ต่อฉุกเฉิน1ด.ไฟเขียว6กลุ่มเข้าไทย


เพิ่มเพื่อน    

  ศบค.ชง ครม.ต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินอีก 1 เดือน ไฟเขียว 6 กลุ่มเข้าไทย เปิดประเทศรับนักธุรกิจ-นักท่องเที่ยวต่างชาติ นายกฯ แจงเพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้าได้ สธ.ยันคุมโควิดอยู่ พร้อมตั้งวอร์รูมเกาะติดสถานการณ์เมียนมา พบผู้ป่วยใหม่ 22 ราย กลับจากต่างประเทศอยู่ในสถานกักตัว

    ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 11.45 น. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงสถานการณ์โควิด-19 พบผู้ป่วยรายใหม่ 22  รายในสถานที่กักตัวของรัฐ มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 3,545 ราย ยอดสะสมของผู้ที่รักษาหายแล้วรวม 3,369 ราย จำนวนผู้เสียชีวิตสะสม 59 ราย รักษาตัวในโรงพยาบาล 117 ราย
    สำหรับผู้ป่วยรายใหม่รายที่ 1 มาจากปากีสถาน เป็นนักเรียนชายไทยอายุ 13 ปี เดินทางมากับครอบครัวถึงไทยวันที่ 13 ก.ย. เที่ยวบินเดียวกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า 2 ราย เข้าพักในสถานที่กักตัวของรัฐ จ.ชลบุรี ตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 วันที่ 26 ก.ย. ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ เข้ารักษาโรงพยาบาลใน จ.ชลบุรี รายที่ 2-17 มาจากซูดานใต้ เป็นชายไทย อาชีพรับราชการทหาร (ทหารช่างเฉพาะกิจ ไปปฏิบัติภารกิจทางทหาร) อายุระหว่าง 27-54 ปี เดินทางถึงไทยโดยเครื่องบินเช่าเหมาลำเมื่อวันที่ 22  ก.ย. เข้าพักในสถานที่กักตัวของรัฐ จ.ชลบุรี ตรวจหาเชื้อครั้งที่ 1 วันที่ 26 ก.ย. ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
    รายที่ 18 มาจากฟิลิปปินส์ เป็นชายไทย อายุ 24 ปี อาชีพรับราชการทหาร (ไปศึกษาวิชาทหาร)  เดินทางถึงไทยวันที่ 23 ก.ย. เข้าพักในสถานที่กักตัวของรัฐ จ.ชลบุรี ตรวจหาเชื้อครั้งที่ 1 วันที่ 26 ก.ย.  ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแหลมฉบัง จ.ชลบุรี และรายที่ 19-22 มาจากอินเดีย โดย 3 รายเป็นมารดาและบุตรหญิง สัญชาติอินเดีย อายุ 35 ปี และอายุ 7 ขวบ และชายสัญชาติอินเดีย อายุ 38 ปี เป็นกรรมการบริษัท มีใบอนุญาตทำงาน เดินทางถึงไทยวันที่ 23 ก.ย. เข้าพักในสถานที่กักตัวแบบทางเลือกในกรุงเทพฯ ตรวจหาเชื้อครั้งที่ 1 วันที่ 26 ก.ย. ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ เข้ารับการรักษาโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ และอีก 1 รายสัญชาติอินเดีย อายุ 30  ปี อาชีพพนักงานบริษัท เดินทางถึงไทยวันที่ 25 ก.ย. เข้าพักในสถานที่กักตัวแบบทางเลือกในกรุงเทพฯ ตรวจหาเชื้อครั้งที่ 1 วันที่ 25 ก.ย. ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ เข้ารับการรักษาโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ   
    สำหรับสถานการณ์โลก ยอดผู้ติดเชื้อรวม 33,304,666 ราย รักษาหายแล้ว 24,634,298 ราย และเสียชีวิต 1,002,389 ราย เป็นครั้งแรก ส่วนประเทศเมียนมาซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้าน ผู้ติดเชื้อ 10,734  ราย ซึ่งขอบชายแดนของเมียนมาติดกับไทยถึง 10 จังหวัด คือ เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก  กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และระนอง จึงขอพี่น้องประชาชนที่อยู่ใน 10 จังหวัดนี้ร่วมมือกันดูแลขอบแดนประเทศไทยเราเป็นอย่างดี เพราะในสถานการณ์ของเมียนมาที่เกิดขึ้น เกิดจากขอบที่ติดกับอินเดียและบังกลาเทศที่มีการติดเชื้อเริ่มต้นมาก่อน และไหลเข้ามาจนถึงใจกลางประเทศ   
