"ดอน" เผยที่ประชุมอาเซียนทั้งวงเล็กวงใหญ่ไม่มีใครสนใจสอบถามโรดแมปไทย เพราะเห็นสภาพความเป็นจริงว่าสงบเรียบร้อย ประชาชนใช้ชีวิตปกติ แม้จะเป็นรัฐบาลรัฐประหาร แต่ต่างจากหลายประเทศไม่มีทหารออกมาถือปืนเฝ้าระวัง

    นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประเทศ กล่าวภายหลังเดินทางเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 32 ที่ประเทศสิงคโปร์ ว่าต่างประเทศไม่ได้สอบถามเรื่องโรดแมปการเลือกตั้งของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการประชุมใหญ่หรือการหารือย่อย โดยเชื่อว่าไม่มีประเทศใดติดใจเกี่ยวกับการเมืองของไทย ซึ่งไม่ใช่แค่อาเซียนเท่านั้น แต่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา หลายประเทศไม่ติดใจเกี่ยวกับประเทศไทย เมื่อเขาได้มาเห็นสภาพความเป็นจริงว่าเรามีความสงบเรียบร้อย มีเสถียรภาพ ประชาชนมีชีวิตเป็นปกติ
    "แม้ขณะนี้จะมีรัฐบาลที่มาจากรัฐประหาร แต่ก็ต่างจากหลายประเทศ ที่ไม่มีทหารคอยยืนเฝ้าระวังหรือสังเกตการณ์ และหลายปีที่ผ่านมา แนวโน้มด้านต่างๆของไทยก็ดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งต่างจากทฤษฎีการเมืองที่อยู่ในตำรา ซึ่งมักจะพูดถึงความตึงเครียดของรัฐบาลรัฐประหาร" รมว.การต่างประเทศกล่าว
    ที่ทำเนียบประธานาธิบดี สาธารณรัฐสิงคโปร์  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 32 ช่วงการประชุมเต็มคณะ โดยนายกฯ ได้กล่าวถ้อยแถลงในการประชุมดังกล่าว ทั้งนี้ ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีแสดงความชื่นชมและสนับสนุนแนวคิดสำคัญของสิงคโปร์ ในการเสริมสร้างประชาคมอาเซียนให้เข้มแข็งและมีนวัตกรรม ซึ่งสองสิ่งนี้ต้องเชื่อมโยงกัน เพื่อส่งเสริมศักยภาพของอาเซียน ในการรับมือการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วในภูมิภาคและโลก เพื่อให้ประชากรของอาเซียนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
    ด้านนายลีเซียนลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ กล่าวในระหว่างเปิดการประชุมสุดยอดผู้นำสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน เตือนว่า กลุ่มไอเอสยังคงเป็นภัยคุกคามเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แม้จะแพ้พ่ายถอยร่นในอิรักและซีเรีย แต่กลุ่มไอเอสกำลังใช้ภูมิภาคนี้เป็นแหล่งระดมสมาชิกนิยมแนวทางรุนแรงแห่งใหม่ เห็นได้จากกรณีระเบิดพลีชีพในกรุงจาการ์ตาเมื่อปี 2559 ซึ่งกลุ่มไอเอสได้ประกาศอ้างความรับผิดชอบ และกรณีกลุ่มกบฏฝักใฝ่กลุ่มไอเอสบุกยึดเมืองมาราวีในฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่า เอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังเผชิญหน้ากับภัยคุกคามที่แท้จริงจากกลุ่มไอเอส รวมถึงการโจมตีไซเบอร์ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงไปสู่เทคโนโลยีดิจิทัลทำให้หลายประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงต่อการโจมตีทางไซเบอร์มากขึ้น 
    ดังนั้น ทุกประเทศต้องปรับตัวยืดหยุ่นต่อภัยคุกคามตามแบบและภัยคุกคามรูปแบบใหม่ เช่น การก่อการร้าย และการโจมตีไซเบอร์ โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังรุ่งเรือง ประชาชนใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในชีวิตประจำวันกันมากขึ้น ทั้งนี้ ในช่วงระหว่างรับประทานอาหารค่ำวานนี้ ผู้นำอาเซียนต่างเห็นพ้องที่จะเพิ่มการประสานความร่วมมือด้านความมั่นคงทางไซเบอร์.