'ปิยบุตร' ลุย 'สกลนคร' คืนสังเวียนปราศรัย ชวนเขย่าท้องถิ่นเปลี่ยนประเทศ


เพิ่มเพื่อน    

7 พ.ย.63 - คณะก้าวหน้าเปิดเผยว่า เมื่อ 6 พ.ย. ที่ผ่านมาน ที่จังหวัดสกลนคร  นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ได้ลงพื้นที่ช่วยหาเสียงให้ นายณรงเดช อุฬารกุล ผู้สมัครผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.สกลนคร โดยนายปิยบุตร ขึ้นปราศรัยว่า นี่เป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปี 9 เดือน ที่ตนได้กลับมาปราศรัยหาเสียงอีกครั้งที่จังหวัดสกลนคร ตั้งแต่สมัยที่เป็นพรรคอนาคตใหม่ การส่งคนชิงตำแหน่งนายก อบจ. ในนามคณะก้าวหน้าวันนี้เกิดขึ้นมาได้ ต้องย้อนความกลับไปถึงพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งมีหนึ่งในนโยบายธงคือการกระจายอำนาจ ยุติรัฐราชการรวมศูนย์ เอาอำนาจคืนกลับมาให้ท้องถิ่น

วันนั้น เราตั้งใจว่ามีเลือกตั้งท้องถิ่นเมื่อไหร่เราจะลงสมัครให้ครบทุกจังหวัด แต่เมื่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 7 คนมีคำวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ไป พร้อมตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค 10 ปี หลายคนเสียใจและเสียดายโอกาสรวมถึงคะแนนที่กาให้เรา แต่ถ้าเราหยุดเพียงเพราะเขายุบพรรคและตัดสิทธิ นั่นแปลว่าเรายอมแพ้และจะแพ้เขาไปตลอดดกาล  เราจึงเงยหน้าขึ้นมาใหม่ ยืนตัวตรงขึ้นมาใหม่ ก่อตั้งเป็นคณะก้าวหน้าขึ้นมา และคณะก้าวหน้าจะรับภารกิจของพรรคอนาคใหม่เดิมในการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งท้องถิ่นทั้งหมดทุกระดับ โดยรอบนี้เราจะเริ่มต้นก่อนที่จะรับ อบจ. เราส่ง 41 จังหวัด จากทั้งหมด 76 จังหวัด และจังหวัดหนึ่งที่เราให้ความสำคัญอย่างมากก็คือสกลนคร

"จังหวัดสกลนครเป็นจังหวัดที่ประกาศตัวว่าจะส่งคนชิงนายก อบจ.และ ส.อบจ.เป็นที่แรกๆ ตั้งแต่สมัยเป็นพรรคอนาคตใหม่ และเมื่อมาเป็นคณะก้าวหน้าสกลคร ก็ยังคงยืนหยัดประกาศส่งคนชิงนายก อบจ.และ ส.อบจ.ไปกับเรา ทุกคนได้เห็นวิสัยทัศน์ของนายณรงเดชแล้ว มีการแกะงบประมาณออกมาเป็นนโยบายครบถ้วนแล้ว ถ้าทุกคนร่วมกันกาให้ในวันที่ 20 ธันวาคมนี้ เรียกว่าพร้อมทำงานทันที  เราให้ความสำคัญกับการเมืองท้องถิ่นและการกระจายอำนาจ หลายคนยังไม่ทราบว่าจะมีการเลือกตั้งท้องถิ่นกันแล้ว เราไม่ได้เลือกกันมาเกือบ 10 ปีแล้ว หลายครั้งเรารู้สึกเป็นเรื่องไกลตัว รู้สึกว่าเลือกแล้วไม่เปลี่ยนแปลง จึงทำให้หลายคนอาจจะละเลยไปบ้าง นี่จึงเป็นเหตุให้คณะก้าวหน้ามีความมุ่งมั่น ที่ต้องการจะเปลี่ยนการเลือกตั้งท้องถิ่นให้เป็นแบบใหม่" นายปิยบุตร กล่าว

นายปิยบุตร กล่าวถึงแนวทางการทำงานด้วยว่า  1. เราจะแข่งขันในสนามเลือกตั้งโดยอาศัยนโยบาย ข้อมูล เราจะไม่แข่งกันที่อิทธิพล หรือวงศ์วานว่านเครือของใคร เรายืนยันที่จะแข่งด้วยนโยบาย เป็นจุดเด่นที่สุดที่จะมาขายกับประชาชน เรามีนโยบายที่จะเปลี่ยนแปลงสกลนคร ทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้น

2. ทำให้เป็นการเมืองของคนสกลนครทุกคน เข้ามามีส่วนร่วมได้หมด ใครอยากเป็นผู้สมัครในนามคณะก้าวหน้า ไม่ต้องเป็นเครือข่ายอิทธิพลใหญ่โต ขอเพียงมีอุดมการณ์แบบเดียวกัน ต้องการเปลี่ยนจังหวัดให้ดีขึ้น มีวิสัยทัศน์พัฒนาบ้านเกิด ต่อต้านเผด็จการไปกับเรา ผู้สมัครของเราจึงเป็นคนธรรมดาที่เจอกันได้ทุกวัน และเรายังเปิดโอกาศให้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามาลงสมัครกับเรา แม้เป็นที่น่าเสียดายว่าอายุของ นายก อบจ.ตามกฎหมายถูกจำกัดไว้ที่ 35 ปีขึ้นไป แต่เราก็มีคนรุ่นใหม่เข้ามาเติมเต็มเป็นทีม ส.อบจ.ของเราอย่างคับคั่งในทุกพื้นที่ และที่สำคัญ คือนโยบายการทำงบประมาณแบบมีส่วนร่วม ประชาชนทุกคนจ่ายภาษีมากมายที่นำไปสู่งบประมาณในระดับท้องถิ่น แต่ไม่เคยได้มีโอกาสกำหนดว่าจะเอาภาษีไปทำโครงการอะไรบ้าง แต่คณะก้าวหน้ามีวิสัยทัศน์ที่ต่างไปจากนั้น คือเราต้องการให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดงบประมาณ ว่าในแต่ละพื้นที่ประชาชนต้องการให้เอาไปใช้ในเรื่องไหนบ้าง

