เลือกตั้งอเมริกา 2020 สัญญาณเกิดเหตุรุนแรง


เพิ่มเพื่อน    

ภาพ : โจ ไบเดน

ที่มา : https://www.facebook.com/ABC15/photos/

        เลือกตั้ง 2020 พิเศษกว่าทุกปีเกิดคำถามว่าจะลงเอยด้วยเหตุรุนแรงหรือไม่ มีสัญญาณบ่งชี้ การเลือกตั้งน่าจะสงบเรียบร้อยหากทรัมป์เป็นฝ่ายชนะซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้เช่นกัน

 

        เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา บางปีรู้ว่าใครน่าจะชนะ บางปีไม่แน่ใจ สำหรับปี 2020 คำถามที่น่าสนใจไม่ใช่แค่เรื่องใครชนะ แต่เป็นคำถามว่าสิ่งที่ตามมาหลังวันเลือกตั้งคือสงบสันติ หรือจลาจลวุ่นวาย

ทรัมป์สัมพันธ์กับโอกาสเกิดความรุนแรง :

        การวิเคราะห์ว่าเลือกตั้งประธานาธิบดี 2020 อาจเกิดเหตุรุนแรงสัมพันธ์กับความเป็นตัวตนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

      ประการแรก ทรัมป์ไม่เคารพหลักประชาธิปไตย

        ผลโพลที่นำเสนอต้นเดือนพฤศจิกายน 2019 ของ AP-NORC ระบุว่า คนอเมริกันร้อยละ 61 คิดว่าทรัมป์ไม่เคารพหลักประชาธิปไตย ในจำนวนนี้ร้อยละ 26 เป็นพวกรีพับลิกัน  ผลโพลเดียวกันนี้ยังระบุอีกว่าร้อยละ 85 ของพวกรีพับลิกันสนับสนุนทรัมป์เป็นประธานาธิบดีต่ออีกสมัย แม้หลายคนยอมรับว่าทรัมป์มีปัญหาเรื่องความซื่อสัตย์ มักพูดเท็จ

        ความไม่เป็นประชาธิปไตยของทรัมป์เป็นที่โจษจัน Robert Boxwell สรุปว่านับจากเริ่มเข้ารับตำแหน่งพวกเดโมแครต เรียกประธานาธิบดีว่าเป็น “เผด็จการ” (dictator) “กษัตริย์” (king) หรือไม่ก็ “ฟาสซิสต์” (fascist) คำเหล่านี้มีความหมายไม่แตกต่างในแง่ไม่เป็นประชาธิปไตย

      ประการที่ 2 ทรัมป์เป็นพวกเหยียดผิวเหยียดเชื้อชาติ

      ความไม่เป็นประชาธิปไตยของทรัมป์ยังแสดงออกผ่านการเหยียดผิวเหยียดเชื้อชาติ (racism) ไม่คิดว่าทุกคนเท่าเทียมกัน

        โจ ไบเดน กล่าวว่า แทนที่ประธานาธิบดีจะทำหน้าที่รวมทุกสีผิวทุกเชื้อสายเข้าเป็นหนึ่ง คนอเมริกันทุกคนคือส่วนหนึ่งของประเทศ เขาทำตรงข้าม “แบ่งแยกประเทศ แบ่งแยกประชาชน” ยึดแนวทางสุดโต่ง โหมกระพือ “white supremacy"

        ประการที่ 3 สู้เพื่อประชาธิปไตย หมายถึงเรื่องปากท้อง

      ในขณะที่คนอเมริกันครึ่งประเทศเห็นว่าทรัมป์เป็นภัยต่อระบอบประชาธิปไตย แต่อีกครึ่งต้องการให้ประธานาธิบดีทรัมป์อยู่ต่อ คนกลุ่มหลังเห็นว่าการ “สู้เพื่อทรัมป์คือการสู้เพื่อประชาธิปไตย” แท้จริงแล้วคนเลือกทรัมป์ไม่ใช่เพราะเขาเป็นคนอย่างไร แต่เลือกโดยดูว่าดูแลเศรษฐกิจได้ดีเพียงใด รัฐบาลจะเผด็จการหรือไม่ ไม่น่ากลัวเท่ากับความอดอยาก

