ความมั่นคงกับทิศทางประเทศ


เพิ่มเพื่อน    

 

            นี่ก็วันที่ 13 ตุลาคมเข้าไปแล้ว...พรุ่งนี้ 14 ก็ได้จังหวะ เวลา ที่บรรดาพวกหนูเล็กๆ และเด็กๆ ทั้งหลายเขาจะก่อม็อบกันแล้ว ส่วนจะมามาก-มาไม่มาก ถ้าฟังจากเสียงท่านรองนายกฯ คุณปู่ บิ๊กป้อม คงไม่ถึงขั้นพลั่กๆๆ อะไรมากมาย หรือออกไปทางซิบๆ ประมาณนั้น แต่ก็นั่นแหละ ไม่ว่าพลั่กๆ หรือซิบๆ ยังไงๆ...คงต้อง ลอริเอะ หรือคงต้อง ไม่หวั่นแม้วันมามาก เอาไว้ก่อน...

                                   --------------------------------------------------

                แต่ถ้าว่ากันโดยแนวโน้ม...ไม่ว่าในแง่การข่าว หรือการอะไรก็แล้วแต่ ท่าทางน่าจะออกมาในแนวอย่างที่คุณปู่ บิ๊กป้อม ท่านว่าเอาไว้นั่นแหละ คือโอกาสที่จะพลั่กๆๆ มากันแบบมืดฟ้า-มัวดิน ดูๆ ยังไม่น่าจะมีวี่แวว มี เงื่อนไข หรือ เหตุปัจจัย ใดๆ ให้ต้องเป็นไปตามนั้น ยิ่งบรรดาพวกเด็กๆ เขาพยายาม ยกระดับ เงื่อนไขและเหตุปัจจัย ไปถึงเรื่องที่ใครต่อใครแทบตามกันไม่ทัน หรือออกไปทางเลยธง เลยลงกา ยิ่งเข้าไปทุกที เจอเข้ากับการ กราบงามๆ ไม่ว่าจะกี่ทีต่อกี่ทีก็แล้วแต่ ทุกสิ่งทุกอย่าง...เลยน่าจะเรียบโร้ยย์ย์ย์ ไม่น่าจะถึงกับต้องคันคะเยออะไรมาก...

                                    ----------------------------------------------------

                เรียกว่า...มาถึงขั้นนี้ คงต้องสรุปว่า บรรดาเด็กๆ ทั้งหลาย...สุดท้ายเขาก็ยังคงเป็น เด็ก อยู่นั่นเอง คือยังไม่ถึงกับยกระดับวุฒิภาวะ ขึ้นไปถึงขนาดมาตรฐานที่ทำให้สามารถรับงานใหญ่ ก่อการใหญ่ อะไรได้มากมาย ไม่ว่าในแง่ความอดทน อดกลั้น ความมีระเบียบและวินัย ความเชี่ยวชาญในด้านปฏิภาณและไหวพริบ ที่สามารถช่วยให้เกิดความยืดหยุ่น ในการแสวงจุดร่วมและสงวนจุดต่างกับใครต่อใคร ฯลฯ หรือพูดง่ายๆ ว่า...เขาออกจะหนักไปทาง คบเด็กสร้างบ้าน นั่นแหละเป็นหลัก จนแม้แต่บรรดาพวกคนแก่ คนชรา หรือบรรดาพวก เลียตูดเด็ก ทั้งหลาย ที่แก่ในระดับผมร่วง หรือ หัวล้าน ไปเป็นรายๆ ก็ยังไม่คิดจะ หัวล้านสร้างเมือง เอาดื้อๆ หันมา กราบงามๆ สามทีแล้วก็ไปแล้ว...ไม่เอาแล้ว!!!

                                   ------------------------------------------------------

                ด้วยเหตุนี้...ก็คงไม่ถึงกับต้องลากยาวว์ว์ว์ ไปถึงต่างช่ง ต่างชาติ อะไรมาก เพราะแค่ หัวล้าน ยังไม่เอาแล้ว บรรดาต่างชาติที่ต่างเต็มไปด้วยมือข่าว นักการข่าว นักวิเคราะห์ นักประเมินสถานการณ์ ฯลฯ ระดับไม่รู้กี่ชั้น ต่อกี่ชั้น คงไม่ถึงกับ อ่านไม่ออก ว่าอะไรกำลังเกิดขึ้น-ตั้งอยู่-และดับไปกันแน่ คือสำหรับต่างชาติแล้ว...สิ่งที่น่ากลัว มันคงไม่ได้เกี่ยวกับพวกเด็กๆ มากมายซักเท่าไหร่ ที่ไม่ว่าคิดอะไร แบบไหน ก็คงหนีไม่พ้นหนังฮอลลีวู้ด หนังโฆษณา ไปตามธรรมชาติของความเป็นเด็กในยุคนี้นั่นเอง แต่บรรดาพวกผู้หลัก-ผู้ใหญ่ทั้งหลายนั่นแหละ น่ากลัวซะยิ่งกว่า โดยเฉพาะพวกที่อยู่ในแวดวงราชการ ไม่ว่าระดับสูง ระดับกลาง ยิ่งประเภท ฝ่ายความมั่นคง ยิ่งแล้วใหญ่ ที่คงต้องคอยเช็ค คอยตรวจสอบ เอาไว้ให้ดี...