3. ต่อสู้โดยไม่ซื้อสิทธิขายเสียง เราพิสูจน์มาแล้วในวันที่เป็นพรรคอนาคตใหม่ เราไม่ใช้เครือข่ายอิทธิพลและกลไกรัฐ เราได้มา 6.3 ล้านคะแนน เป็นการเขย่าการเมืองไทยในระดับชาติ ว่าการทำการเมืองแบบไม่มีอิทธิพล กลไกรัฐ ไม่มีการซื้อเสียง สามารถประสบความสำเร็จในการเมืองไทยได้ และครั้งนี้เราก็ยังคงยืนยันที่จะใช้วิธีการแบบเดิมในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง" นายปิยบุตร กล่าว

เลขาธิการคณะก้าวหน้า กล่าวอีกว่า การเมืองท้องถิ่นแบบใหม่ครั้งนี้มีความสำคัญ เราแปลกใจว่าเหตุใดในเมื่อช่วงต้นเดือนมีวันหยุดยาวหลายวัน ที่ประชาชนที่ไปทำงานต่างเมืองจะกลับมาบ้าน และมาใช้สิทธิเลือกตั้งไปพร้อมกันได้ แต่ทำไมถึงให้ไปเลือกวันที่ 20 ธันวาคมนี้ ดังนั้นถ้าพี่น้องเห็นความสำคัญของการเมืองท้องถิ่นครั้งนี้ เราต้องช่วยกันออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.และ ส.อบจ.ให้มากที่สุด เพราะมีความสำคัญอยู่  3 ประการ

1.  เราเลือกตั้งนายก อบจ.ครั้งล่าสุดเมื่อปี 2555 นี่จึงเป็นการเลือกตั้งนายก อบจ.ครั้งแรกในรอบ 8 ปี นี่คือการเลือกตั้งที่เราจะสามารถกำหนดชีวิตของเราใหม่ได้ ถ้าเลือกแบบเดิมเราก็จะได้แบบเดิม ถ้าเลือกแบบใหม่เราก็จะได้ทีมบริหารในสกลนครในแบบใหม่

2. ถ้าได้ทีมบริหารที่จะมาทำการเมืองแบบใหม่ให้สกลนคร จะส่งผลต่อการกระจายอำนาจในระดับประเทศ เพราะที่ผ่านมาการกระจายอำนาจถูกโยงไปกับการทุจริต แต่ถ้าเราชนะแล้วเข้าไปทำการเมืองแบบใหม่ได้ ทำการเมืองแบบใสสะอาด ทำเพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชน พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนได้ เราจะยุติข้ออ้างในการหวงอำนาจไว้ที่ส่วนกลางได้

3. การเลือกตั้งท้องถิ่นแม้จะเลือกกันในจังหวัด แต่ก็สะท้อนถึงการเมืองระดับชาติด้วย การเลือกตั้งทุกระดับคือสามารถเป็นพลังในการแสดงออก ว่าเราพอใจหรือไม่พอใจกับการบริหารประเทศในปัจจุบัน คณะก้าวหน้ามีจุดยืนชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลชุดนี้ เราสนับสนุนข้อเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ต้องลาออก คืนอำนาจสู่ประชาชน ทวงคืนประชาธิปไตย ยุติระบอบ คสช.ที่สืบทอดอำนาจผ่านกลไกรัฐธรรมนูญมา ขณะนี้มีการชุมนุมเกิดขึ้นทั่วประเทศไทยทั่วทุกจังหวัด แสดงออกถึงความไม่พอใจ ถ้าวันที่ 20 ธันวาคมประชาชนออกมาเลือกผู้สมัครของคณะก้าวหน้าให้ถล่มทลาย นั่นจะเป็นสัญญาณส่งไปที่รัฐบาล ว่าคนสกลนครสนับสนุนคณะก้าวหน้า ไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์และ คสช.ได้ด้วยเช่นกัน

"ถ้าอยากเปลี่ยนแปลงประเทศไทย เริ่มต้นเปลี่ยนแปลงที่สกลนคร เริ่มต้นเปลี่ยนแปลงที่บ้านของท่าน เปลี่ยนการเมืองไทยไปด้วยกัน เปลี่ยนท้องถิ่นไทยไปด้วยกัน เปลี่ยนสกลนครไปด้วยกัน เราเขย่าการเมืองระดับชาติมาเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว ธันวาคมปีนี้ขออีกรอบ เขย่าท้องถิ่นไทย เขย่าสกลนคร เปลี่ยนสกลนครไปด้วยกัน" นายปิยบุตร กล่าว


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"