ศบค.เผยพบผู้ป่วยใหม่ 5 รายในสถานที่กักกันของรัฐ ทบ.ให้ 19 ทหารกักตัวเฝ้าระวัง 14 วัน จากเหตุพบทหารเกาหลีใต้ติดโควิด 8 นาย กองทัพไทยยันเดินหน้าฝึกคอบร้าโกลด์ 21 พร้อมปรับรูปแบบ-ช่วงเวลาสอดรับสถานการณ์โรคระบาด สธ.พบผู้สัมผัสทหารเกาหลีติดโควิดเพิ่มเป็น 235 ราย
          เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5 ราย ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,852 ราย หายป่วยเพิ่ม 8 ราย ยอดรวมผู้รักษาหายป่วย 3,693 ราย รักษาในโรงพยาบาล 99 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 60 ราย สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ รายที่ 1 เดินทางมาจากเยอรมนี วันที่ 5 พ.ย. เป็นเพศชายสัญชาติเยอรมัน อายุ 70 ปี เกษียณอายุ ตรวจพบเชื้อวันที่ 10 พ.ย. รักษาในโรงพยาบาลเอกชน รายที่ 2 มาจากสวีเดน วันที่ 5 พ.ย. เป็นเพศหญิง สัญชาติไทย อายุ 30 ปี เป็นนักศึกษา ตรวจพบเชื้อวันที่ 10 พ.ย. มีไข้ 37.6 องศา รักษาที่โรงพยาบาลบางละมุง  
    รายที่ 3 มาจากอิหร่าน วันที่ 5 พ.ย. เป็นเพศชาย สัญชาติไทย อายุ 45 ปี อาชีพช่างเชื่อมเหล็ก ตรวจพบเชื้อวันที่ 10 พ.ย. รักษาที่สถาบันทรวงอก รายที่ 4 มาจากเคนยา วันที่ 6 พ.ย. เป็นเพศชาย สัญชาติไทย อายุ 58 ปี อาชีพค้าขาย ตรวจพบเชื้อวันที่ 9 พ.ย. ไม่มีอาการ รักษาที่โรงพยาบาลวัดญาณสังวราราม และรายที่ 5 มาจากสวิตเซอร์แลนด์ วันที่ 7 พ.ย. เป็นเพศหญิง สัญชาติไทย อายุ 65 ปี ตรวจพบเชื้อวันที่ 9 พ.ย. มีไข้ ปวดกล้ามเนื้อ และปวดศีรษะ รักษาโรงพยาบาลเอกชนใน จ.สมุทรปราการ  
          สำหรับสถานการณ์ทั่วโลก ยอดผู้ติดเชื้อรวม 52,432,183 ราย รักษาหายป่วย 36,675,532 ราย เสียชีวิต 1,289,529 ราย ส่วนเที่ยวบินนำคนไทยที่ตกค้างกลับประเทศวันที่ 12 พ.ย. รวม 633 คน จาก 11 เที่ยวบิน และวันที่ 13 พ.ย. รวม 326 ราย จาก 10 เที่ยวบิน  
    พล.ท.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงสาธารณสุข ได้แถลงถึงเหตุการณ์ทหารสาธารณรัฐเกาหลีใต้ที่เข้าร่วมการประชุมวางแผนเตรียมการฝึกคอบร้าโกลด์ 21 จ.ระยอง ระหว่างวันที่ 2-6 พฤศจิกายน 2563 ตรวจพบเชื้อโควิด-19 ระหว่างการเดินทางกลับสาธารณรัฐเกาหลีใต้นั้น ในส่วนของกองทัพบกได้จัดกำลังพลร่วมการประชุมคราวเดียวกันนี้ จำนวน 19 นาย ซึ่งศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กองทัพบก ได้แจ้งให้ทุกนายเข้าสู่ขั้นตอนตามมาตรการควบคุมโรคของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 แล้ว โดยทั้ง 19 นาย ได้เข้าสู่กระบวนการตรวจหาเชื้อในครั้งแรกเรียบร้อย
    "ขณะนี้ได้เข้าสู่การกักตัวสังเกตอาการ ณ บ้านพักระยะเวลา 14 วัน ตามมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 โดยทางกรมแพทย์ทหารบก, โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า และโรงพยาบาลค่ายสังกัดกองทัพบกส่วนภูมิภาคจะให้การดูแล ดำเนินการสอบสวนโรค เฝ้าสังเกตอาการ ให้ความรู้ แนะนำวิธีปฏิบัติตน ดูแลป้องกันอย่างเคร่งครัด ให้กับทั้งกำลังพล ครอบครัวและผู้ใกล้ชิด รวมทั้งมีการติดตาม รายงาน ส่งข้อมูลข่าวสาร ระหว่างกำลังพลที่กักตัวอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความตระหนักรู้ และเท่าทันต่อสถานการณ์" พล.ท.สันติพงศ์กล่าว
     พล.ท.เชาวลิตร สังฆฤทธิ์ โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย กล่าวถึงกรณีที่มีผู้แทนจากกองทัพสาธารณรัฐเกาหลีติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายหลังเดินทางมาร่วมประชุมวางแผนขั้นสุดท้ายการฝึกร่วมผสมคอบร้าโกลด์ 2021 ว่า ภายหลังทราบว่ากำลังพลดังกล่าวตรวจพบเชื้อไวรัสโควิด-19 ระหว่างการเดินทางกลับเข้าประเทศ กองบัญชาการกองทัพไทยจึงได้แจ้งให้หน่วยที่เข้าร่วมการประชุมการฝึกฯ แจ้งกำลังพลที่เกี่ยวข้องทุกนายเข้าสู่กระบวนการควบคุมโรคทันที โดยตรวจพิสูจน์โรคและกักกันเป็นเวลา 14 วัน และดำเนินการตรวจโรคให้แก่กำลังพล จำนวน 177 นาย โดยใช้วิธีเก็บตัวอย่างจากโพรงจมูกและคอ (SWAB) ผลการตรวจไม่พบเชื้อ จำนวน 129 นาย และอยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจ จำนวน 48 นาย
