ยกคำร้องใบส้ม กกต.พลิกกม.สู้ สุรพลฟ้อง70ล.


เพิ่มเพื่อน    

 ศาลฎีกาฯ ยกคำร้อง กกต.แจกใบส้ม “สุรพล เกียรติไชยากร" อดีตผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ เพื่อไทย ชี้ใส่ซองทำบุญ 2 พันบาทไม่ได้จูงใจให้ผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง เจ้าตัวภาคภูมิใจในเกียรติยศที่ได้รับความยุติธรรมจากศาล ทนายเตรียมฟ้อง กกต.เรียกค่าเสียหาย 70 ล้าน สนง.กกต.พลิกข้อกฎหมายหลังสุรพลจ่อฟ้อง

    เมื่อวันที่ 29 กันยายน ที่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง สนามหลวง ศาลอ่านคำวินิจฉัยคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผู้ร้องยื่นคำร้องขอเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ใบส้ม) และให้ชดใช้ค่าใช้จ่ายสำหรับการเลือกตั้งนายสุรพล เกียรติไชยากร อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 8 จังหวัดเชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ผู้คัดค้าน
    ในความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดย กกต.ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า เมื่อวันที่ 23 ม.ค.2562 มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป พ.ศ.2562 และประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้งลงวันที่ 24 ม.ค.2562 เรื่องกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรวันรับสมัครรับเลือกตั้ง
    กรณี กกต.กล่าวหาว่าการใส่ซองทำบุญให้กับพระสงฆ์จำนวน 2,000 บาท มีมูลความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 73 (2) ฐานให้เงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อมแก่ชุมชน สมาคม มูลนิธิ วัด สถานศึกษา สถานสงเคราะห์ หรือสถาบันอื่นใดในช่วงที่มีการเลือกตั้ง
    ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การพูดของผู้คัดค้านไม่ใช่การหาเสียง มีลักษณะเป็นการพูดขอฝากเนื้อฝากตัวอย่างไร จึงยังไม่เพียงพอให้รับฟังว่าผู้คัดค้านไปที่หอประชุมบ้านคู่ฮ้อสามัคคี โดยมีเจตนาเพื่อหาเสียงเป็นสำคัญ ข้อเท็จจริงตามทางไต่สวนยังรับฟังไม่ได้ว่าผู้คัดค้านถวายเงินจำนวน 2,000 บาทแด่พระครู เพื่อเป็นการสื่อให้ชาวบ้านเข้าใจว่าผู้คัดค้านได้บริจาคเงินสมทบให้แก่กองผ้าป่าสามัคคีของหมู่บ้าน เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเองด้วยวิธีการให้เงิน ไม่ว่าจะโดยตรงหรือโดยอ้อมแก่ชุมชน อันจะเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 มาตรา 73 วรรคหนึ่ง (2) ตามคำร้อง
    และเมื่อฟังว่าผู้คัดค้านไม่ได้กระทำความผิดตามคำร้องแล้ว ผู้คัดค้านจึงไม่จำต้องชดใช้ค่าใช้จ่ายสำหรับการเลือกตั้ง ส.ส.จังหวัดเชียงใหม่ เขตเลือกตั้งที่ 8 ตามคำร้อง พิพากษาให้ยกคำร้อง
     ที่รัฐสภา นายสุรพล เกียรติไชยากร แถลงภายหลังฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งมีคำพิพากษายกคำร้องฯ ว่าศาลได้พิพากษาคืนความยุติธรรมให้แก่ตน โดยได้ยกคำร้องข้อกล่าวหาเนื่องจากศาลเห็นว่า เงินดังกล่าวเป็นค่าเทียนสะเดาะเคราะห์ และในวันที่ไปทำบุญนั้นนายสุรพลไม่ได้พูดหาเสียง เพียงแต่ทักทายกับประชาชนเท่านั้น ไม่ได้ฝากเนื้อฝากตัวกับชาวบ้าน จึงยังไม่เพียงพอให้รับฟังได้ว่า เป็นการบริจาคเงินทำบุญให้กับวัดเพื่อเป็นการจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้ตนเอง และไม่จำเป็นต้องชดใช้ค่าเลือกตั้งซ่อมตามคำร้อง
