‘พจมาน’ปฏิรูปพท. ปรับฟ้าผ่า!‘เจ๊หน่อย’นำทีมออก‘สมพงษ์’กลืนเลือดตาม


เพิ่มเพื่อน    

 

เพื่อไทยรื้อใหญ่แค่ข้ามคืน "คุณหญิงพจมาน" คุมเอง ปรับโครงสร้างพรรคเพื่อไทยใหม่ หลัง "เจ๊หน่อย" จุดชนวนไขก๊อกจากประธานยุทธศาสตร์พรรค "สมพงษ์" จำใจต้องลาออกจากหัวหน้าพรรคตาม ส่งผลกรรมการบริหารพรรคทั้งหมดสิ้นสภาพ  เรียกคุย 28 ก.ย.นี้ ฟอร์มทีมใหม่ รวบแบงก์ย่อยเป็นแบงก์พัน   "สุวินัย" ชี้หมากประกาศิต "หญิงอ้อ" มันจบแล้วท่าน จับตาสัญญาณการปรับขั้วการเมืองครั้งสำคัญ
    หลังคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประกาศลาออกจาก ตำแหน่งประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยทางเฟซบุ๊กช่วงค่ำวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยระบุว่า เรียนพี่น้องประชาชนที่เคารพ วันนี้ดิฉันได้ขอลาออกจากประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยแล้ว
    ต่อจากนี้ ถึงแม้ดิฉันจะไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยแล้วก็ตาม แต่ดิฉันยังเป็นสมาชิกพรรคที่พร้อมจะยืนหยัด ต่อสู้เคียงข้างกับพี่น้องประชาชนในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย และร่วมผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญกับพี่น้องประชาชนให้สำเร็จ ตามแนวทางที่คณะกรรมการยุทธศาสตร์ได้เสนอไว้ทั้ง 5 ญัตติ
    สุดท้าย ดิฉันขอกราบขอบพระคุณพี่น้องประชาชนทุกท่าน ที่ได้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยในช่วงที่ดิฉันได้ทำหน้าที่ให้กับพรรคมาโดยตลอด จนทำให้พรรคชนะการเลือกตั้งเป็นลำดับ 1 ของประเทศได้จำนวน ส.ส.มากที่สุด
    ขอขอบคุณกรรมการยุทธศาสตร์ของพรรคทุกท่านที่ทำงานอย่างหนักเพื่อพรรคมาโดยตลอด และขอขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคทุกท่าน ที่ได้ร่วมทำงานกันมาด้วยความเสียสละ ทุ่มเทเพื่อพี่น้องประชาชน และร่วมผลักดันญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าวอย่างเต็มความสามารถ
    การลาออกที่ไม่ระบุเหตุผลนี้ สร้างความปั่นป่วนในพรรคเพื่อไทย และมีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่าเกิดความขัดแย้งภายใน ซึ่งก่อนนี้เคยเกิดขึ้นแล้วเมื่อครั้งการเลือกหัวหน้าพรรค เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว แต่ไม่รุนแรงเท่าครั้งนี้ ขณะเดียวกันมีกลุ่มที่แตกออกไปคือกลุ่มแคร์ ที่นำโดยนายภูมิธรรม เวชยชัย  ที่ขัดเแย้งกับคุณหญิงสุดารัตน์มาต่อเนื่องยาวนาน ก็ยังทิ้งปริศนาในความขัดแย้งมาจนถึงวันนี้
    ล่าสุดเมื่อวันเสาร์ คุณหญิงสุดารัตน์ได้เปลี่ยนรูปภาพปกหลังเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นรูปภาพขณะลงพื้นที่พบปะประชาชน และระบุว่า "ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใด หัวใจของดิฉันอยู่กับประชาชน" ก็ยังไม่ชัดเจนถึงสาเหตุการลาออกอยู่ดี
    หนำซ้ำคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยลาออกจากตำแหน่งตามไปด้วย อาทิ นายโภคิน พลกุล และ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา ที่เป็นมือกฎหมายสำคัญของพรรค
