'มูลนิธิผสานวัฒนธรรม'ประณามตำรวจใช้ความรุนแรงต่อม็อบ3นิ้ว


เพิ่มเพื่อน    

8 พ.ย.2563 - มูลนิธิผสานวัฒนธรรมได้ออกแถลงการณ์ประณามการใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่รัฐต่อประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐาน มีเนื้อหาว่า สืบเนื่องจากเหตุการณ์วันที่ 17 พฤศจิกายน 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระทำละเมิดต่อประชาชนที่ออกมาเข้าร่วมการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ ณ บริเวณสี่แยกเกียกกายไปจนถึงบริเวณหน้ารัฐสภา โดยการใช้ลวดหนามปิดกั้นมิให้ประชาชนสามารถเข้าร่วมการชุมนุม ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ฉีดน้ำแรงดันสูงซึ่งมีส่วนผสมแก๊สน้ำตาไปยังกลุ่มผู้ชุมนุมอย่างต่อเนื่องหลายต่อหลายครั้ง ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมาก ซึ่งรวมทั้งเด็กและเยาวชน ได้รับบาดเจ็บจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว

มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ขอประณามการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว อันเป็นการใช้ความรุนแรงต่อประชาชน และละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิและเสรีภาพของประชาชนอย่างร้ายแรง

การชุมนุมวันที่ 17 พฤศจิกายน 2563 เป็นการใช้เสรีภาพของประชาชนในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ ซึ่งได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยมาโดยตลอด การใช้เสรีภาพในการชุมนุมยังเป็นหลักสิทธิมนุษยชนพื้นฐานของสังคมเสรีประชาธิปไตยที่ได้รับรองตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (International Covenant on Civil and Political Rights หรือ ICCPR) โดยประเทศไทยได้เข้าเป็นภาคีกติกาดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2539 ดังนั้น รัฐจึงมีหน้าที่โดยตรงตามกฎหมายที่จะต้องคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนอย่างเป็นผล

การกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปิดกั้นมิให้ประชาชนเข้าร่วมการชุมนุมและการใช้ความรุนแรงเพื่อสลายการชุมนุมดังกล่าวนั้นจึงเท่ากับว่ารัฐได้กระทำผิดกฎหมายด้วยการละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิและเสรีภาพของประชาชนอย่างร้ายแรงเสียเอง มูลนิธิผสานวัฒนธรรมจึงมีข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลดังนี้

1.รัฐบาลต้องยุติการใช้ความรุนแรงต่อประชาชนทุกรูปแบบ และคุ้มครองการใช้เสรีภาพในการชุมนุมของประชาชนที่มีความเห็นแตกต่างกันทางการเมือง โดยไม่เลือกปฏิบัติ เพื่อให้การชุมนุมเป็นไปโดยสงบและปราศจากอาวุธ

2.รัฐบาลต้องไม่สลายการชุมนุมที่เป็นไปโดยสงบและปราศจากอาวุธ หากข้อเท็จจริงปรากฏถึงขนาดที่รัฐมีความจำเป็นต้องสลายการชุมนุม รัฐต้องปฏิบัติตามหลักวิธีสากลอย่างเป็นขั้นเป็นตอน โดยคำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิและเสรีภาพของประชาชน และผลประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นสำคัญ

3.รัฐบาลต้องตรวจสอบอย่างเร่งด่วนกรณีการกระทำละเมิดของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปิดกั้นมิให้ประชาชนเข้าร่วมการชุมนุมและการใช้ความรุนแรงเพื่อสลายการชุมนุมในครั้งนี้และครั้งก่อนหน้า เพื่อนำตัวผู้ที่เกี่ยวข้องมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และป้องกันไม่ให้เกิดการละเมิดดังกล่าวขึ้นซ้ำอีก

4.รัฐบาลต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนและมีประสิทธิผลเพื่อชดเชยและฟื้นฟูเยียวยาประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บหรือได้รับผลกระทบจากมาตรการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายดังกล่าว  

ด้วยความเคารพต่อสิทธิมนุษยชนและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"