    นพ.ทวีศิลป์กล่าวถึงผลการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค.เป็นประธานการประชุมว่า ในที่ประชุมได้รายงานว่าเพื่อสร้างความมั่นใจ ทำให้ต้องมีการตั้งกลุ่มเป้าหมายในการตรวจทางห้องปฏิบัติการให้มากขึ้น โดยมี 3 กลุ่มใหญ่ คือ 1.กลุ่มการตรวจสำหรับการเฝ้าระวัง ได้แก่ การเฝ้าระวังในระบบปกติ การเฝ้าระวังในกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ และการเฝ้าระวังพิเศษในกลุ่มอื่นๆ 2.การตรวจสำหรับการสอบสวนระบาดวิทยา กรณีพบผู้ป่วยยืนยันอย่างน้อย 1 รายขึ้นไป ได้แก่ การติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด การค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก และการค้นหาผู้ติดเชื้อในชุมชน 3.การตรวจเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ได้แก่ ผู้ป่วยต้องการตรวจเอง การตรวจในสถานประกอบการที่ต้องการเปิดกิจการ เป็นต้น  
ไฟเขียว 6 กลุ่มเข้าไทย
    โดย พล.อ.ประยุทธ์ได้เน้นย้ำต้องรณรงค์ต่อเนื่องการใส่หน้ากากผ้า หน้ากากอนามัยตลอดเวลา หลังพบประชาชนใส่หน้ากากลดลงจากช่วงเดือน พ.ค. จากเดิม 94.8 เปอร์เซ็นต์ เหลือเพียง 82.2  เปอร์เซ็นต์ จึงขอให้กลับไปเข้มงวดเหมือนเดิมให้ได้ 90 เปอร์เซ็นต์ถึงจะปลอดภัย ทั้งนี้ผลกระทบที่มีต่อระบบเศรษฐกิจ นายกฯ มีความห่วงใยเรื่องปากท้องของประชาชนที่เป็นสิ่งสำคัญ ทางแก้ไขทั้งหมดคือต้องมีมาตรการผ่อนคลายต่างๆ โดยมีมาตรฐานที่เราใช้คือกักตัว 14 วันในการควบคุมโรค แต่มีบางคนเข้ามาในระยะสั้นๆ เพื่อลงนามต่างๆ วันนี้จึงมีการรายงานความคืบหน้าการอนุญาตให้บุคคลเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร โดยอาศัยอำนาจตามข้อ 3 ของข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 ฉบับที่  13 มีทั้งหมด 6 กลุ่ม  
    1.นักกีฬาต่างชาติเดินทางเข้ามาร่วมการแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติเฉลิมพระเกียรติ ชิงถ้วยพระราชทาน วันที่ 6-16 ต.ค. จะให้กักตัว 14 วันที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ 2.นักบินและลูกเรือ บริษัท  การบินไทย จำกัด (มหาชน) ใน repatriation flight รวมกว่า 340 คน ที่บินไปสหรัฐอเมริกา ให้กักตัวในสถานที่กักตัว 3.อนุญาตให้ผู้ที่ถือวีซ่าประเภทคนอยู่ชั่วคราวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อเอื้อประโยชน์ในการขับเคลื่อนภาคเศรษฐกิจของประเทศ แต่ต้องมีสำเนาเงินฝากย้อนหลัง 6 เดือนติดต่อกัน ในจำนวนเงินเทียบเป็นเงินไทยไม่น้อยกว่า 5 แสนบาท
    4.กำหนดเงื่อนไขผู้ขอวีซ่าสำหรับกลุ่ม Long Stay ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบเมื่อวันที่ 15  ก.ย.แล้ว ผู้ที่จะเข้ามาต้องตรวจลงตราประเภท Special Tourist VISA (STV) โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติ ต้องถูกกักตัวในจังหวัดที่กำหนดเป็นเวลา 14 วัน สามารถเดินทางออกนอกที่พักได้ไม่เกิน 1 กิโลเมตร  หากไม่พบเชื้อจึงจะสามารถท่องเที่ยวนอกรัศมีที่กำหนด ซึ่งจะอยู่ในประเทศไทยได้ระยะยาวคือ 90 วัน  และต่อวีซ่าเพิ่มได้ 2 ครั้ง รวม 270 วัน หากต้องการข้ามจังหวัดต้องถูกจำกัดพื้นที่อีกครั้งนาน 7 วัน