        ประธานาธิบดีทรัมป์เตือนว่าตลาดหุ้นจะพังหากเขาแพ้เลือกตั้ง คนจะตกงานมากกว่านี้ ยุคเขาเศรษฐกิจดีที่สุด

แรงสนับสนุนจาก QAnon :

      ย้อนหลังเลือกตั้งปี 2016 ฮิลลารี คลินตัน คู่แข่งทรัมป์ถูกตีตราว่าเป็นตัวแทนของชนชั้นปกครอง ส่วนทรัมป์เป็นคนของประชาชน หลายคนจึงสนับสนุนทรัมป์

        การเลือกตั้งปีนี้เกิดทฤษฎีสมคบคิดของ QAnon ชี้ว่าหากไบเดนชนะ รัฐบาลไบเดนจะสนับสนุนการลักพาเด็ก ค้าประเวณีเด็ก ข้อมูลของ HOPE Not Hate ชี้ว่าร้อยละ 20 ของคนที่สนับสนุนทรัมป์คือพวก QAnon พวกเขาต้องการให้ทรัมป์ชนะเลือกตั้งอีกครั้ง มองว่าทรัมป์คือผู้กอบกู้อเมริกา ต้องต่อต้านไบเดนที่เป็นตัวแทนของชนชั้นปกครอง จะเห็นว่าสถานการณ์เลือกตั้งรอบนี้มีส่วนคล้ายเลือกตั้งปี 2016 ต้องเลือกทรัมป์จึงจะออกจากวังวนชนชั้นปกครอง

        พวกเขายืนยันว่าทรัมป์กำลังสู้กับ “รัฐพันลึก” (Deep State) ฮิลลารี คลินตัน, บารัค โอบามา คือแกนนำรัฐพันลึกและตอนนี้มุ่งเป้า โจ ไบเดน

ความขัดแย้งที่ขยายตัวและบาดลึก :

      ความขัดแย้งระหว่าง 2 พรรคใหญ่สร้างความแตกแยกทางการเมือง สื่อรายงานแทบทุกวันถึงความแตกแยกของคนในชาติ ความขัดแย้งทางการเมืองของอเมริกาขยายตัวเรื่อยๆ  ในยุคทรัมป์ความขัดแย้งบาดลึกชัดเจน หลายคนชี้ว่าทรัมป์เป็นพวกเหยียดผิวเหยียดเชื้อชาติ สนับสนุนคนผิวขาวแบบสุดโต่ง ผู้นำประเทศเป็นผู้กระตุ้นกระแสเหยียดหยามมนุษย์ เหยียดหยามคนในชาติเดียวกัน มีคนตั้งคำถามว่าทรัมป์ละเมิดรัฐธรรมนูญอเมริกาหรือไม่ ละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือเปล่า แต่ทรัมป์ยังคงประพฤติเหมือนเดิม พลอยให้การคุกคามรังแกเหยียดผิวเหยียดเชื้อชาติทวีความรุนแรง

        สื่อจีน Global Times พิพากษ์ว่าแท้จริงแล้วนโยบายของพรรคการเมืองแทบไม่แตกต่าง แต่สร้างความแตกแยก ต่างกันที่ชอบทรัมป์กับไม่ชอบทรัมป์ ที่น่าประหลาดใจคือพวกที่ชอบทรัมป์จะหลับหูหลับตาชอบ ทำนองเดียวกับพวกไม่ชอบจะเอาแต่ตำหนิติเตียน ละทิ้งตรรกะเหตุผล

        โจ ไบเดน คู่ชิงจากเดโมแครตโจมตีทรัมป์ว่าทำให้อเมริกาเป็นสถานที่อันตรายกว่าเดิม ยั่วยุให้เกิดความขัดแย้งระหว่างเชื้อชาติ

        โดยรวมแล้วสมัยรัฐบาลทรัมป์ความขัดแย้งของคนในชาติเพิ่มขึ้น ความขัดแย้งระหว่างสีผิวเชื้อชาติเด่นชัดกว่าเดิม เกิดภาวะสะสมความจงเกลียดจงชังต่อกัน ผู้นำประเทศที่น่าจะรวมคนทั้งประเทศเข้าด้วยกันกลับทำสิ่งตรงข้าม อธิบายได้ว่าเพื่อให้คนส่วนหนึ่งสนับสนุนตนอย่างไม่ลืมหูลืมตา ให้ตนชนะเลือกตั้ง

