อบจ.เชียงใหม่เดือด!'จตุพร'ป้อง'บุญเลิศ'ซัดแหลก'พท.'ยัดข้อหาพวก'พปชร.'


เพิ่มเพื่อน    

6 ธ.ค.63- นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ลงพื้นที่จ.เชียงใหม่ ช่วยนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่ หาเสียงและได้กล่าวปราศรัย อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ ตอนหนึ่งว่า กลุ่มเชียงใหม่คุณธรรมที่ถูกใส่ร้ายป้ายสีว่าทรยศต่อพรรคเพื่อไทยไปอยู่กับเผด็จการในสังกัดพรรคพลังประชารัฐ การเมืองในเชียงใหม่ได้สะท้อนถึงความอยุติธรรม ถ้าตนอยู่เฉยๆทนต่อความอยุติธรรมนี้ จะไม่ถูกข้อกล่าวหาไปอยู่กับพลังประชารัฐด้วย ทั้งที่พวกผมไล่ คสช.ทุกวัน และยังไล่ถึงปัจจุบันนี้ให้ พล.อ.ประยุทธ์ ออกไปให้พ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อพรรคเพื่อไทยไม่เอานายบุญเลิศ ตนตัดสินใจยืนข้างนายบุญเลิศ เพราะนายบุญเลิศ เป็นนายก อบจ.คนเดียวของประเทศไทยที่ติดคุกเพราะไม่รับร่าง รธน.2560 แต่พรรคเพื่อไทย กลับอ้างรูปถ่ายใบเดียวมาตัดสินย้อนหลังเพียงหาเหตุไม่เอานายบุญเลิศเท่านั้น ทั้งที่ความจริงแล้วถ้าคนจะทรยศกันต้องรอถึง 2 ปีด้วยหรือ 

"รูปภาพที่ถูกนำมาอ้างว่า ในช่วงนายบุญเลิศ เป็นนายก อบจ.เชียงใหม่สังกัดพรรคเพื่อไทยนั้น รองนายก อบจ. ยังสังกัดพรรคอนาคตใหม่ และลูกชายนายบุญเลิศก็ไปอยู่อนาคตใหม่ เมื่ออนาคตใหม่มาเปิดที่ทำการพรรค นายบุญเลิศก็ไปแสดงความยินดี ส่วนกรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า มาเปิดสาขาพรรคพลังประชารัฐ มาเชิญก็ไปร่วมด้วยเหมือนไปอนาคตใหม่ แต่ถ้ารูปถ่ายตัดสินการทรยศกับพรรค ส.ส.เพื่อไทยถ่ายรูปกับฝ่ายรัฐบาลและเผด็จการทั้งนั้น คงอยู่พรรคเพื่อไทยไม่ได้ คนเราซื่อสัตย์มากว่า 20 ปีจะมาตัดสินเขาแค่รูปถ่ายใบเดียวหรือ ถ้าบอกเขาดีๆ บอกนายบุญเลิศ ไม่ต้องลงสมัคร เขาก็พร้อมจะสละให้ แต่ไม่ได้บอกอะไร ผลักไสเขาแล้วยัดข้อหาว่าเขาเป็นพลังประชารัฐ ทั้งที่เขาไม่ได้เป็น จึงต้องมาบอกว่า เขาอยู่ฝ่ายประชาธิปไตย ไม่เอาเผด็จการ และถูกใส่ร้าย"

นายจตุพร กล่าวว่า ตนต่อสู้มาตลอด 10 ปี เข้าออกคุกมา 4 ครั้งมีโทษสูงสุดประหารชีวิต เป็นการต่อสู้กับสองมาตรฐาน หรือเรื่องความอยุติธรรมทั้งปวง พรรคเพื่อไทยในการพิจารณาผู้ลงสมัคร นายก อบจ.เชียงใหม่นั้น ถ้ามีความรอบคอบแล้ว คงจดจำเหตุการณ์ปี 2555 กรณี บอส กระทิงแดง ลูกเศรษฐีขับรถชนตำรวจทองหล่อเสียชีวิตได้ ซึ่งเป็นคดีสะเทือนใจประชาชน กรณีบอส กระทิงแดง มาเกี่ยวข้องกับคนในเชียงใหม่ 2 คน คือ มีพยานปากสำคัญให้การกับตำรวจตามสำนวนการสอบสวนของนายวิชา มหาคุณ ที่เขียนตัวย่อว่า จ. แปลความว่า นายจารุชาติ มาดทอง ให้การว่า รถของบอส ขับด้วยความเร็วแค่ 50-60 กม.ต่อชั่วโมง

นอกจากนี้ ในสำนวนสอบสวนของนายวิชา ยังระบุชื่อตัวย่อว่า ช. ซึ่งเป็นชื่อเดิม มีส่วนในการเปลี่ยนแปลงความเร็วรถที่ขับชนตำรวจด้วย ที่นำเรื่องนี้มาบอกเพราะในสำนวนนายวิชา มีการเปิดเผยถึงขบวนการทำลายกระบวนการยุติธรรมอย่างมากที่สุด พูดเรื่องนี้ เพื่อต้องการชวนพรรคเพื่อไทยที่ตนยังรักอยู่ว่า นายบุญเลิศถูกใส่ร้ายว่าเป็นพลังประชารัฐ ทั้งที่ไม่ได้เป็น และตนมาช่วยนายบุญเลิศยังถูกกล่าวหาว่าเป็นพลังประชารัฐทั้งที่ไม่ได้เป็นอีกเช่นกัน แต่พรรคเพื่อไทยที่อ้างว่า ตั้งคณะกรรมการสรรหา ถามว่าได้ตรวจสอบบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการขับรถชนดาบตำรวจวิเชียร กลั่นประเสริฐ ซึ่งเป็นการทำลายกระบวนการยุติธรรมอย่างย่อยยับ และดึงคดีจนบ้างคดีขาดอายุความ

