ก้าวย่างที่พลาดแล้วพลาดอีกของอนาคตใหม่ ก้าวหน้า ก้าวไกล เพราะเอาแต่คิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูกรังแก อย่างไม่เป็นธรรม

            เหมือนชีวิตลูกเมียน้อย กินน้ำใต้ศอกอยู่ตลอดเวลา

            กระทั่งถึงเวลาระเบิดออกมาใช้ม็อบเด็กบังหน้า!

            ครับ...พล็อตมันเป็นแบบนั้น

            แล้วความจริงคืออะไร?

            คำว่ายุติธรรมสองมาตรฐาน ใช้กันมาตั้งแต่ยุคทักษิณ

            คนผิดไม่ยอมรับผิด แต่เข้าข้างตัวเองด้วยวาทกรรม ยุติธรรมสองมาตรฐาน

            ก็น่าประหลาดใจ คนรุ่นใหม่บูลลี "ลุงตู่" เรื่องที่แนะนำให้ เสิร์ชกูเกิล

            แต่คนรุ่นใหม่กลับไม่เสิร์ชกูเกิลค้นหาข้อเท็จจริงซึ่งมีท่วมจอ

            เชื่อข้อมูลบิดเบือนในโซเชียลมากกว่า 

            จะมีกี่คนที่กลับไปตั้งหลักอ่านคำพิพากษาในแต่ละคดีที่สงสัยให้ละเอียด ก่อนจะแสดงความเห็นออกสู่สาธารณะ

            ส่วนใหญ่ตกเป็นเหยื่อโซเชียล คนหนึ่งมั่วก็มั่วไปตามๆ กัน แล้วเอาแต่โอดครวญ ถูกรังแก

            ล่าสุดศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยในคดี ส.ส.ถือหุ้นสื่อ

            มติศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก เห็นว่า "ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์" อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ (ปัจจุบันเป็น ส.ส.พรรคก้าวไกล) ถือครองหุ้นบริษัท เฮด อัพ โปรดักชั่น จำกัด และบริษัท  แอมฟายน์ โปรดักชั่น จำกัด

            โดยทั้ง ๒ บริษัทข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ประกอบกิจการเกี่ยวกับโฆษณา ภาพยนตร์ และการแสดง  ซึ่งถือว่า เป็นสื่อกลาง ส่งข่าวสาร สาร หรือเนื้อหาสาระไปสู่ประชาชนที่สามารถสื่อความหมายให้ประชาชนทราบได้โดยทั่วไป

            แม้ไม่ปรากฏว่า บริษัท เฮด อัพฯ และบริษัท แอมฟายน์ฯ ได้ยื่นคำร้อง หรือประกอบกิจการจดแจ้งตาม พ.ร.บ.การพิมพ์ฯ พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. ๒๕๕๑ พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. ๒๕๕๓ พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ก็ตาม แต่บริษัทย่อมดำเนินการขออนุญาตต่อนายทะเบียนตามกฎหมายในเรื่องนั้นๆ ได้ ดังนั้นวัตถุประสงค์ของบริษัทจัดตั้งขึ้นเกี่ยวกับสื่อ นัยความหมายเดียวกับมาตรา ๙๘ (๓) แห่งรัฐธรรมนูญ

            ขณะเดียวกันศาลรัฐธรรมนูญ ยังพบข้อพิรุธกรณีการโอนหุ้นของนายธัญญ์วาริน ที่โอนหุ้นให้บุคคลอื่น โดยพบว่ามีการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ ๓๑ ก.ค. ๒๕๖๒ ทั้ง ๒ บริษัท และนำส่งต่อนายทะเบียนกรมพัฒนาธุรกิจการค้าในวันเดียวกัน โดยเป็นการดำเนินการภายหลังถูกยื่นคำร้องถือครองหุ้นสื่อต่อศาลรัฐธรรมนูญ

            ขณะเดียวกันศาลรัฐธรรมนูญ ได้ให้นายธัญญ์วารินมาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา แต่นายธัญญ์วารินไม่ได้มาชี้แจงแต่อย่างใด จึงเป็นการผิดปกติวิสัยในการต่อสู้คดี

            ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่าสมาชิกภาพ ส.ส.ของนายธัญญ์วาริน สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ  มาตรา ๑๐๑ (๖) ประกอบมาตรา ๙๘ (๓) ตั้งแต่วันที่ ๖ ก.พ. ๒๕๖๒ ซึ่งเป็นวันที่พรรคอนาคตใหม่ยื่นบัญชีรายชื่อ ส.ส.เสนอต่อ กกต.

            นี่คือคำวินิจฉัย แต่หากไปฟังฝั่ง ก้าวหน้า ก้าวไกล จะกลายเป็นอีกอย่าง

            ถูกกดทับ ถูกกลั่นแกล้ง สองมาตรฐาน ทนไม่ไหวแล้ว ประยุทธ์ออกไป ฯลฯ

            ศาลให้ไปแก้ข้อกล่าวหาก็ไม่ไป

            เสร็จแล้วไปด่าศาลในโซเชียล

            ก็เหมือน "ธนาธร" อยู่ในศาลเอาแต่พูดผมจำไม่ได้ พอศาลลงโทษ...โน้นเอาไปยำกันในโซเชียล

            ฉะนั้นความจริงมีหนึ่งเดียวเสมอ อยู่ที่จะค้นหากันหรือเปล่า.