สัญญาณส่อเค้าความรุนแรง :

        มีหลายเหตุการณ์ที่ส่งสัญญาณส่อเค้าความรุนแรง

      ประการแรก ทรัมป์ส่งสัญญาณ

        ในมุมมองทรัมป์เลือกตั้งอเมริกาไม่โปร่งใส พวกเดโมแครตจะโกงเลือกตั้ง กลางสิงหาคมทรัมป์ประกาศตัดงบประมาณการไปรษณีย์แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา (The United States Postal Service : USPS) หวังขัดขวางการลงคะแนนเลือกตั้งผ่านทางไปรษณีย์ เพราะเมื่องบไม่พอ ระบบดังกล่าวจะไม่ทำงาน ทรัมป์อ้างว่าการลงคะแนนทางไปรษณีย์เป็นกลโกงเลือกตั้ง

        ย้ำหลายรอบว่าหากต้องการให้การเลือกตั้งสงบเรียบร้อย ต้องให้ยกเลิกวิธีลงคะแนนทางไปรษณีย์

        ประการที่ 2 กระแสทรัมป์ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง

        จากท่าทีของทรัมป์เกิดข้อสงสัยว่าทรัมป์อาจไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง ซึ่งทรัมป์ออกตัวว่าไม่ใช่ตนไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง แต่อาจต้องให้ศาลสูงตัดสิน ซึ่งหมายความว่าจะไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งง่ายๆ

        บนเวทีปราศรัยหาเสียง ทรัมป์พูดชี้ช่องให้ผู้สนับสนุนรู้ว่าควรทำอย่างไรหากตนแพ้เลือกตั้ง คำพูดนี้ถูกตีความว่าให้ฝ่ายขวาเตรียมพร้อมกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่ผ่านมาทรัมป์สนับสนุนฝ่ายขวาเต็มที่ รวมทั้งพวกที่พร้อมใช้ความรุนแรง ถืออาวุธสงคราม

        กลุ่มขวาจัด Proud Boys มั่นใจว่าทรัมป์จะชนะเลือกตั้งอีก ฝ่ายเดโมแครตจะไม่ยอมออกมาเผาบ้านเผาเมือง พวกตนจึงต้องเตรียมพร้อมรับมือด้วยอาวุธสงคราม ข้อนี้จะเป็นจริงหรือไม่ต้องรอพิสูจน์ เป็นวาทกรรมที่ฝ่ายขวาวางไว้ พวกเขาพร้อมใช้อาวุธเพื่อ “ป้องกัน” การโกงเลือกตั้ง

        ในอีกวาระทรัมป์เตือนว่าจะเกิดปฏิวัติ (revolution) หากไบเดนชนะเลือกตั้ง พูดเป็นนัยว่าพวกที่เลือกตนจะไม่ยอม จะลุกฮือไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง

        ด้าน อัล กอร์ (Al Gore) อดีตรองประธานาธิบดีพรรคเดโมแครตเรียกร้องให้กองทัพออกมาหากทรัมป์ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง ชี้ว่าเหตุที่ทรัมป์ตั้งข้อสงสัยว่าเลือกตั้งจะไม่โปร่งใสคือแผนที่วางไว้ว่าจะไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง

        จากข้อมูลทั้งหมดนักวิเคราะห์บางคนตีความว่าเลือกตั้งปีนี้อาจไม่จบง่ายๆ สัปดาห์ก่อนกลุ่มชาติอียู 27 ประเทศหารือรับมือหากเลือกตั้งอเมริกาลงเอยด้วยความรุนแรง อะไรจะเกิดขึ้นหากทรัมป์ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง หากสังคมอเมริกันสับสนว่าใครชนะเลือกตั้ง ใครควรเป็นประธานาธิบดีคนต่อไป

        เป็นเรื่องปกติที่ในช่วงหาเสียงจะห้ำหั่นกันด้วยคำพูด เลือกตั้ง 2020 พิเศษกว่าทุกปีเกิดคำถามว่าจะลงเอยด้วยเหตุรุนแรงหรือไม่ หวังว่าจะไม่เกิดหรือเกิดเล็กน้อยบางจุดเท่านั้น

        การเลือกตั้งน่าจะสงบเรียบร้อยหากทรัมป์เป็นฝ่ายชนะ ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้เช่นกัน.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"