                                 ------------------------------------------------------------

                โดยเฉพาะในยุคที่โลกทั้งโลก...ชักกลายเป็น โลกที่ต้องเลือกข้าง ไปในข้างหนึ่ง ข้างใด จนได้ ถึงขั้นไม่เลือกก็อาจอยู่ไม่ได้ หรืออยู่แบบติดๆ-ขัดๆ ไปโดยตลอด และด้วยระบบคิด วิธีคิด แบบหยาบๆ ง่ายๆ หรือคิดแบบที่เรียกๆ กันว่า Colonial Mentality ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นนักเศรษฐศาสตร์การเมือง อย่างอาจารย์ ณรงค์ เพชรประเสริฐ ท่านถอดความ แปลความ เอาไว้ว่าแบบ ทัศนะทาส อะไรประมาณนั้น อันนี้นี่แหละ...ที่น่ากลัวยิ่งกว่า เพราะอาจส่งผลให้การตัดสินใจ เลือก ข้างใด ข้างหนึ่ง ในช่วงอนาคตเบื้องหน้า อาจกลายเป็นตัวนำมาซึ่ง เงื่อนไข และ เหตุปัจจัย ที่เพียบพร้อม สมบูรณ์ กว่าช่วงระหว่างนี้ไม่รู้กี่เท่า ต่อกี่เท่า ชนิดสามารถส่งผลให้ไม่ว่า เด็ก ไปจนถึง คนหัวล้าน รายโน้น รายนี้ ออกมาสร้างบ้าน สร้างเมือง อย่างเป็นระบบและกิจการ ก่อนนำไปสู่ความฉิบหายกับฉิบหายในระยะยาว เอาเลยก็ไม่แน่!!!

                                -----------------------------------------------------------

                ด้วยเหตุนี้นี่เอง...สิ่งที่เรียกว่า ทิศทาง หรือ แนวทาง สำหรับประเทศไทยในอนาคตเบื้องหน้า จึงถือเป็นสิ่งที่สำคัญเอามากๆ เผลอๆ...อาจสำคัญซะยิ่งกว่า การปลุก ม็อบเชียร์ ไปสู้กับ ม็อบต้าน หรือการไออง ไอโอ ไม่ว่ากี่พัน กี่หมื่น กี่แสนรายก็แล้วแต่ คือถ้าหากเป็นทิศทาง หรือแนวทาง ที่พร้อมจะมุ่งไปสู่ การพึ่งตนเอง เป็นหลัก หรือพยายามลด การพึ่งพา ใดๆ ก็ตาม ให้น้อยที่สุดเท่าที่จะน้อยได้ หรือหันมา พอเพียง ให้มากๆ เข้าไว้ อันนั้นนั่นแหละ...ต้องถือว่า โอเช ระดับหายห่วง หมดกังวล ได้ชนิดตราบนานเท่านาน แต่ถ้าหากยังคงต้อง พึ่งพา ด้วยความปรารถนาและต้องการจะเป็นเสือตัวที่สี่ ตัวที่ห้า หรือเป็นสารพัดสัตว์ใดๆ ก็ตาม คิดจะดลบันดาลอภิมหาโครงการโน่นๆ นี่ๆ หวังได้เงินลงทุน ได้นักท่องเที่ยว ได้มาซึ่งเม็ดเงินที่จะเอามาใช้จ่ายเป็นงบประมาณให้บรรดา ข้าราชการ ที่ไม่คิดจะปฏิรูปตัวเองกันมั่งเลย โอกาสที่จะ ฉิบหาย..กับ...ฉิบหาย โดยไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพวกเด็กๆ หรือพวกหัวล้านเลียตูดเด็ก ย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ...

                            ------------------------------------------------------------

                สรุปรวมความแล้ว...ไม่ว่าจะเป็นระบบหรือระบอบอะไร แบบไหน ก็ตามที สิ่งสำคัญสำหรับอนาคตเบื้องหน้า ก็น่าจะยังคงอยู่ที่ ทิศทาง หรือ แนวทาง นั่นแหละเป็นสำคัญ ดังนั้น...แม้ว่าอะไรต่อมิอะไรนับจากนี้ ยังไม่น่าจะถึงขั้นพลั่กๆๆ หรือหนักไปทางซิบๆ กะปริดกะปรอย ก็ตามที แต่การนำมาซึ่งความ เข้าถึง-เข้าใจ ต่อ ลอริเอะ ก็ยังถือเป็นความจำเป็นอยู่ดี นั่นคือการยกระดับและพัฒนาบรรดาผู้มีอำนาจ หน้าที่ และความรับผิดชอบ ให้ไปถึงจุดที่ ไม่หวั่นแม้วันมามาก ได้อย่างจริงๆ จังๆ...

                             -----------------------------------------------------------

                ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Peter F. Drucker (อีกครั้ง)...“The best way to predict the future is to create it.- วิธีคาดคะเนอนาคตที่ดีที่สุด คือการสร้างสรรค์มันขึ้นมา...”

                              -------------------------------------------------------

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"