สำรวจทัพ'สีกากี'ยุคใหม่ สปอตไลต์ส่องอนาคต'ผบ.ตร.'


เพิ่มเพื่อน    

 

การจัดทัพ "กรมปทุมวัน" ยุคใหม่เสร็จสิ้นเรียบร้อย หลังราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ระบุมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งต่างๆ จำนวน 298 ราย

            โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2563 เป็นต้นไป

            ถือเป็นการเริ่มต้นการทำงานภายใต้การกุมบังเหียนของ "บิ๊กปั๊ด" พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ป้ายแดงอย่างเป็นทางการ ที่รับไม้ต่อมือมาจาก "บิ๊กแป๊ะ" พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เพื่อนร่วมรุ่น นรต.36 พร้อมๆ กับความคาดหวังของเหล่า "สีกากี" ทั่วประเทศ

            ที่แม้แต่ "บิ๊กแป๊ะ" ยังยืนยันการันตีเอาไว้....

                "...นับจากนี้ไป ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ คือ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข จะสามารถนำพาองค์กรให้ไปสู่จุดหมายที่ได้ตั้งใจไว้ ด้วยความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ต่างๆ ของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ผมเชื่อได้สนิทใจว่าสามารถที่จะรับภารกิจในทุกๆ ด้านได้ เพียงแต่พวกเราทุกคนต้องช่วยผู้บัญชาการท่านใหม่"

            เป็นโจทย์ใหญ่ที่ "บิ๊กปั๊ด" จะต้องพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นความรู้ความสามารถในการบริหารงานทุกๆ ด้านตลอดห้วงเวลา 2 ปี ตามอายุราชการที่จะเกษียณในปี 2565

            หากไม่เกิดรายการ "ฟ้าผ่ากรมปทุมวัน"!!!

            อย่างไรก็ดี ฟ้าจะผ่าหรือไม่ผ่า ก็อยู่ที่การทำงานบนเก้าอี้ "ผบ.ตร." ของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ซึ่งคงต้องใช้เวลาในการพิสูจน์อีกระยะหนึ่ง

                ถึงจะเห็นหน้า เห็นหลัง เห็นอนาคต!!!

            แต่สิ่งที่น่าสนใจในการจัดทัพ "กรมปทุมวัน" ยุคใหม่นี้ กลับมีประกายแสงสว่างส่องให้เห็นอนาคต "กรมปทุมวัน" ยุคต่อๆ ไปแบบน่าสนใจ แบบไม่น่ามองข้าม เพราะทุกตำแหน่งที่ได้รับการแต่งตั้งครั้งนี้เหมือนเป็นการส่งสัญญาณ

                "ผบ.ตร." ในอนาคต!!!

            สปอตไลต์สาดส่องไปที่รายแรก พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ขึ้นเป็นจเรตำรวจแห่งชาติ เกษียณปี 2566 ทายาทกลุ่มธุรกิจสายการบิน "บิ๊กเด่น" พล.ต.ท.ดำรงค์ศักดิ์ กิตติประภัสร์ ขึ้นเป็น รอง ผบ.ตร. (นรต.38) เกษียณปี 2566 เป็นน้องเลิฟ "บิ๊กแป๊ะ" และมีสายสัมพันธ์ทางทหารแบบไม่ธรรมดา

            เช่นเดียวกับ พล.ต.ท.สราวุฒิ การพานิช  ขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร. (นรต.40) เกษียณปี 2567 สายตรง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง ขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร. (นรต.39) เกษียณปี 2568 ทำงานด้านจิตอาสามาอย่างต่อเนื่อง พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร. เกษียณปี 2566 เป็นบุตรชายคนที่ 2 ของ พล.ต.อ.เภา สารสิน อดีตอธิบดีกรมตำรวจ

            ไฮไลต์สำคัญอีกคนที่ต้องเน้นย้ำตัวเป้งๆ เอาไว้ว่ามีโอกาสก้าวขึ้นสู่เก้าอี้ "ผบ.ตร." ในอนาคตเช่นเดียวกัน ซึ่งในการแต่งตั้งครั้งนี้ได้ขยับนั่งเก้าอี้สำคัญ คือ "บิ๊กต่อ" พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ขึ้นเป็นผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) เกษียณราชการปี 2567 เพราะหากย้อนไปดูเส้นทาง "สีกากี" ของ พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ ในการขยับแต่ละตำแหน่งไม่ธรรมดา มีแรงหนุนระดับ "ซูเปอร์เพาเวอร์"

            แม้จะเหลืออายุราชการก่อนเกษียณปี 2567 เพียง 4 ปี แต่การจะก้าวขึ้นสู่เก้าอี้ "ผู้นำสีกากี" ก็ไม่ใช่เรื่องยากเท่าใดนัก

            ดังนั้น "สีกากี" ทุกนายที่ถูกสปอตไลต์สาดส่องทั้งหมดเหล่านี้ ล้วนมีโอกาสขยับขึ้นเป็น "ผบ.ตร." ในอนาคตทั้งสิ้น.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"