    “กองทัพไทยยืนยันความพร้อมในมาตรการการตรวจคัดกรอง ป้องกัน และการเฝ้าระวังที่เข้มข้น โดยจะใช้ทุกศักยภาพที่มีอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนและมิตรประเทศ แสดงจุดยืนที่ชัดเจนของประเทศไทย ในการใช้มาตรการทางการแพทย์ที่เป็นสากล เพื่อให้การฝึกร่วมกับมิตรประเทศทุกรหัสการฝึก มีความปลอดภัย และลดความเสี่ยงของโรค ไวรัสโควิด-19 ต่อไป อย่างไรก็ตาม การฝึกยังคงมีแผนการฝึกตามเดิม แต่จะมีการปรับรูปแบบและช่วงเวลาการฝึก โดยคำนึงถึงปัจจัยในเรื่องสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นสำคัญ” โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทยกล่าว
     ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค เผยถึงความคืบหน้าผลการสอบสวนและควบคุมโรคติดเชื้อโควิด-19 กรณีทหารเกาหลีตรวจพบเชื้อโควิด-19 หลังกลับจากไทยว่า จากการสอบสวนโรคเพิ่มเติมในประเทศไทย พบผู้สัมผัสทหารรายดังกล่าวเพิ่มอีก 33 ราย รวมเป็น 235 ราย (ไทย 210 ราย/ต่างชาติ 25 ราย) การดำเนินการติดตามผู้สัมผัสภายในประเทศทั้ง 210 ราย ดังนี้ เก็บตัวอย่างตรวจหาเชื้อแล้ว 194 ราย ผลไม่พบเชื้อ 163 ราย รอผล 31 ราย และอยู่ระหว่างรอดำเนินการตรวจ 16 ราย ประกอบด้วย 1.ทหาร 181 ราย ผลตรวจไม่พบเชื้อ 161 ราย รอผล 16 ราย และอยู่ระหว่างรอดำเนินการตรวจ 4 ราย 2.เจ้าหน้าที่ตำรวจ 5 ราย รอผล 1 ราย และอยู่ระหว่างรอดำเนินการตรวจ 4 ราย 3.เจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานและเจ้าหน้าที่ศุลกากร 9 ราย ผลตรวจ ไม่พบเชื้อ 2 ราย รอผล 1 ราย และอยู่ระหว่างรอดำเนินการตรวจ 6 ราย 4.เจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐ 2 ราย อยู่ระหว่างรอดำเนินการตรวจทั้ง 2 ราย และ 5.เจ้าหน้าที่โรงแรม 13 ราย รอผลตรวจทั้ง 13 ราย ทั้งนี้ ผู้ที่อยู่ระหว่างรอดำเนินการตรวจทั้ง 16 รายนี้ จะดำเนินการตรวจภายในวันนี้ (12 พฤศจิกายน 2563) หากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป   
        สำหรับทหารชาวต่างชาติที่เข้าร่วมประชุม จำนวน 25 รายนั้น กระทรวงสาธารณสุข ได้ประสานไปยังสถานเอกอัครราชทูตเกาหลีและประเทศที่เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ เพื่อสอบสวนโรคเพิ่มเติมและติดตามทหารที่เข้าร่วมประชุมเพื่อตรวจหาเชื้อต่อไป
    นายแพทย์กิตติพันธุ์ ฉลอม ผู้ช่วยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ด้านระบาดวิทยา เปิดเผยว่า? กรณีที่ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับการประสานจากกรมควบคุมโรคถึงข้อมูลเกี่ยวกับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย 1 รายเป็นเพศชาย สัญชาติอินเดีย วัย 37 ปี อาชีพพนักงานในร้านอาหาร จังหวัดกระบี่ ซึ่งผู้ป่วยรายนี้มีประวัติเดินทางเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงระหว่างวันที่ 30 ต.ค.-2 พ.ย.นั้น ทางทีมสอบสวนโรคทุกส่วนของ? จ.เชียงใหม่ ลงพื้นที่สอบสวนโรค และติดตามผู้สัมผัสในจังหวัด พบว่า มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงรวม 6 ราย ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 39 ราย ได้รับการเก็บตัวอย่าง เพื่อตรวจหาเชื้อก่อโรค COVID-19 ผลทั้งหมดทุกรายไม่พบเชื้อ? ซึ่งตัวเลขสะสมล่าสุด 45 ราย? แต่ยังคงสอบสวนในไทม์ไลน์?ของผู้ป่วยให้ได้มากที่สุดเพื่อดูกลุ่มเสี่ยงในกรณีนี้ให้ครบ  เบื้องต้นถือเป็นเรื่องที่เบาใจได้ที่ในตอนนี้คือทุกคนไม่พบเชื้อ แต่ต้องรอหลังครบกักตัว? 14? วันอีกครั้งว่าผลจะเป็นลบเหมือนเดิมหรือไม่.