'บิ๊กตู่' ซัดคนปล่อยข่าวนักลงทุนหนีไทย ยันรัฐบาลคิดหารายได้เข้าประเทศตลอด รับมีเงินน้อยต้องประหยัด


เพิ่มเพื่อน    

16 ก.ย.63 - ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบศ. ครั้งที่ 3/2563 ว่า เป็นการประชุม ศบศ.ครั้งที่ 3 ที่ได้มีการดำเนินการมาตามลำดับ ตามช่วงระยะเวลา ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และต้องพิจารณาดำเนินการแก้ไขปัญหาทั้งระยะปานกลางและระยะยาว เพราะเราไม่ทราบว่าสถานการณ์โควิด-19 จะสิ้นสุดวันใด

ฉะนั้น ต้องเตรียมมาตรการเหล่านี้ให้เหมาะสม พร้อม และทันเวลา โดยวันนี้มีการเสนอขออนุมัติหลักการโครงการหลายลักษณะด้วยกันในเรื่องการดูแลเศรษฐกิจฐานราก การดูแลผู้ประกอบการ โครงสร้างพื้นฐาน การลงทุนภาครัฐ และการลงทุนในประเทศให้เกิดความต่อเนื่อง โดยหลายประเทศให้ความสำคัญเรื่องเหล่านี้และได้พยายามติดต่อขอเข้ามาดูกิจการและแผนการลงทุนของเขา

วันนี้จึงได้มีการขออนุมัติหลักการเบื้องต้นว่าจะมีกรอบอะไรบ้าง โดยเฉพาะเรื่องการท่องเที่ยว นักธุรกิจ การอนุมัติวีซ่า รวมถึงการลงทุนอีอีซี ก็อยู่ในขั้นตอนของการเจรจาตกลงสัญญา ทุกอย่างไม่ได้หยุดนิ่ง แม้จะมีปัญหาโควิด-19 ก็ตาม ยังมีการติดต่อ ประชุมร่วม และประชุมทางไกลกันอยู่ตลอด ขออย่าไปพูดอะไรให้เกิดความเสียหายมากนักในกรณีที่ว่าทุกคนไม่อยากมาลงทุนในไทยแล้ว พูดแบบนี้คิดว่าไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ มันขัดกับข้อเท็จจริง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สิ่งที่อยากจะบอกกับประชาชน ให้เห็นว่ารัฐบาลมีแผนลงทุนมาอย่างต่อเนื่องตามลำดับ โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐาน ถือเป็นสิ่งสำคัญ ทั้งทางเรือ ทางบก และทางอากาศ ทุกอย่างมีความก้าวหน้าตามลำดับ มีการลงนามสัญญาเดินหน้าต่อไป ไม่ได้หยุดยั้ง ที่สำคัญคือ รัฐบาลได้ดูแลผู้มีรายได้น้อย ซึ่งมี 2 สองส่วน ส่วนแรกคือ บัตรสวัสดิการของรัฐ

และส่วนที่สองจะมีมาตรการเฉพาะกลุ่ม เฉพาะอย่างออกไปให้ประชาชน และวันนี้คณะอนุกรรมการได้มีข้อเสนอหลายอย่าง ซึ่งมาจากฝ่ายธุรกิจด้วย ไม่ใช่ว่าตนจะทำอะไรสนับสนุนกับเขา แต่ให้เขาคิดมาว่าควรจะมีโครงการประเภทใดบ้าง ทั้งในส่วนที่จะดูแลผู้มีรายได้น้อย และอีกส่วนคือการลงทุนระยะยาว เพื่อให้มีรายได้กลับเข้ามาประเทศ ในขณะที่รายได้เรามีเท่านี้ไม่พอ ต้องมีการลงทุน และการลงทุนไม่ได้ใช้เวลาแค่ 1 ปี 2 ปี ต้องใช้เวลา 3 ปี 5 ปี ถึง 10 ปี ที่จะมีรายได้กลับเข้ามา และเพิ่มรายได้ภาครัฐ นี่คือ การทำงานแบบนิว นอร์มอล ซึ่งต้องทำ จะหาว่ารัฐบาลไม่คิดอะไรเลย มันไม่ใช่ รัฐบาลคิดตลอดเวลา

นายกฯ กล่าวว่า ก่อนการประชุม ศบศ. ตนได้พบกับนักเศรษฐศาสตร์ ทั้งจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลายข้อเสนอตรงกับสิ่งที่รัฐบาลทำในวันนี้ และเมื่อเปรียบเทียบกับแก้โควิด-19 กับเศรษฐกิจมันแตกต่างกับต่างประเทศอย่างไร ตนคิดว่าในหัวข้อไม่ต่างกันเลย มีเพียงอย่างเดียวคือ เงินเราน้อยกว่าเขา ซึ่งเราต้องเห็นใจประเทศของเรา ตนพยายามจะใช้เงินอย่างประหยัดที่สุด จะได้ไม่เป็นภาระต่อไปในอนาคต แต่อะไรที่มันจำเป็นก็ต้องทำ ถ้าไม่ทำประชาชนเดือดร้อนทั้งประเทศจะทำอย่างไร นั่นคือ สิ่งที่ตนขอฝากไว้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์แถลงข่าวเสร็จสิ้น ผู้สื่อข่าวได้พยายามถามถึงมาตรการ 3,000 บาท และความคืบหน้าเรื่องโผแต่งตั้งนายทหารประจำปี รวมถึงกระแสข่าวคนนอกจะมาเป็น รมว.คลัง โดยพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ตอบคำถาม ได้แต่ยิ้ม และโบกมือไม่ตอบ. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"