ทีวีช่องดังงานเข้า! อดีตผู้พิพากษาฯขู่ฟ้องบิดเบือนกรณีรุกล้ำ'ป่า'


เพิ่มเพื่อน    

26 เม.ย.61 - นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา  เขียนข้อความเรื่อง "การกระทำผิดกฎหมายที่มีโทษทางอาญาและกระทำละเมิดทางแพ่ง" เรียนถึงผู้อำนวยการหรือผู้มีอำนาจสูงสุดของสถานีโทรทัศน์เวิร์คพอยท์ (work point) ช่อง 23 โดยเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊ก Chuchart Srisaeng   ว่า

ตามที่สถานีโทรทัศน์เวิร์คพอยท์ ซึ่งมีท่านเป็นผู้บริหารสูงสุดของสถานีได้นำข้อความที่ข้าพเจ้าเขียนลงในเฟซบุ๊คส่วนตัว เรื่องเกี่ยวกับการก่อสร้างอาคารศาลอุทธณ์ ภาต 5 และบ้านพักตุลาการที่จังหวัดเชียงใหม่โดยมีสาระสำคัญคือ

มหาวิทยาลัยราชภัฏเขียงใหม่ ก่อสร้างวิทยาเขตสะลวง-ขี้เหล็ก ใช้เนื้อที่มากถึง 6,235 ไร่เศษ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติซึ่งเป็นป่าตามกฎหมายได้ ไม่มีเคยได้ยินข่าวว่าผู้ใดคัดค้านหรืออ้างว่ารุกล้ำ"ป่า" 

สำนักงานศาลยุติธรรม ก่อสร้างอาคารศาลอุทธรณ์ ภาค 5 และบ้านพักตุลาการ ใช้เนี้อที่เพียง 147 ไร่เศษ หรือประมาณร้อยละ 2.36 ของเนื้อที่ที่ใช้ก่อสร้างมหาวิทยาลัยราชภัฏเขียงใหม่ วิทยาเขตสะลวง-ขี้เหล็ก ทั้งอยู่นอกเขตอุทยานแห่งชาติและไม่ได้เป็นป่าตามกฎหมาย แต่มีผู้คัดค้านซึ่งรวมทั้งสภาคณาจารย์ฯ โดยอ้างว่ารุกล้ำ"ป่า"

ทั้งนี้ข้าพเจ้ามีเจตนาเพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้รู้ว่า หน่วยงานราชการแห่งหนึ่งเข้าไปก่อสร้างอาคารในเขตป่าสงวนแห่งชาติซึ่งเป็นป่าตามกฎหมาย แต่ไม่ผู้คัดค้านว่าเป็นการรุกล้ำ "ป่า"

แต่หน่วยงานราชการอีกแห่งหนึ่งเข้าไปก่อสร้างอาคารในพื้นที่

นอกเขตอุทยานแห่งชาติและไม่ได้เป็นป่าตามกฎหมาย กลับมีผู้คัดค้านซึ่งรวมทั้งสภาคณาจารย์ฯ โดยอ้างว่ารุกล้ำ"ป่า"

เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2561 สถานีโทรทัศน์เวิรค์พอยท์ ได้นำภาพถ่ายของข้าพเจ้าไปลงและมีข้อความที่เขียนด้วยตัวอักษรโตมากด้านล่างภาพถ่ายว่า " มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ใช้เนื้อที่ถึง 6,235 ไร่ บ้านพักตุลาการใช้เพียง 147 ไร่" ถัดลงมามีข้อความว่า Workpoint News - ข่าวเวิร์คพอยท์ และมีข้อความอยู่ด้านล่างอีกว่า

"มหาวิทยาลัยราชภัฏเขียงใหม่ ก่อสร้างวิทยาเขตสะลวง-ขี้เหล็ก ในเขตป่าสงวนแห่งชาติใช้เนื้อที่มากถึง 6,235 ไร่เศษ ไม่เคยได้ยินข่าวว่าผู้ใดคัดค้านหรืออ้างว่ารุกล้ำป่า สำนักงานศาลยุติธรรม ก่อสร้างอาคารศาลอุทธรณ์ ภาค 5 และบ้านพักตุลาการ ใช้เนี้อที่เพียง 147 ไร่เศษ"

โดยมีข้อความระบุไว้ชัดเจนว่า ข้าพเจ้าโพสต์ผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว

การตัดข้อความที่มีสาระสำคัญในส่วนที่เกี่ยวกับมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ที่ว่า ซึ่งเป็นป่าตามกฎหมายออก ในส่วนที่เกี่ยวกับสำนักศาลยุติธรรมตัดข้อความที่ว่า ทั้งอยู่นอกเขตอุทยานแห่งชาติและไม่ได้เป็นป่าตามกฎหมาย แต่มีผู้คัดค้านซึ่งรวมทั้งสภาคณาจารย์ฯ โดยอ้างว่ารุกล้ำ"ป่า" ออกนั้น เป็นการแสดงให้เห็นถึงเจตนาของผู้กระทำว่าต้องการให้ผู้อ่านข้อความนี้เข้าใจผิดได้ว่า สถานที่ที่ก่อสร้างมหาวิทยาลัยราชภัฏเขียงใหม่ วิทยาเขตสะลวง-ขี้เหล็ก ไม่ได้เป็นป่าตามกฎหมาย และสถานที่ที่สำนักงานศาลยุติธรรมก่อสร้างอาคารศาลอุทผธรณ์ ภาค 5 กับบ้านพักตุลาการไม่ได้อยู่นอกเขตอุทยานแห่งชาติ เป็นป่าสงวนแห่งชาติและเป็นป่าตามกฎหมายด้วย

เมื่อมีการตัดทอนข้อความดังกล่าวออก จึงเป็นบิดเบือนข้อเท็จจริงที่ข้าพเจ้าเขียนไว้ในเฟซบุ๊คส่วนตัวและเป็นการตัดทอนข้อความในเฟซบุ๊คอันเป็นเอกสารที่แท้จริงออกไปแล้ว แต่ยังมีข้อความยืนยันว่าเป็นข้อความในเฟซบุ๊คส่วนตัวของข้าพเจ้า จึงมีความผิดฐานปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 และ 268

ทั้งการที่ได้นำข้อความดังกล่าวไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊ค Workpoint News - ข่าวเวิร์คพอยท์ อันเป็นการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ จึงมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 มาตรา 14

มาตรา 14 บัญญัติว่า ผู้ใดกระทําความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

(1) โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงหลอกลวง นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทําความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา

(2) ฯลฯ

(3) ฯลฯ

(4) ฯลฯ

(5) เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (1) (2) (3) หรือ (4)

กรณีตาม (5) ใช้สำหรับผู้กระทำที่นำไปเผยแพร่ต่อ เช่น การแชร์เป็นต้น ซึ่งมีอัตราโทษเท่ากับผู้กระทำความผิดใน (1)

การนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยหลอกลวงไปโพสต์ในเฟซบุ๊ค Workpoint News - ข่าวเวิร์คพอยท์ ทำให้ข้าพเจ้าและตุลาการศาลยุติธรรมได้รับความเสียหายมาก เพราะมีผู้เข้ามาให้ความเห็นเป็นจำนวนมากด่าข้าพเจ้าและตุลาการทั้งหมด ด้วยถ้อยคำที่ดูหมิ่นเหยียดหยามและหยาบคาย ทั้งในเฟซบุ๊ค Workpoint News - ข่าวเวิร์คพอยท์ และในเฟซบุ๊คส่วนตัวของข้าพเจ้า

การกระทำดังที่กล่าวแล้วนอกจากมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 กับมาตรา 268 และพระราชบัญญัติว่าการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ 2560 (ฉบับที่ 2) มาตรา 14 (1) ซึ่งทำให้ข้าพเจ้าและตุลาการศาลยุติธรรมได้รับความเสียหายมากแล้ว ยังเป็นการทำละเมิดต่อข้าพเจ้าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 ด้วย

มาตรา 420 บัญญัติว่า ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทําต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่านว่าผู้น้ันทําละเมิดจําต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการน้ัน

อนึ่ง ขอเรียนให้ผู้ที่เข้าแสดงคิดเห็นในทั้งเฟซบุ๊ค Workpoint News - ข่าวเวิร์คพอยท์ และในเฟซบุ๊คส่วนตัวของข้าพเจ้า ทราบว่า ถ้ามีข้อเขียนที่ผิดกฎหมาย ข้าพเจ้าก็จำเป็นต้องดำเนินตามกฎหมายด้วย

จึงเรียนให้ท่านทราบว่า การกระทำดังกล่าวมาข้างต้นผิดกฎหมายทั้งทางอาญาและทางแพ่ง ข้าพเจ้าจะไม่ขอให้ท่านดำเนินการใดๆ เป็นเรื่องของท่านที่ต้องพิจารณาเอาเอง แต่ขอเรียนว่าหากไม่ดำเนินการใดๆ เพื่อแก้ไขการกระทำที่ทำให้ข้าพเจ้าและตุลาการศาลยุติธรรมได้รับความเสียหายกับชดใช้ความเสียหายที่ข้าพเจ้าได้รับภายในเวลาอันสมควร ข้าพเจ้าก็จำเป็นต้องฟ้องคดีต่อศาลยุติธรรมเพื่อขอความเป็นธรรมจากศาลยุติธรรมต่อไป.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"