    ตามด้วยนายวัฒนา เมืองสุข ประกาศผ่านเพจเฟซบุ๊กชื่อ Watana Muangsook ระบุว่า คุณหญิงสุดารัตน์ประกาศลาออกจากตำแหน่ง อาจารย์โภคินและท่านพงศ์เทพประกาศลาออกตาม    ผมได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทย ซึ่งอยู่ภายใต้คณะกรรมการยุทธศาสตร์ของพรรคที่มีคุณหญิงเป็นประธาน จึงขอใช้โอกาสนี้ลาออกจากคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้วย แต่ยังเป็นสมาชิกของพรรคที่พร้อมจะต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยเหมือนเดิมครับ
    เช่นเดียวกับนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมการยุทธศาสตร์ ได้แชร์โพสต์เฟซบุ๊กของคุณหญิงสุดารัตน์ที่ประกาศลาออก มายังเฟซบุ๊กส่วนตัว Kittiratt Na Ranong พร้อมข้อความว่า “ท่านทำงานทุ่มเทเพื่อประชาชน เป็นแบบอย่างที่ยืนยันว่าคนของพรรคเพื่อไทยไม่ยึดติดกับตำแหน่ง อยู่ในหน้าที่ใดก็ทุ่มเทเพื่อประชาชนได้... ผมในฐานะกรรมการยุทธศาสตร์คนหนึ่ง ก็พร้อมพ้นหน้าที่พร้อมท่านประธานฯ เช่นกัน...”
สาเหตุการผ่าใหญ่
    นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส สมาชิกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า  "ผมขอประกาศลาออกจากตำแหน่งโฆษกคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยจะยังคงเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย และยืนเคียงข้างพี่น้องประชาชนในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยอยู่เสมอ"
    ด้านนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ อดีต รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ได้มีการประกาศลาออกจากตำแหน่งรองเลขาธิการพรรคว่า ที่ตนลาออกเพื่อจะได้ทำงานในส่วนของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้อย่างเต็มที่ เพราะก่อนหน้านี้ต้องเกี่ยวข้องกับการบริหารพรรคทำให้ยุ่งไม่ค่อยมีเวลา จะได้มาขับเคลื่อนงานด้านสภาได้อย่างเต็มที่ และพรรคเพื่อไทยก็ยังไม่ได้มีกำหนดการพูดคุยเรื่องการปรับโครงสร้างใหม่
    ผู้สื่อข่าวถามถึงแนวทางในการขับเคลื่อนในเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญและร่างญัตติทั้ง 5 นายจิรายุตอบว่า ในเรื่องนี้ต้องรอก่อน เพราะเพิ่งปิดสมัยประชุมไป แต่ในวันที่ 28 กันยายนนี้น่าจะพอเห็นภาพว่าทางผู้ใหญ่จะมีการเคลื่อนไหวอย่างไร
    ขณะที่นายวัน อยู่บำรุง ส.ส.กทม.เผยว่า สำหรับสาเหตุการผ่าใหญ่ เป็นผลจากการเมืองภายในพรรคที่มีความขัดแย้งระหว่างกลุ่มต่างๆ นอกจากนี้ การเมืองภายนอกยังมีการปรับเปลี่ยน จนวิจารณ์กันว่า พรรคเพื่อไทยไม่สามารถติดตามกระแสสถานการณ์ภายนอกได้อย่างทันการณ์ นำมาสู่การเตรียมผ่าตัดใหญ่ดังกล่าว
