คดีแรกของประเทศ 'รีสอร์ทหรู 40 ล้าน' รุกอุทยานฯเขาแหลม ไม่รื้อถอนโดนหนักรับกม.ใหม่


เพิ่มเพื่อน    

อุทยานฯเขาแหลม เร่งฟื้นฟูป่าหลังรีสอร์ทในพื้นที่ อ.ทองผาภูมิ ผวากฎหมายใหม่โทษหนัก ยอมรื้อ ส่วนโรงแรมหรูชื่อดังสังขละบุรี 40 ล้าน ยังเล่นบทดื้อไม่รื้อโดนจัดเต็ม "ฝ่าฝืนคำสั่งไม่รื้อถอน" โทษจำคุก3 ปี ปรับ 3 แสน แถมอีกวันละ 1 หมื่น จนรื้อเสร็จ

3 ธ.ค.63 - นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่าตามนโยบายของนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด กับนายทุนผู้บุกรุกป่า และนำพื้นที่ป่า ที่ยึดคืนมาได้จากนายทุน ดำเนินการฟื้นฟูเป็นสภาพป่าธรรมชาติดังเดิมโดยเร็ว เพื่อเป็นประโยชน์ของประชาชนทุกๆคน  

ทั้งนี้นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) นายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม พร้อมกำลังได้เดินทางไปยังรีสอร์ท "กระท่อมริมธาร" บ้านเกริงกระเวีย อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เพื่อติดตามตรวจสอบ พบว่าเจ้าของรีสอร์ทกระท่อมริมธารได้ยินยอมรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง จำนวน 4 หลังไปจนหมด เมื่อเป็นดังนั้น นายเทวินทร์จึงได้นำรถไถมาทำการปรับพื้นที่ เพื่อเตรียมทำการฟื้นฟูป่าให้มีสภาพธรรมชาติดังเดิม เป็นสมบัติของคนไทยทุกๆคน ต่อไป

ต่อมานายนิพนธ์ นายเทวินทร์ และนายสุภาพเดินทางไปยังสภ.สังขละบุรี เข้าพบพนักงานสอบสวน พร้อมแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของโรงแรมหรู "พรไพลิน รีเวอร์ไซด์ รีสอร์ท" มูลค่า 40 ล้าน ที่ตั้งอยู่ริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ์ ม.1 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ในข้อหาฝ่าฝืนไม่ยอมรื้อถอน ตามมาตรา 35 (2) พรบ.อุทยานแห่งชาติ 2562  ซึ่งมีโทษจำคุก 1 ถึง 3 ปี ปรับไม่เกิน 3 แสนบาท และปรับรายวันวันละ 1 หมื่นบาท จนกว่าจะรื้อถอนโรงแรมดังกล่าวเสร็จสิ้น    

โดยโรงแรมหรูมูลค่า 40 ล้าน "พรไพลิน รีเวอร์ไซด์  รีสอร์ท" บุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม เนื้อที่ 2 ไร่ 3 งาน 8 ตารางวา โดยที่ผ่านมาจนท.ได้ติดประกาศคำสั่งรื้อถอน ไปครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2563 ให้รื้อถอนภายใน 30 วัน และได้ปิดประกาศคำเตือนครั้งที่ 2 ในวันที่ 2 ต.ค.2563 ให้รื้อถอนโรงแรมหรูดังกล่าวภายใน 15 วัน และได้ติดประกาศคำเตือนครั้งที่ 3 ครั้งสุดท้าย วันที่ 24 พ.ย.2563 ให้รื้อถอนโรงแรมหรูดังกล่าวภายใน 7 วัน ปรากฏว่าเจ้าของก็ยังดื้อแพ่ง ไม่ยอมรื้อถอนโรงแรมดังกล่าวแต่อย่างใด รวมทั้งไม่มีคำสั่งจากศาลปกครองชั้นต้นคุ้มครองชั่วคราว ไม่ให้รื้อถอนด้วย

นายนิพนธ์ กล่าวต่อว่า คดีข้อหาฝ่าฝืนไม่ยอมรื้อถอน ตามประกาศคำสั่ง ของหัวหน้าอุทยานเขาแหลมในครั้งนี้ นับได้ว่าเป็นคดีแรกของประเทศไทย ตามกฎหมายอุทยานแห่งชาติฉบับใหม่พ.ศ. 2562 ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย. 2562 เป็นต้นมา นับจากวันนี้ไม่เกิน 6 เดือนโรงแรมแห่งนี้ก็ต้องถูกรื้อถอน และเมื่อถึงเวลานั้น เจ้าของจะต้องเสียค่าใช้จ่าย ในการรื้อถอนให้ทางราชการ  เป็นจำนวนเงิน 1ล้าน 2 แสนบาท ค่าปรับคดีอีก 3 แสนบาท ค่าปรับรายวันรวม 6 เดือน ประมาณ 1ล้าน 8 แสนบาท รวมทั้งต้องถูกดำเนินคดี ในข้อหา"ฝ่าฝืนไม่ยอมรื้อถอน"อีกด้วย

ท้ายสุด ผอ.นิพนธ์ ได้ฝากเตือนบรรดาเจ้าของรีสอร์ท หรือเจ้าของโรงแรมทั้งหลาย ที่ปลูกสร้างบุกรุกในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ หรือในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า หรือในเขตห้ามล่าสัตว์ป่า โดยมิชอบโดยกฎหมาย ให้ทำการรื้อถอนด้วยตนเองดีที่สุด เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติส่วนรวม และประโยชน์ต่อตัวเจ้าของรีสอร์ท หรือเจ้าของโรงแรมเอง ที่จะต้องไม่ถูกดำเนินคดีซ้ำอีก ในข้อหาฝ่าฝืน และต้องเสียค่าปรับเพิ่มขึ้นอีก เป็นเงินจำนวนมากอีกด้วย 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"