เด็กที่ขาดแคลนสามารถ งกู้เงินได้ทุกคน ส่วนบุคคลที่ถูกดำเนินคดีและไม่มีเงินชำระหนี้ กองทุนให้โอกาสเสมอ มีน้อยให้ชำระน้อย มีมากให้ชำระมาก หากไม่มีชำระก็ขอให้ติดต่อกองทุน ก็พร้อมที่จะดูแล ย้ำว่าผู้รับรองรายได้จะต้องเป็นข้าราชการของรัฐ แต่ผู้ค้ำประกันจะเป็นใครก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นข้าราชการ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"