18 พ.ย.2563 -  ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค.ต่อมาเวลา 11.45 น. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงผลการประชุมว่า ที่ประชุมได้พิจารณาให้ความเห็นชอบขยายเวลาการบังคับใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 หรือพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่จะครบกำหนดในวันที่ 30 พ.ย.นี้ ออกไปอีก 45 วัน จนถึงวันที่ 15 ม.ค. 2564 โดยสาเหตุที่ขยายเวลาพ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไป 45 วัน จากที่ก่อนหน้านี้ขยายครั้งละ 30 วันนั้น เนื่องจากต้องการให้ครอบคลุมช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาจำนวนมาก และช่วงเวลาดังกล่าวจะมีการแข่งขันแบดมินตันโลกที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ จึงมีความจำเป็นต้องมีมาตรการสำหรับการดูแลนักกีฬาและผู้ติดตามที่เดินทางมาจากต่างประเทศ  

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ในที่ประชุม ศบค. กระทรวงสาธารณสุขได้เสนอแนวทางการกักตัวกักตัวในรูปแบบ Area Quarantine ที่จะปรับรูปแบบการกักตัว โดยกักตัวในสถานที่กักตัวของรัฐ 10 วัน และอีก 4 วัน ให้อยู่ในพื้นที่ที่กำหนด เพื่อสังเกตการณ์ เช่น ให้ผู้กักตัวออกไปชายหาดในบริเวณโรงแรม ซึ่งเป็นพื้นที่ปิดได้ ซึ่งที่ประชุมรับทราบข้อเสนอดังกล่าว แต่ที่ประชุมขอให้ถอนวาระดังกล่าวออกไปก่อนเพราะมีหลายประเด็น ทั้งการเปิดรับประเทศที่ควบคุมโรคได้ดีกว่าเรา หรือรวมไปถึงประเทศที่มีการระบาดมากกว่าเรา และจะให้ใช้วิธีการนี้เฉพาะชาวต่างชาติหรือคนไทยที่เดินทางกลับประเทศประเทศ ทำให้ยังไม่ได้ข้อสรุป จึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมแล้วเสนอเข้าที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่อีกครั้ง

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ที่ประชุม ศบค.ยังให้ความเห็นชอบให้แรงงานต่างด้าวบริเวณชายแดนที่ทำงานอยู่ในประเทศไทย สามารถเข้ามากักตัวในสถานที่กักตัวของรัฐได้ด้วย เนื่องจากที่ผ่านมาคนเหล่านี้ไม่สามารถเข้ามากักตัวในสถานที่ของรัฐได้ แต่เราเห็นว่าพวกเขาทำงานในประเทศก็ควรที่จะได้รับสิทธิดังกล่าว

ขณะที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2 ราย ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,880 ราย หายป่วยเพิ่ม 5 ราย ยอดรวมผู้รักษาหายป่วย 3,729 ราย รักษาในโรงพยาบาล 91 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 60 ราย สำหรับผู้ป่วยรายใหม่รายที่ 1 มาจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นหญิงสัญชาติไทย อาชีพช่างเขียนแบบ และรายที่ 2 มาจากเบลเยียม เป็นเพศชายสัญชาติเบลเยียม อาชีพนักการเงินและบัญชี เคยมีประวัติติดเชื้อมาก่อน สำหรับสถานการณ์ทั่วโลกยอดผู้ติดเชื้อรวม 55,936,901 ราย รักษาหายป่วย 38,958,802 ราย เสียชีวิต 1,343,116 ราย