"ผมจึงชวนพรรคเพื่อไทยว่า คุณกับผมไปพบนายวิชา มหาคุณ ไปขอดูหลักฐานทั้งหมดเพื่อทำความจริงให้ปรากฎ เพราะเรื่องนี้เป็นประโยชน์กับชาติบ้านเมือง และคนมีสิทธิเลือกตั้งต้องรับรู้ว่า ถ้าเขาตัดสินใจเลือกคนทำความผิดไปจะสร้างผลเสียในอนาคต ขอตั้งคำถามถึงคณะกรรมการสรรหาของพรรคเพิ่อไทยว่า ถ้าผลการสอบสวนเป็นไปตามอักษรย่อที่ปรากฎว่า ตรวจสอบแล้วได้คนที่ละเมิดทำลายกระบวนการยุติธรรมจากกรณีลูกกระทิงแดงนั้น จะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร เมื่อประชาชนต่างรักความยุติธรรม และนายบุญเลิศถูกกล่าวหาอย่างอยุติธรรม และมีกรณีบอส กระทิงแดง เข้ากับคำว่าสองมาตรฐานอย่างชัดเจน ถ้าเขามีมลทินมัวหมองนั้น คนเชียงใหม่ต้องรับรู้ และพรรคการเมืองที่สังกัดต้องแสดงความรับผิดชอบเช่นเดียวกัน ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราต้องการสิ่งดีงามให้เกิดขึ้นในแผ่นดิน นายบุญเลิศติดคุกเพราะต้องการประชาธิปไตย ซึ่งไม่รับร่าง รธน. 2560 ที่เป็น รธน.ที่เลวที่สุดของประเทศไทย จึงต้องมาขอความเป็นธรรมให้นายบุญเลิศ"

ประธานนปช.กล่าวถึงการต่อต้าน พรบ.นิรโทษกรรมสุดซอยเพื่อเปรียบเทียบถึงหลักคิดสองมาตรฐานของพรรคเพื่อไทยว่า พรบ.นิรโทษกรรมสุดซอย มีสาระหลักเพื่อละเว้นโทษคนสั่งฆ่าประชาชนเสื้อแดงในเหตุการณ์ปี 2553 ทั้งหมดด้วย และพรรคเพื่อไทย พร้อมบรรดาเจ๊ๆทั้งหลายก็โกรธตน จนถูกถอดออกจากรายการทีวี ต้องการจะบอกว่า สิ่งที่เหนือกว่าพรรคคือความถูกต้อง การตัดสินใจผลักนายบุญเลิศออกไปแล้วตราหน้าเขาว่า เป็นพวกพลังประชารัฐ ยอมรับไม่ได้ แล้วไปเอาคนที่มีข้อกล่าวหาเกี่ยวข้องกับกรณีบอส กระทิงแดง ที่เขาต้องพิสูจน์ตัวกับนายวิชา มหาคุณ ดังนั้นสิ่งนี้สะท้อนถึงความยุติธรรม โดยพรรคการเมืองต้องรักษาความยุติธรรม ตนมาขอความยุติธรรม แต่ถ้าความยุติธรรมเป็นเพียงแค่ยัดเยียดคนหนึ่ง เพื่อจะเอาอีกคนหนึ่งที่เป็นคนมีประวัติน่าสงสัย ตนจึงกล้าที่จะยืนกับนายบุญเลิศ พร้อมประกาศท้าทายอย่างชัดเจนว่า ไม่เอาเผด็จการ นายบุญเลิสก็ไม่เอาเผด็จการ และไม่มีวันไปร่วมกับพลังประชารัฐทั้งชาตินี้หรือชาติหน้า

“แต่สิ่งที่พรรคเพื่อไทยทำกับนายบุญเลิศ ผมไม่เห็นด้วย เมื่อตระกูลนี้ซื่อสัตย์ต่อพรรคมากว่า 20 ปี เพียงแค่ภาพเดียวตัดสินเขาเลยหรือ แล้วเอาอีกคนหนึ่งที่เต็มไปด้วยความไม่สบายใจ มีแต่ความน่าสงสัย ความยุติธรรมอยู่เหนือสิ่งทั้งปวง เพราะไม่มีพรรค ไม่มีพวก มีแต่ความเสมอหน้า ผิดเป็นผิด ถูกเป็นถูก ไม่ใช่มีคนมาชี้ว่านี้ถูกหรือผิด แต่ความจริงต่างหากที่เป็นเรื่องถูก-ผิด ดังนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้ขอประชาชนช่วยรักษาความยุติธรรมไว้ แม้จะแพ้หรือชนะก็ตาม ถ้าเลือกแค่คิดอะไรก็ได้แล้ว ประเทศนี้เราจะหาธรรมไม่ได้เลย วันนี้ผม มาขอทานเศษเสียวความยุติธรรมให้กับนายบุญเลิศ อย่าปล่อยให้ความไม่ถูกต้องครองเมือง อย่าให้คนชั่วเหยียบบันได อบจ.เชียงใหม่”


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"