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความเคลื่อนไหวจากพรรคเพื่อไทย ทุกคนจับตาไปที่ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรค ที่มีความสนิทสนมกับคุณหญิงสุดารัตน์ ว่าจะลาออกตามไปด้วยหรือไม่ โดยคาดว่าเลขาธิการพรรคคนใหม่จะเป็น ส.ส.ที่เป็นสายตรงของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เพื่อมาดูภาพรวมในพรรค ซึ่งตอนนี้ถือว่ายังไม่นิ่ง มีชื่ออยู่หลายคน เช่น นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล, นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เป็นต้น
        ทั้งนี้ ส.ส.และสมาชิกพรรคเพื่อไทยต่างออกมาแสดงความคิดเห็นในกลุ่มไลน์ "ทางการ ส.ส.เพื่อไทย" สอบถามถึงกรณีที่เกิดขึ้นเพราะต่างไม่เข้าใจเหตุผลในการลาออกครั้งนี้  โดยเฉพาะกลุ่มส.ส.อีสาน ที่ให้การยอมรับในการนำของคุณหญิงสุดารัตน์ เพราะมองว่าคุณหญิงสุดารัตน์ทุ่มเทให้กับพรรคอย่างเต็มที่ เมื่อลาออกสมาชิกไม่ทราบเหตุผล ควรจัดประชุมเพื่อชี้แจงให้สมาชิกรับทราบเหตุผลที่แท้จริง
         แหล่งข่าวกล่าวว่า การลาออกของคุณหญิงสุดารัตน์ เป็นสัญญาณการปรับโครงสร้างใหญ่ของพรรค โดยมีความเป็นไปได้ที่กรรมการบริหารพรรคสายคุณหญิงสุดารัตน์จะลาออก ทำให้กรรมการบริหารพรรคเหลือไม่ครบตามข้อบังคับ ทำให้ต้องมีการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ หรือนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ตัดสินใจลาออกจากหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรคชุดเดิมก็จะต้องหลุดออกจากตำแหน่งไปทั้งหมด
         ล่าสุด มีรายงานว่านายสมพงษ์เตรียมประกาศลาออกจากหัวหน้าพรรค ซึ่งก็จะส่งผลให้หลุดจากการเป็นผู้นำฝ่ายค้านด้วย โดยมีการเดินสายอำลาผู้ใหญ่ในสภาผู้แทนราษฎรแล้ว และคนอื่นๆ คาดว่าจะมีการแถลงลาออกจากหัวหน้าพรรคอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้
รู้สึกเสียดายที่ตัดสินใจลาออก
        ขณะที่นายสมพงษ์ให้สัมภาษณ์ถึงการทยอยลาออกของกรรมการบริหารพรรค และคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยว่า เท่าที่ทราบจากในข่าวยังไม่ได้พบและติดต่อใครไม่ได้ แต่ในส่วนของคุณหญิงสุดารัตน์ ข้อเท็จจริงรู้สึกตกใจ เมื่อทราบข่าวช่วงค่ำวานนี้ และยังไม่มีโอกาสคุยกัน แต่ก็ต้องยอมรับว่าคุณหญิงสุดารัตน์เป็นผู้ที่มีความสำคัญกับทางพรรคเพื่อไทยมาก ในลักษณะการทำงานที่ไม่เหน็ดเหนื่อย สู้งานมาโดยตลอด จึงรู้สึกเสียดายที่ตัดสินใจลาออก และต้องเคารพการตัดสินใจ
         ส่วนกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยบางส่วนที่ทยอยลาออกนั้น นายสมพงษ์ระบุว่า ในเมื่อผู้นำของเขาลาออกไป ก็คงแสดงสปิริต  ไม่มีอะไร พวกเรากรรมการบริหารพรรคพูดจาพูดคุยกันได้ ยืนยันว่าไม่ถึงขั้นแตกแยก และเป็นไปไม่ได้ เพราะพรรคมีแนวทาง บุคลากรที่ทำงานในพรรคอยู่แล้ว และคงเป็นความรู้สึกติดพันกับบุคคลที่เป็นคนสำคัญ ก็ไม่ว่า และคงต้องพูดคุยกัน
         เมื่อถามถึงกระแสข่าวจะตัดสินใจลาออกจากหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายสมพงษ์ยอมรับว่า คิดอยู่ หมายความว่าถ้าหากว่าฟังก์ชันของพรรคมันอาจจะปรับในเรื่องของรูปแบบการบริหารใหม่ ถ้าจะต้องทำ ทางที่ดีที่สุดก็คือ ถ้าหัวหน้าพรรคลาออกสักคน ตำแหน่งต่างๆ ก็ต้องออกไปหมด ก็มีการจัดสรรใหม่ ก็คิดอยู่
