'โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้'ชี้กำลังซื้อคนกรุงดันคอนโดพัทยาฟื้นตัวเร็ว


เพิ่มเพื่อน    

 

25 ก.ย.2563 นายณพงศ์ ปริพนธ์พจนพิสุทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้ จำกัด บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์คุณภาพครบวงจร เปิดเผยว่า สำหรับตลาดคอนโดมิเนียมหรูในพัทยาเริ่มส่งสัญญาณบวก โดยตลาดกลับมาฟื้นตัวได้เร็ว หลังสถานการณ์การระบาดโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย จากปัจจัยหลายส่วนด้วยกัน นอกจากพัทยาจะเป็นเมืองเศรษฐกิจสำคัญ และเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมแล้ว ยังมีปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ เช่น การขยายตัวของโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้การเดินทางสะดวกมากยิ่งขึ้น

 ทั้งนี้เพื่อรองรับการเติบโตของเมืองพัทยาในอนาคต และการท่องเที่ยวที่จะกลับมาบูมอย่างมากอีกครั้ง ทาง โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้  จึงได้ใช้งบลงทุนประมาณ 200 ล้านบาท รีโนเวทโรงแรม โอเชี่ยน มารีน่า ยอช์ท คลับ ครั้งใหญ่ คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงต้นปีหน้า โดยหันมาเน้นกลุ่มลูกค้าที่เป็นกลุ่มครอบครัวมากขึ้น ตามเทรนด์การท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป  

 นอกจากนี้ ยังมี 6 ปัจจัยสำคัญที่ทำให้พัทยาเป็นทำเลที่น่าสนใจ คือ 1. ระยะทางขับรถไม่ไกลจากกรุงเทพฯ  2. สถานที่ท่องเที่ยวมีความหลากหลาย 3. สิ่งอำนวยความสะดวกเพียบพร้อม 4. สาธารณูปโภคได้รับการพัฒนาอย่างดี 5. พัทยาเป็นหนึ่งใน
ทำเลยอดนิยมในการซื้อบ้านหลังที่สองและ 6. การพัฒนาโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่รัฐบาลผลักดันอย่างเต็มที่ในช่วงที่ผ่านมา
 
นายณพงศ์ กล่าวต่อว่า พัทยาถือเป็นหนึ่งในทำเลหลักของการพัฒนาโครงการของ โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้ ซึ่งพบว่าในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา ยอดขายโครงการโอเชี่ยน พอร์โตฟิโน่ จอมเทียน-พัทยา มีการซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2563 สามารถสร้างยอดขายได้กว่า 250 ล้านบาท ขณะเดียวกันยังพบว่ากลุ่มลูกค้าที่เข้ามาซื้อไม่ใช่เฉพาะกลุ่มนักธุรกิจที่มีเงินเย็นและมีรายได้สูงเท่านั้น แต่ยังมีลูกค้ากลุ่มใหม่ๆทั้งนักธุรกิจรุ่นใหม่ อายุน้อย รวมถึงลูกค้าชาวจีนที่อาศัยและทำธุรกิจในประเทศไทย สนใจโครงการฯเข้ามาเลือกซื้อมากขึ้นด้วย
 
“โครงการคอนโดมิเนียมไฮไรส์ โอเชี่ยน พอร์โตฟิโน่ จอมเทียน-พัทยา มีความต้องการซื้อจากลูกค้าชาวต่างชาติเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะชาวจีนที่มองหาบ้านหลังที่สองในประเทศที่มีความปลอดภัย และมีระบบสาธารณสุขที่ดี จากโอกาสดังกล่าว 
โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้ มีแผนขยายตลาดลูกค้าชาวจีนเพิ่มขึ้น จากเดิมที่เน้นขายกลุ่มลูกค้าคนไทยเป็นหลัก แต่ปัจจุบันได้มีการทำตลาดผ่านทางเอเจนซี่จีนในพื้นที่ จนปัจจุบันห้องชุดเหลืออยู่ไม่ถึง 10% แล้ว จากจำนวน 268 ยูนิต”นายณพงษ์ กล่าว
 
อย่างไรก็ตามคาดว่าในอีก 2-3 ปีข้างหน้าอสังหาริมทรัพย์ และการท่องเที่ยวในพัทยาจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง เพราะพัทยามีโปรเจคลงทุนค่อนข้างเยอะ ส่วนหนึ่งเกิดจากโครงการอีอีซีที่ภาครัฐให้การสนับสนุนและลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ โครงการรถไฟความเร็วสูงที่เชื่อมต่อ 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา)

นายณพงษ์ กล่าวว่าขณะที่รถไฟความเร็วสูง ซึ่งมีแผนพัฒนาสถานีพัทยาในรูปแบบ TOD จะเพิ่มศักยภาพของพัทยาเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางความเจริญแห่งใหม่ในรูปแบบมิกซ์ยูสที่มีศูนย์การค้า โรงแรม ที่อยู่อาศัย ศูนย์การประชุม และแหล่งท่องเที่ยวขนาดใหญ่ของคนไทยและต่างชาติ รวมถึงเมกะโปรเจคต่าง ๆ ที่ภาคเอกชนเข้าไปลงทุนอีกหลายโครงการในช่วงที่ผ่านมา จะเป็นแรงกระตุ้นที่สำคัญที่จะส่งผลให้ตลาดคอนโดเมืองพัทยาจะกลับมาได้รับความนิยมของกลุ่มลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้าซื้อหาและลงทุนสำหรับเป็นบ้านพักตากอากาศเพิ่มมากขึ้นในอนาคต


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"