    5.อนุญาตให้ผู้ถือบัตร APEC Card เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ซึ่งเป็นนักธุรกิจที่มีการคัดกรองและได้รับการยอมรับจากประเทศกลุ่มเอเปก 18 ประเทศ โดยเลือกประเทศที่มีความเสี่ยงน้อย  เช่น นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย สิงคโปร์ มาเลเซีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น จีน และฮ่องกง ซึ่งคาดว่าประมาณ 1  แสนคนจะเข้ามา และ 6.อนุญาตให้ผู้ประสงค์จะพำนักในประเทศไทยในระยะสั้น ระยะยาว เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ซึ่งคนที่มีความต้องการเข้ามาอยู่ใน 60 วันขอต่อได้อีก 30 วัน ทั้งนี้ต้องมีบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 6 เดือน มีจำนวนเงินเทียบเป็นเงินไทยไม่น้อยกว่า 5 แสนบาท โดยกระทรวงการต่างประเทศจะเป็นผู้พิจารณาอนุญาต
    นอกจากนี้ยังเห็นชอบให้จัดการแข่งขันแบดมินตันระดับนานาชาติ หรือ BWF World Tour ในประเทศไทย ในช่วงเดือนมกราคม 2564 โดยมีมาตรการควบคุมดูแลอย่างดี
    ด้าน พล.อ.ประยุทธ์เปิดเผยว่า ให้แนวทางในที่ประชุมไปว่าต้องหาวิธีการดูแลเพื่อให้เศรษฐกิจของเราเดินหน้าไปได้ด้วยดี กลุ่มแรกคือนักธุรกิจที่มาลงทุน ต้องมีมาตรการเฉพาะให้กลุ่มคนเหล่านี้ว่าจะทำอย่างไร มีมาตรการติดตามป้องกันอย่างไร กลุ่มที่สองคือนักท่องเที่ยว ที่มีหลายประเภททั้งระยะสั้นและระยะยาวแบบมาเที่ยว 60 วันขึ้นไป เราต้องดูตั้งแต่ต้นทางประเทศที่จะมา พื้นที่ที่พักอาศัย และการดูแลผู้ประกอบการชั้นล่าง เพื่อทำให้เศรษฐกิจของเราเดินหน้าไปให้ได้ในช่วง 3 เดือนข้างหน้า คือเดือน  ต.ค.-ธ.ค. ถ้าไม่ทำอะไรเลยจะแย่ไปกว่าเดิม ทุกอย่างจะถอยหลังมาทั้งหมด นอกจากนี้เป็นห่วงและกังวลเรื่องการใช้หน้ากากอนามัย ขอให้ใช้กันอย่างต่อเนื่อง กินร้อนช้อนกลาง ล้างมือ และการเว้นระยะห่างทางสังคม เชื่อว่าวันนี้ทุกคนก็กลัวโควิด-19 ขอให้ระมัดระวังกันต่อไป  
ตั้งวอร์รูมสกัดโควิดเมียนมา
    นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า สธ.มีความพร้อมต่อมาตรการเปิดประเทศในระยะต่างๆ ขอให้มั่นใจว่าหากมีเหตุการณ์ติดเชื้อ สธ.พร้อมทั้งการควบคุมโรคและรักษาพยาบาล
    พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เปิดเผยว่า ศบค.ได้มีมติเห็นชอบให้ขยายอายุการประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ออกไปอีก 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1-31 ต.ค.63 และในวันอังคารที่ 29 ก.ย.นี้จะเสนอขอความเห็นชอบจากที่ประชุม ครม. ทั้งนี้เหตุผลยังคงเหมือนเดิม เนื่องจากสถานการณ์ของโรคโควิด-19 ยังไม่คลี่คลาย อีกทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดของประเทศเพื่อนบ้านยังน่ากลัวอยู่ และกฎหมายอื่นๆ ยังทำได้ไม่สุด ขอยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมือง
    นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ที่ประชุม ศบค.ได้เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์โควิด-19 ตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา เพราะจากสถิติที่พบเมียนมามีผู้ป่วยโควิด-19  เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะนี้มากกว่า 10,000 คนแล้ว โดยขณะนี้มีการตั้งวอร์รูมขึ้นที่กระทรวงสาธารณสุขเพื่อติดตามสถานการณ์ และหากมีการเปลี่ยนแปลงจะได้เข้าไปสนับสนุนได้อย่างเต็มที่และทันท่วงที  ซึ่งประเทศเมียนมาเองก็พร้อมให้การสนับสนุนและประสานงานกับประเทศไทย
    นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า เราต้องคุยกับเมียนมา ซึ่งโดยปกติได้มีการพูดคุยกับรัฐมนตรีต่างประเทศของเขาอยู่แล้ว และคงต้องคุยกันในเร็วๆ นี้ถึงเรื่องการสกรีนคน ไม่ใช่ปล่อยให้มาออกันที่ด่านชายแดนเยอะแยะ เพราะเดี๋ยวจะควบคุมไม่ได้.

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"