        ถามว่าจะกระทบกับตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยตอบว่า ไม่เป็นไร เพราะใครมาเป็นหัวหน้าพรรคและเป็นผู้แทนราษฎรก็เป็นผู้นำฝ่ายค้านอยู่ดี ก็ให้ที่ประชุมใหญ่ได้พิจารณากันว่าจะหาคนมาแทนหรืออย่างไรก็แล้วแต่
        ซักว่าจะนัดประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคในสัปดาห์หน้าเลยหรือไม่ นายสมพงษ์ระบุว่า คงจะต้องมี เพราะการที่บุคคลสำคัญของพรรคมีการลาออกจากตำแหน่งไป พรรคจะต้องเรียกประชุม เพื่อจะพิจารณาว่าเป็นอย่างไร แต่เพิ่งรับทราบเมื่อคืน ก็ยังไม่ได้มีการนัดหมาย แต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ทางพรรคก็ต้องเรียกประชุมอยู่ดี โดยมีรองหัวหน้าพรรคที่จะทำหน้าที่รักษาการแทนหัวหน้าพรรคอยู่ไม่มีปัญหาอะไร
        ภายหลังการให้สัมภาษณ์ นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ ได้สอบถามกับนายสมพงษ์ถึงการลาออกของคุณหญิงสุดารัตน์ โดยระบุว่า “ผมในฐานะคนนอก ผมเข้าใจว่าคุณหญิงสุดารัตน์เขาลาออก เพราะจะไปลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร” ทำให้ตัวแทน 6 พรรคฝ่ายค้านยิ้มและหัวเราะกันอย่างอารมณ์ดี
    อย่างไรก็ตาม ต่อมานายสมพงษ์ให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า เดิมทีพรรคเพื่อไทยมีแนวคิดเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างคณะกรรมการบริหารพรรค และในส่วนของคณะทำงานด้านต่างๆ อยู่แล้ว เพื่อให้การทำงานคล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยตนเองก็พร้อมลาออกเพื่อเปิดทางให้มีการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการบริหารตามแนวทางที่วางไว้อยู่แล้ว แต่เนื่องจากการประชุมใหญ่สามัญประจำปีล่าสุดของพรรคเมื่อเดือน ก.ค.63 นั้นยังอยู่ในสมัยประชุมรัฐสภา หากลาออกเพื่อให้ปรับเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรค ก็จะกระทบตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ ไปด้วย จึงต้องรอให้ปิดสมัยประชุมสภาเสียก่อน ซึ่งก่อนจะปิดสมัยประชุมสภาเมื่อวันที่ 25 ก.ย. ก็ได้มีการพูดคุยแนวทางกันมาตลอด
เซ็นหนังสือลาออก
    "วันนี้ผมจะเซ็นหนังสือลาออกจากเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และได้นัดประชุมกรรมการบริหารพรรคชุดรักษาการ และ ส.ส.ในวันที่ 28 กันยายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับกำหนดวันประชุมใหญ่วิสามัญ เพื่อที่จะเลือกกรรมการบริหารพรรคใหม่โดยเร็ว คาดว่าน่าจะเป็นช่วง 2 สัปดาห์แรกของเดือนตุลาคมนี้" นายสมพงษ์ กล่าว
     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมพงษ์ลงนามในคำสั่งพรรคเพื่อไทยเรื่อง มอบหมายให้ทำหน้าที่รักษาการแทนในตำแหน่งหัวหน้าพรรค โดยมีเนื้อหาดังนี้
