'แก้วสรร'ออกบทความด่วน'อย่าทำตัวไม่เป็นกลางเข้าข้างในหลวง!'


เพิ่มเพื่อน    

11 พ.ย.2563 -  อาจารย์แก้วสรร อติโพธิ เผยแพร่บทความในรูปถาม-ตอบเรื่อง “อย่าทำตัวไม่เป็นกลางเข้าข้างในหลวง!” ผ่าน www.thaipost.net มีเนื้อหาดังนี้

 “เรียน ท่านจุฬาราชมนตรี ผมไม่ติติง หรือขัดแย้งในเรื่องความคิดทางการเมืองส่วนบุคคล แต่ท่านคือผู้นำศาสนา ท่านคือสาธารณชน ท่านคือผู้แทนของพระศาสดาเจ้า ท่านควรวางตัวเป็นกลาง ไม่ควรแสดงชี้ชัดว่าอยู่ฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่ง”ไมค์ จาดนอก ทวิตท้วงติงจุฬาราชมนตรี จัดงาน”รวมพลังมุสลิม ปกป้องสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์” 

ถาม    ท่านจุฬาราชมนตรี  จัดงานนี้ด้วยคำอธิบายอย่างไร
ตอบ    ผมว่าท่านคิดแบบ “สถาบัน” ว่าการที่บ้านเมืองเราจะอยู่ด้วยกันโดยสงบสันติมีถูกมีผิดมีส่วนรวมรู้จักรับฟังประนีประนอมกันได้นั้น   ทั้งสถาบันศาสนาและสถาบันกษัตริย์ล้วนเป็นองค์คุณที่เกื้อหนุนให้เราอยู่ด้วยกันได้อย่างสงบสุขเป็นภราดรภาพ 
เมื่อมา พ.ศ.นี้  มีผู้เอาความจงเกลียดจงชังสถาบันกษัตริย์ปลุกปั่นลงไปในสังคม ท่านจุฬาฯจึงเห็นว่า นี่คือภัยที่พี่น้องมุสลิมไทยต้องช่วยกันปกป้องร่วมกับศาสนิกอื่น  นี่ไม่ใช่การเลือกข้างทางการเมือง  ในหลวงไม่ได้ตั้งพรรคการเมือง หรือทะเลาะกับใคร แต่เป็นการนำสถาบันศาสนามาช่วยสมทบรักษาชาติบ้านเมือง สมทบทางสติปัญญาและจิตใจให้หลุดพ้นจากความโฉดเขลาจงเกลียดจงชัง ด้วยองค์คุณของสถาบันศาสนา

ถาม    นายไมค์ บอกว่า ท่านคือสาธารณชน คือผู้แทนศาสดาเจ้า จะทำตัวไม่เป็นกลางไม่ได้
ตอบ    ที่ชี้ไปนั้นมีนิ้วชี้นิ้วเดียว อีก 3 นี้วชี้มาที่ตัวเองทั้งนั้น  มวลชนพวกนี้ปฏิเสธประโยชน์สาธารณะ ไม่เห็นหัวคนอื่น เหยียบหัวใจคนอื่น หูเบา ปฏิเสธความถูกผิดมาตั้งแต่เริ่มถือกำเนิดด้วยความเกลียดชังแล้ว  
    งานนี้มองมุมหนึ่งก็เปรียบได้เหมือนหมางี่เง่า มาจาบจ้วงวิ่งเห่าเยี่ยวรดศาลพระภูมิกลางบ้านทั้งวันทั้งคืน  พอเราไปไล่ มันก็บอกให้เราอยู่สงบๆ เป็นกลาง อย่าเข้าข้างศาล  

ถาม    พอตำรวจไปจับหมา  เจ้าฮิวแมนไรท์ก็จะว่าเป็นคดีการเมือง ละเมิดสิทธิเสรีภาพทางความคิดความเชื่ออีกอยู่ดี
ตอบ    ถามมันดู  ว่าฮิตเลอร์ควรมีสิทธิเสรีภาพปลุกปั่นมวลชนนาซีขึ้นมาทำลายโลกปรกติไหม

ถาม    ปมคิดแบบนี้ นิสิตคณะสถาปัตย์ มช. ก็เคยเวียนหนังสือให้รื้อประติมากรรมในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ตั้งอยู่หน้าคณะ โดยอ้างว่าทำให้คณะดู “ไม่เป็นกลาง” มาแล้ว
ตอบ    มันชัดว่า โดยรากฐานความคิดนั้น เขาปักใจไม่ยอมรับว่ากษัตริย์เป็นสถาบันส่วนรวมไปเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นพอเห็นสำนักพระราชวัง ได้งบประมาณแผ่นดินจากสภาไปใช้ในราชการของสถาบันไม่ต่างจากกระทรวงทบวงกรมทั้งหลาย    เขาก็ไม่เห็นว่างานสำนักพระราชวังเป็นราชการบ้านเมือง  กลับเห็นเป็นการเบียดบัง จนต้องเดินร้อง ภาษีกู ภาษีกู ภาษีกู อยู่อย่างนั้น

ถาม    คำอธิบายทั้งหมดจึงฝังปมอยู่ที่ ความจงเกลียดจงชังสถาบันกษัตริย์ที่ได้ปลุกปั่นจัดตั้งกันเป็นมวลชนเรียบร้อยแล้ว
ตอบ    ครับ ถ้าเข้าใจแล้ว ก็จะเห็นหางยาวๆที่ซ่อนไว้ใต้วาทะกรรมอำพรางที่ออกจากปากคนพวกนี้หมดเปลือกเลย อันที่จริงมันอยู่คนละโลกไปแล้ว  
เราอยู่เป็นคนๆในชีวิตปรกติ ส่วนเขาอยู่เป็นมวลๆในชีวิตปฏิวัติ คุยกันลำบาก

ถาม    แล้วทำไมตูนีเซียถึงคุยกันจนสมานฉันท์กันได้
ตอบ    บ้านเมืองเขาโดน “อาหรับสปริง” จนลุกฮือชิบหายแตกแยก ฟัดกันเป็น 10 ปีถึงมาได้คิดว่า เวลาเราหายไปไหน ทำไมเราพูดกันไม่รู้เรื่อง      

ถาม    ถ้างั้นบ้านเราคงต้องผ่าน “ไทยสปริง”ก่อน  
ตอบ    ตอบได้เลยว่าไม่สำเร็จ  ปริมาณและคุณภาพความเลวของผู้ปกครองยังมีระดับธรรมดาไม่เพียงพอต่อการปลุกระดมให้ได้ความจงเกลียดจงชังที่ได้ทั้งคุณภาพและปริมาณ จนต้องจัดอีเวนต์ มุ้งๆมิ้งๆ ขนลุกขนชันกันเองอยู่อย่างนี้ 
          ปัญหาทางคุณภาพแบบนี้ วางแผนให้ประทะแล้วบานปลายไปถึง 6 ตุลาสอง ได้ยากมาก


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"