บางจากอ่วม 9เดือนขาดทุน 7,219 ล้าน


เพิ่มเพื่อน    

12 พ.ย. 2563 นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (BCP) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2563 บริษัทมีรายได้ 103,317 ล้านบาท ลดลง 26% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และขาดทุนสุทธิ 7,219 ล้านบาท หรือ -749% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,112 ล้านบาท ส่วนไตรมาส 3 ปี 2563 ขาดทุนสุทธิ 647 ล้านบาท โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก 

ขณะที่ ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ปี 2563 มีทิศทางปรับตัวดีขึ้น ตามความต้องการใช้น้ำมันเริ่มฟื้นตัว หลังการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ การดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มากขึ้น แต่หากเทียบกับปีก่อน ความต้องการใช้น้ำมันลดลงอย่างมากและยังต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว ส่วนผลการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจพลังงานไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์ชีวภาพยังคงเติบโตต่อเนื่อง ช่วยลดความผันผวนของผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัท

ทั้งนี้ แนวโน้มราคาน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปในตลาดโลกยังคงทรงตัวและมีความผันผวนจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอก 2 ในหลายประเทศ โดยเฉพาะในสหรัฐและยุโรป จนทำให้ต้องประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง คาดว่าจะส่งผลให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและอุปสงค์การใช้น้ำมันชะลอตัวลง เป็นปัจจัยกดดันให้ค่าการกลั่นทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งกระทบกับธุรกิจโรงกลั่น ส่วนกลุ่มธุรกิจการตลาดมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น ความต้องการใช้น้ำมันในประเทศเริ่มฟื้นตัว จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อภายในประเทศ

นายดุลเดช บิค นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า BCP งวดไตรมาส 3 ปี 2563 ขาดทุนสุทธิ 647 ล้านบาท จากกำไรสุทธิ 370 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน และขาดทุนสุทธิ 1,900 ล้านบาทในไตรมาส 2 ปี 2563 เพราะมีการตั้งสำรองด้อยค่า 1,000 ล้านบาทในธุรกิจสำรวจและผลิต แต่ถ้าไม่รวมรายการนี้พบว่ามีกำไร ซึ่งมาจากกำไรสต็อก 272 ล้านบาท, ปริมาณและค่าการตลาดธุรกิจน้ำมันค้าปลีกดีขึ้น และผลประกอบการธุรกิจพลังงานทางเลือกฟื้นตัว แต่ค่าการกลั่นยังอ่อนแอมาก

ขณะเดียวกัน แนวโน้มไตรมาส 4 ปี 2563 คาดว่าการฟื้นตัวของอุปสงค์น้ำมันและราคายังไม่แข็งแกร่งต่อเนื่อง แม้ว่าระยะสั้นจะมี Sentiment ดีขึ้นหลังมีข่าวความคืบหน้าในการผลิตวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ของกลุ่มไฟเซอร์ และค่าการกลั่นโดยรวมยังคงถูกกดดันจากการล็อกดาวน์รอบใหม่ในหลายประเทศ นอกจากนี้ คาดว่าในปี 2564 จะพลิกกลับไปเป็นกำไรสุทธิและจ่ายเงินปันผลได้ คาดการณ์ปีหน้าอยู่ที่ 4%


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"