    ด้วยหัวหน้าพรรคเพื่อไทยดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรด้วยในขณะเดียวกัน จึงมีภารกิจมาก แม้จะมีรองหัวหน้าพรรคหลายคน แต่ยังมิได้มีการมอบหมายให้รองหัวหน้าพรรคหรือกรรมการบริหารพรรคคนใดทำหน้าที่รักษาการในตำแหน่งหัวหน้าพรรคแทน ในกรณีที่หัวหน้าพรรคไม่อยู่หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ หรือเมื่อหัวหน้าพรรคต้องพ้นจากตำแหน่ง และต้องดำเนินการประชุมเพื่อเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ จึงอาจทำให้เกิดปัญหาความต่อเนื่องในการบริหารงานของพรรคได้
    นายชูศักดิ์ ศิรินิล รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงว่า นายสมพงษ์ได้ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นเหตุให้คณะกรรมการบริหารพรรคทั้งคณะพ้นจากตำแหน่ง และจะต้องมีการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ในฐานะผู้รักษาการหัวหน้าพรรค จึงขอเรียกประชุมรักษาการคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อกำหนดให้มีการเรียกประชุมใหญ่วิสามัญในการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ โดยจะมีการประชุมรักษาการคณะกรรมการบริหารพรรคในวันจันทร์ที่ 28 ก.ย. เวลา 10.00 น. ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย ถนนเพชรบุรีตัดใหม่
    ด้าน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีตเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และอดีตคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ผมกับพี่หน่อย หรือคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ Sudarat Keyuraphan มีความผูกพันกันมาอย่างยาวนาน เริ่มต้นจากในฐานะ ส.ส.กรุงเทพมหานคร ที่มีพี่หน่อยเป็นหัวหน้าทีม กทม. จนกระทั่งล่าสุดผมเป็นเลขาธิการพรรคและกรรมการยุทธศาสตร์ของพรรค ก็ยังได้ทำงานร่วมกับพี่หน่อยที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานกรรมการยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทย
    พี่หน่อยเป็นคนทำงานหนัก ซื่อสัตย์และรักพรรค พี่หน่อยพร้อมสู้กับทุกคน ยกเว้นคนในพรรคที่พี่หน่อยจะไม่ยอมทะเลาะด้วย  การเลือกตั้งที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยได้อานิสงส์จากความทุ่มเทของพี่หน่อยจนชนะเลือกตั้งได้ ส.ส.มากที่สุด แต่ทำให้พี่หน่อยสอบตก เพราะตามรัฐธรรมนูญ 2560 ที่พวกเรากำลังขอแก้ไข หากได้ ส.ส. เขตมากเท่าไร ก็จะไม่ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ แต่ "พี่หน่อยก็พร้อมจะสอบตกเพื่อให้พรรคได้จำนวน ส.ส.มากที่สุด"
    ก่อนที่จะตัดสินใจลงสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ผมเคยขอให้พี่หน่อยลงสมัคร ส.ส.เขตที่ผมลงสมัคร โดยผมอาสาจะเฝ้าพื้นที่หาเสียงให้ แต่พี่หน่อยบอกว่า หากลง ส.ส.เขตจะทำให้ไปช่วยผู้สมัครของพรรคได้ไม่เต็มที่ เพราะจะต้องลงพื้นที่ให้ตัวเอง จึงปฏิเสธคำขอของผม ที่จริงแล้วผมเชื่อว่าอีกเหตุผลที่สำคัญคือ พี่หน่อยไม่อยากมาแย่งพื้นที่ของผม
ปรับโครงสร้างพรรคเพื่อไทย
    "วานนี้พี่หน่อยได้ลาออกจากประธานกรรมการยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทย ตอนแรกผมตั้งใจจะลาออกตามพี่หน่อย เพื่อเปิดทางให้พรรคได้เลือกบุคคลที่เหมาะสมมาทำหน้าที่แทนผมต่อไป แต่เมื่อทราบว่าหัวหน้าพรรคจะลาออก ซึ่งจะทำให้ตำแหน่งเลขาธิการพรรคของผมสิ้นสุดไปด้วย ผมจึงรอให้ตำแหน่งของผมสิ้นผลไปพร้อมหัวหน้าพรรค ส่วนใจผมออกตามพี่หน่อยไปตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้วครับ" น.อ.อนุดิษฐ์ระบุ
         นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน)กล่าวว่า อย่าไปตกใจ แต่ถึงวาระที่ต้องปรับเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรค จึงลาออกเพื่อให้การปรับเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรคเป็นไปด้วยความราบรื่น ส่วนการลาออกของคุณหญิงสุดารัตน์ ถือเป็นการปรับโครงสร้างการบริหารพรรค ยืนยันว่าไม่ใช่การส่งสัญญาณแพแตกของพรรคเพื่อไทยที่ทุกคนลาออกกันทั้งหมด แต่เป็นการปรับโครงสร้างพรรคเท่านั้น
    ส่วนกระแสข่าวคุณหญิงพจมานจะเข้ามาควบคุมการบริหารงานพรรคเพื่อไทยเองนั้น เป็นข้อสันนิษฐานกันไป ยังไม่ทราบว่าจริงหรือไม่ แต่ที่ผ่านมาคุณหญิงพจมานไม่เคยเข้ามายุ่งเกี่ยวการบริหารงานของพรรคเพื่อไทย
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเหตุผลการปรับโครงสร้างพรรคเพื่อไทย เพราะต้องการสร้างพรรคให้ยิ่งใหญ่เหมือนสมัยพรรคไทยรักไทย กอบกู้วิกฤติศรัทธา ทำพรรคให้มีทิศทางฝากความหวัง ชิงกระแสประชาชน ประชาธิปไตย จากพรรคก้าวไกล กลับมาเป็นเสาหลักอย่างแข็งแกร่งเหนือใคร หลังจากรัฐธรรมนูญปี 60 ที่ใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียวทำให้ต้องแตกพรรค แกนนำส่วนหนึ่งออกไป และเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองทำให้ขาลอย หลายคนก็แยกตัวออกไปเพราะเข้ากับแกนนำซีกคุณหญิงสุดารัตน์ไม่ได้ และต้องการจะกลับมา เพียงแต่โครงสร้างพรรคไม่เอื้ออำนวย
    ดังนั้นจึงต้องทำการปรับโครงสร้างเพื่อเปิดทางให้ทุกคน ทุกกลุ่มสามารถกลับมาทำงานร่วมกันในลักษณะคานอำนาจ แยกกลุ่ม ก๊วน และรวมกันเพื่อต่อสู้เลือกตั้งครั้งใหม่ บนสมมติฐานการคาดหวังว่าจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ กลับไปใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ แต่ถ้าแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่สำเร็จ อาจต้องเปลี่ยนแผนแยกพรรคเช่นเคย
    สำหรับการกลับมารวมกันจำเป็นต้องได้ผู้มีบารมีตัวจริงมาอยู่เบื้องหลังการนำพรรค ดังนั้น คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ภริยานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะเข้ามานำทัพและเป็นผู้ประสานงานด้วยตัวเอง โดยจะไม่รับตำแหน่งทางการเมืองใดๆทั้งสิ้น จะรวบรวมนักการเมืองที่แตกออกไปทั้งหมดให้กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง เพื่อให้การบริหารงานเป็นเอกภาพ โดยต้องปรับเปลี่ยนจากโครงสร้างเดิม ผู้ใหญ่ในพรรคซึ่งไม่ได้เป็น ส.ส. และได้บริหารพรรคอยู่ในคณะกรรมการยุทธศาสตร์จึงต้องลาออก เพื่อจะยุบคณะกรรมการชุดนี้ ให้มาทำงานภายใต้คุณหญิงพจมานโดยตรง และจะให้มีกรรมการบริหารพรรคน้อยลงกว่าเดิม แต่กระจายตัวแทนจากทุกกลุ่มเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น
หมากประกาศิต