    นายสุรพลกล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีแรกที่ ส.ส.ฟ้อง กกต.ได้รับชัยชนะ และใช้เวลาต่อสู้มา 1 ปี 5 เดือน 5 วัน และตนถือว่าเป็นการยัดเยียดความผิดให้ วันนี้จึงเป็นวันที่ภาคภูมิใจในเกียรติยศ ที่ได้รับความยุติธรรมจากศาลฎีกาและได้คืนสิทธิและอำนาจในคะแนนจากประชาชนที่ได้ลงคะแนนให้ตนกว่า 5.4 หมื่นคะแนน ซึ่งเป็นคะแนนบริสุทธิ์
    “วันนี้ประชาชนจึงอยากให้ประชาชนเขต 8 จังหวัดเชียงใหม่ได้รับทราบว่าทุกคนได้คืนศักดิ์ศรีเกียรติยศ และผมได้รับความเป็นธรรมทุกอย่างถูกต้องไม่มีความผิด” นายสุรพลกล่าว
    ด้านนายปกป้อง กลับวิเศษ ทนายความของนายสุรพล ชี้แจงเพิ่มเติมว่า สมาชิกภาพ ส.ส.ของนายสุรพล ถือว่าเป็น ส.ส.โดยพฤตินัย เมื่อได้ทราบผลคะแนนชนะการเลือกตั้งแล้ว แต่ กกต.ได้มอบใบส้มให้นายสุรพล ซึ่งเป็นมาตรการชั่วคราวในการเพิกถอนสิทธิ 1 ปี แต่หลังจากนั้น กกต.ได้นำข้อกล่าวหาดังกล่าวไปฟ้องร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง เพื่อขอเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี และเมื่อศาลไต่สวนวินิจฉัยตามข้อเท็จจริง ซึ่งไม่มีมูลแล้ว จึงยกคำร้อง
    "ดังนั้น ทีมทนายจะติดตามความชัดเจนจาก กกต.ว่าจะทำอย่างไรต่อคะแนนการเลือกตั้งกว่า 50,000 คะแนนที่นายสุรพลได้รับ ซึ่งเป็นคะแนนบริสุทธิ์ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ถือเป็นเรื่องใหม่ และ น.ส.ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคภูมิใจไทย ที่ชนะการเลือกตั้งซ่อม จะยังมีสถานะหรือไม่ หรือจะให้นายสุรพลกลับมาเป็น ส.ส.ตามคะแนนที่ได้รับโดยชอบ"
    นายปกป้องเปิดเผยว่า เบื้องต้นทีมทนายได้ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากการที่ไม่ได้ทำหน้าที่ ส.ส.จาก กกต. แล้วจำนวน 70 ล้านบาท ฐานให้ใบส้มโดยมิชอบ ใช้อำนาจหน้าที่โดยละเมิด แต่ยังไม่ได้มีการฟ้องร้องเอาผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ซึ่งหาก กกต.ยังไม่คืนสิทธิก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
     มีรายงานจากสำนักงาน กกต.ถึงกรณีที่นายสุรพล เกียรติไชยากร เตรียมฟ้อง กกต. 70 ล้านบาท หลังจากศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งมีคำพิพากษายกคำร้องกรณีที่ กกต.ให้ใบส้มเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งไว้เป็นชั่วคราว โดยทางสำนักงาน กกต.เตรียมขอคัดสำเนาคำพิพากษา เพื่อตรวจสอบข้อกฎหมายก่อนเข้าสู่ที่ประชุม กกต.ต่อไป อย่างไรก็ตาม การวินิจฉัยของ กกต. เป็นการใช้ดุลพินิจตามหน้าที่และอำนาจที่รัฐธรรมนูญ ม.225 กำหนดไว้ ซึ่งคำสั่งดังกล่าวถือเป็นที่สุด และเมื่อเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดไว้แล้ว และเป็นการกระทำโดยสุจริตย่อมได้รับความคุ้มครองไม่ต้องรับผิดทั้งทางแพ่ง ทางอาญา หรือทางปกครอง ตามมาตรา 23 วรรคสอง แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.


 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"