ดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์กับดาวจรสำคัญ

        มฤตยูจร (0) เดินถอยหลังในราศีเมษ

        พระราหูจร (8) เดินตามเข็มนาฬิกาในราศีพฤษภ-29 มีนาคม 2565

        พระอังคารกาลกิณีจร (3) เริ่มเดินหน้าทวนเข็มนาฬิกาในราศีมีน ระหว่าง 8 พฤศจิกายน 2563-28 ธันวาคม 2563

        พฤหัสบดีจร (5) จากราศีธนู เข้าเดินในมังกร เริ่ม 14 พฤศจิกายน 2563

        พระเสาร์จร (7) จากราศีธนูเข้าเดินในราศีมังกร เริ่ม 5 ธันวาคม 2563

        ถึงแม้ว่าตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน 2563 เป็นต้นไป ความอึดอัดใจในเมืองที่ก่อตัวและเป็นมาสำหรับรอบนี้ตั้งแต่ประมาณกลางเดือนกรกฎาคม 2563 จะค่อยๆ เริ่มลดลง (หยุดปรากฏการณ์ตรึงกันระหว่างพฤหัสบดีหัวหน้าดาวดี และพระเสาร์หัวหน้าดาวร้ายในดวงเมือง) แต่ใช่ว่าจะน่าไว้วางใจ เพราะยังมีปรากฏการณ์ร้ายอื่นรออยู่ให้ฟันฝ่า

      เรียกได้ว่า รอบนี้ฝ่ายพระสยามฯ (พฤหัสบดี) ต้องทำงานหนัก-อดทน-อึดกันจริงๆ เพราะยังไม่ทันถึงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2563 ก็จะมีปรากฏการณ์ใหม่พร้อมจะอุบัติรอให้ฟันฝ่าดังนี้ คือ

      1.เริ่มประมาณ เช้าตรู่วันที่ 8 พฤศจิกายน-28 ธันวาคม 2563 เกิดปรากฏการณ์ราหูค้นทรัพย์และคณะจะร่วมด้วยช่วยบีบเมือง รอบแรก (ยังมีอีกหลายรอบ) โดยคาดว่าจะมีเรื่องต่างๆ รอเกิดตามลีลา ดังนี้

      1.1 อุบัติเหตุร้ายแรงมากชวนตะลึงตาค้างรอเวลาเกิด ด้วยปรากฏการณ์ใหม่ คือ พระราหูตรึงกับพระอังคารในดวงเมือง (ราหูจร 8 เดินตามเข็มนาฬิกาในราศีพฤษภ ทับพระอังคารดวงเดิม ๓ ส่วนพระอังคารจร 3 วกกลับจากเดินถอยหลังเดินหน้าทวนเข็มนาฬิกาที่ราศีมีน ทับพระราหูดวงเดิม ๘ ที่สถิตอยู่ในราศีมีน)

      จึงระหว่างนี้ในเมืองต้อง ระวังอุบัติเหตุร้ายแรงมากๆ ที่เกิดจากอารมณ์ฉุนเฉียว ร้อนแรง มุทะลุ-การต่อสู้-ทะเลาะวิวาท-คุ้มคลั่ง-อุปัทวเหตุทุกทางทั้งดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศ-อาวุธ-เลือด-ระเบิด-แก๊ส-ควัน-ยาพิษ หรือกลอุบายต่างๆ ที่ใช้ประหัตประหารกัน ตัวอย่างที่เคยเกิดเร็วๆ นี้คือท่อแก๊สของ ปตท.ที่สมุทรปราการ คือหนังตัวอย่างแบบเบาะๆ

        โดยตั้งแต่ 5 ธันวาคม 2563 เป็นต้นไป ปรากฏการณ์ใหญ่รอจังหวะซ้ำคือเรื่องไฟในเมืองจะแรงมาก ซึ่งจะได้เตือนเป็นระยะๆ ต่อไป เพราะเกณฑ์นี้จะเป็นไปอีกยาว

      1.2 ระวังความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน หรือมิตรประเทศที่อาจทะเลาะกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง

      1.3 มีเหตุการณ์เหมือนเมืองถูกบีบให้ตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่ง

      1.4 เหล่าดาราอาจจะเกิดเรื่องใหญ่ไม่คาดฝัน

      1.5 อาจมีพายุเข้าแบบแปลกๆ

      1.6 มีปรากฏการณ์หมูท้าราชสีห์รบ

      2.ตั้งแต่ 5 ธันวาคม 2563 เป็นต้นไป (ถึง 1 มีนาคม 2566) เริ่มปรากฏการณ์ใหญ่ในเมือง (เพราะเสาร์จรย้ายจากราศีธนูเข้าไปเดินในราศีมังกร) คือ

      ใครเป็นรัฐบาลแม้จะมั่นคง (พระเสาร์จรที่มังกรได้มาตรฐานเกษตราธิบดี) แต่ก็ต้องแบกภาระหนักมากทางเศรษฐกิจ และการดูแลประชาชน (พระเสาร์จรในราศีมังกร-ถึงพระศุกร์ดวงเดิม ๖ ที่สถิตราศีมีน และเล็งใส่พระจันทร์ดวงเดิม ๒ ที่สถิตราศีกรกฎ)

      แต่ฟากฝ่ายค้านเองก็ชะตาตกทำอะไรก็ไม่ค่อยขึ้น แม้จะอึดอัดใจ

      ส่วนประชาชนโดยทั่วไปก็อยู่ในสภาวะดวงตก อาจเจอเรื่องเจ็บไข้ได้ป่วย-สุขภาพอนามัย หรือมีหนี้กันมาก ที่รัฐบาลต้องดูแล ที่เห็นเป็นลางรออยู่คือ การที่รัฐบาลต้องจ้องหาวัคซีนโควิด-19 มาให้ประชาชน เป็นต้น

      หรือไม่ก็อาจจะมีเรื่องการสูญเสียให้ประชาชนตกใจ-เศร้าโศกทั้งเมือง

      3.ตั้งแต่ 5 ธันวาคม 2563 เป็นต้นไป (ถึง 1 มีนาคม 2566) ปรากฏการณ์ใหญ่ ศัตรูผู้มีอำนาจรบหรือทะเลาะกัน เมืองไทยจะพลอยเดือดร้อนแบบไม่รู้อีโหน่อีเหน่ (พระเสาร์จรเป็นสิบ...ศัตรูใหญ่จะทำณรงค์) ที่ผ่านมา เช่น ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป สั่งสังหารนายพลอิหร่านในอิรักจนราคาน้ำมันพุ่ง เป็นต้น

      4.ตั้งแต่ 5 ธันวาคม 2563 เป็นต้นไป (ถึง 1 มีนาคม 2566) ปรากฏการณ์ใหญ่ภาครัฐจะลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ทุกทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จีน จะเข้ามาอย่างโดดเด่นด้านคมนาคม โดย รัฐต้องยอมเป็นหนี้

      กล่าวโดยสรุป เกณฑ์ชะตาเมืองหลังวันที่ 14 พฤศจิกายน 2563 เป็นต้นไป ที่เริ่มจะหายอึดอัดใจ แต่ ดูแล้วกลับจะมีเรื่องร้ายรอเกิดซ้ำเข้ามาอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกณฑ์อุบัติเหตุที่เด่นชัดมาก แต่ทุกช่วงเวลาของดวงเมืองก็เหมือนดวงคน ที่ย่อมไม่มีดีทั้งหมด หรือร้ายทั้งหมด เพราะมันผิดธรรมชาติของชีวิต

      จึงตอนต่อไปรออ่านขณะราหูค้นทรัพย์ และดาวร้ายรุมกระหน่ำ แต่ ดวงชะตาเมืองก็มีเกณฑ์ดีแทรกแล้วมาอย่างน่าประทับใจ ที่เป็นหลักโหรที่ผู้เขียนครุ่นคิดอยู่นานกว่าจะได้คำตอบ-แถมมีตัวอย่างปูมโหรในอดีตมายืนยันด้วย

      โปรดรอติดตาม.