    ดร.สุวินัย ภรณวลัย ประธานยุทธศาสตร์วิชาการ สถาบันทิศทางไทย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “Suvinai Pornavalai” โดยจั่วหัวว่า “หมากประกาศิตของคุณหญิงพจมาน”
    ระบุเนื้อหาโพสต์ว่า “การเมืองไทยแต่เดิมก็เป็นการเมืองเชิงสัญลักษณ์อยู่แล้ว อาการแพแตกของพรรคเพื่อไทยแพแตกในคืนนี้ น่าจะเพราะได้รับสัญญาณบางอย่างเจ้าของพรรคตัวจริงนั่นเอง
         ถ้าอาการแพแตกของพรรคเพื่อไทยในคืนนี้ ทำให้ถอนฟืนออกจากกองเพลิงได้ เราคงต้องขอบคุณคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ที่ขยับหมาก “ประกาศิต” นี้เพื่อบ้านเมืองอย่างแท้จริง” คุณหญิงพจมานฉลาดและล้ำลึกจริงๆ    
    ถ้าคนอ่านเกมขาด หมากนี้ของคุณหญิงพจมานบอกได้คำเดียวว่า “มันจบแล้วท่าน” หลังจากนี้พวกเสื้อแดงคงต้องตัวใครตัวมันแล้วละ ส่วนม็อบวันที่ 14 ตุลาเดือนหน้าคงเกิดยากแล้ว"
    ในเวลาต่อมา ดร.สุวินัยได้โพสต์ในเฟซบุ๊กเพิ่มเติมฉบับยาวว่า “ก่อนจะมาถึง “หมากประกาศิต” ของคุณหญิงพจมาน ซึ่งเนื้อหาโพสต์โดยสรุปมีการกล่าวถึงเหตุผลของแนวคิด ดร.สุวินัยเองว่า ทำไม 14 ตุลาคม 2563 คงเกิดยาก นั่นเพราะความเคลื่อนไหวครั้งนี้เกี่ยวข้องกับขบวนการล้มเจ้า ซึ่งพรรคเพื่อไทยไม่ต้องการเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย เพราะเกรงว่ามีความเสี่ยงที่จะถูกยุบพรรคอีก แต่พรรคเพื่อไทยมีความต้องการเพียงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อแก้ไขวิธีการเลือกตั้งในปัจจุบันที่พรรคเสียประโยชน์ จึงปรากฏคนเสื้อแดงมาร่วมชุมนุมกับม็อบนักศึกษาปลดแอกทั้งในวันที่ 16 สิงหาคม และวันที่ 19 กันยายน แต่ท้ายที่สุดเมื่อเกิดกระแสเกินเลยมากกว่าการล้มรัฐธรรมนูญ จึงมีคำสั่งหยุดขนคนมาเพิ่มที่สนามหลวงให้ครบ 100,000 คนในการชุมนุมเมื่อวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา
    และเป็นที่มาของ “หมากประกาศิต” ของคุณหญิงพจมาน การที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รวมถึง ส.ส.ในสายลาออกจากกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย จึงสร้างแรงกระเพื่อนระดับสึนามิให้แก่การชุมนุมของคนเสื้อแดงและกลุ่มเยาวชนนักศึกษาปลดแอกหลังจากนี้อย่างแน่นอน
         น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุข้อความว่า สุดารัตน์ลาออก มันจะบังเอิญเกินไปไหม เมื่อเกิดภาพอยู่เป็นของคุณหญิงพจมาน แล้วคุณหญิงสุดารัตน์ก็ลาออกเลย"
    ขณะที่นายไพศาล พืชมงคล อดีตที่ปรึกษา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ โพสต์เฟซบุ๊กว่า ฝนตกบ้านน้อง ฟ้าไปร้องถึงบ้านพี่      การลาออกจากตำแหน่งสำคัญในพรรคเพื่อไทย ของแกนนำหลายคน บ่งบอกสัญญาณการปรับขั้วการเมืองครั้งสำคัญ งบประมาณผ่านแล้ว  
    "ฟันธง เป็นสัญญาณปรับใหญ่ พวกโกงได้โกงเอา พวกขี้เท่อ หน้าด้านเส็งเคร็ง คงหนาว ทวงกระทรวงสำคัญดีนัก ต้องสั่งสอนเสียให้เข็ด ให้รู้เสียมั่งว่าไผเป็นไผ ลุงสนธิรัตน์ของผมจะคัมแบ็กไหมเนี่ย?" นายไพศาลระบุ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"