'เอนก'สนองพระมหากรุณาธิคุณในหลวงพระราชทานที่ดินแก่วงการอุดมศึกษาไทย


เพิ่มเพื่อน    

 

24 พ.ย.63 - ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม  โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เอนก เหล่าธรรมทัศน์ Anek Laothamatas เรื่อง พระมหากษัตริย์กับมหาวิทยาลัย มีเนื้อหาดังนี้

พระมหากษัตริย์ไทยทรงให้กำเนิดและทรงมีคุณูปการต่ออุดมศึกษาไทยเรา เป็นอเนกอนันต์ ล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 ทรงให้กำเนิด โรงเรียนข้าราชการพลเรือน โรงเรียนกฏหมาย โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า โรงเรียนนายเรือ โรงเรียนแพทยกร-ราชแพทยาลัย โรงเรียนฝึกหัดอาจารย์ เป็นปฐม ส่วนล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 นั้นทรงสถาปนาจุฬาลงกรณ์ขึ้นเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศ และ ล้นเกล้ารัชกาลที่ 7 ทรงสร้างธรรมเนียมที่พระมหากษัตริย์จะเสด็จพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตไทย และนี่เป็นประวัติอุดมศึกษาที่น่าจะรู้กันทั่ว

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบันก็พระราชทานโฉนดที่ดินในพระปรมาภิไธย ร่วม ร้อยไร่ ให้แก่ มรภ สวนสุนันทา และ ม สวนดุสิต ที่เหล่านี้เป็นเขตพระราชฐาน ในพระราชวังดุสิต พระมหากรุณาในครั้งนี้ คล้ายกับที่พระมหากษัตริย์ในอดีตทรงเกื้อกูล หนุนช่วย อุดมศึกษาไทยมาแล้ว เป็นการสืบต่อธรรมเนียมที่พระมหากษัตริย์ทรงอุปถัมภ์ และค้ำจุนมหาวิทยาลัย

ให้เห็นภาพกว้างยิ่งขึ้น ที่ดินล้ำค่าจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย 1,153 ไร่ ในใจกลาง กทม เวลานี้ ก็เป็น “ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์”  ซึ่งล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 พระราชทานให้  ส่วน ม ธรรมศาสตร์ที่ท่าพระจันทร์ ครั้งหนึ่ง เป็นวังหน้าของสถาบันพระมหากษัตริย์ ต่อมารัชกาลที่ 5 พระราชทานให้เป็นที่ตั้งของกองทหาร และหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองไม่นาน ก็ผันกลายเป็นมหาวิทยาลัย  

ต้องไม่ลืมกันด้วยครับว่ามหาวิทยาลัยมหิดลนั้นมีจุดกำเนิดมาจากศิริราชพยาบาล อันโรงพยาบาลแห่งนี้เองก็สร้างขึ้นบนที่ดินวังหลัง ยิ่งกว่านั้นบริเวณ ”ศาลายา” ซึ่งเป็นพื้นที่ตั้งหลักของมหาวิทยาลัยในเวลานี้ 1,241 ไร่ มหาวิทยาลัยก็ขอซื้อจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ในราคาที่ “ถูก” มาก

ยังมี ม ศิลปากร อันมี “พระราชวังสนามจันทร์” เนื้อที่ 888 ไร่ เป็นที่ตั้งหลักของมหาวิทยาลัย นั้น สถานที่นั้นเคยเป็นเขตพระราชวังของล้นเกล้ารัชกาลที่ 6  ในความดูแลของสำนักพระราชวัง  และก็ในสมัยปัจจุบันนี้เอง ที่พระเจ้าอยู่ได้พระราชทานโฉนดแก่มหาดไทย และ จ นครปฐม เพื่อให้มหาวิทยาลัยได้ใช้เป็นการถาวร

ถ้าสงสัยต่อว่า “ทำไมพระมหากษัตริย์มีที่ดินมากมายทั้งใน กทม และต่างจังหวัด ?” ก็เห็นจะต้องบอกว่า เพราะราชวงศ์จักรี ใน250 ปีโดยประมาณได้รักษาแผ่นดินสยามเอาไว้ได้จากการรุกรานของอริราชศัตรูหลายต่อหลายครั้ง ไม่ขาดสาย และตามธรรมเนียมไทยโบราณนั้น ที่ดินทั้งปวงย่อมเป็นของพระมหากษัตริย์ มาถึงรัชกาลที่ 5 จึงได้พระราชทานโฉนดให้เจ้านาย ขุนนางและอาณาประชาราษฎร์มีที่ดินเป็นของส่วนตน ยิ่งใน กทม นั้น ยิ่งไม่พึงสงสัย ร 1 ท่านย้ายเมืองหลวงมาตั้งที่นี่ สร้างราชธานีอันยิ่งใหญ่ขึ้นมาจากชุมชนเล็กๆ โดยแท้  

ที่ดินอันมากมายมหาศาลนั้น แสดงให้เห็นถึงพระบรมเดชานุภาพ และสะท้อนประวัติและการกำเนิดของรัฐสยาม และ กรุงรัตนโกสินทร์ แต่ครั่นเมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป พระมหากษัตริย์ทรงรับระบบกรรมสิทธิที่ดินเอกชน ทรงนำที่ดินของแผ่นดินมาแบ่งปันจัดสรร ผ่านการออกโฉนด และเอกสารสิทธิอื่นๆ ให้แก่ชาวนาชาวไร่ ให้แก่ประชาชนพลเมือง ขุนนำขุนนาง และเจ้านาย ย่อมถือได้ว่าเป็นการปฏิรูประบบที่ดินครั้งสำคัญ 

ยิ่งกว่านั้น ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานที่ดินมากมายมหาศาลของพระองค์เองแก่วงราชการ แก่บ้านเมือง แก่สาธารณประโยชน์ และที่สำคัญยิ่ง แก่วงการอุดมศึกษาไทย พวกเราทั้งปวงจะจารึกไว้ในประวัติของเรา จะจดจำพระมหากรุณาธิคุณ ไม่มีวันลืม การสนองพระมหากรุณาธิคุณที่ดีที่สุดคือทำหน้าที่เราให้ดีที่สุด สอนให้ดีที่สุด วิจัยให้ดีที่สุด ทุ่มเทให้ลูกศิษย์ สร้างศิลปวิทยาการให้รุ่งเรือง เพื่อบ้านเมืองจะได้มั่นคง พัฒนา สถาพร !


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"