"....หมดเวลาสำหรับการเมืองเก่าที่ใช้เงินซื้อหัวคะแนน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งระดับชาติ หรือการเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะเกิดขึ้นในวันที่ ๒๐ ธันวาคมนี้ มีแต่การเมืองใหม่ การเมืองที่แข่งขันกันที่นโยบายเท่านั้น ที่จะพัฒนาประเทศไทยไปข้างหน้าได้ 
    อยากให้พี่น้องประชาชนทุกท่านร่วมกันรณรงค์ต่อต้านการเมืองที่ซื้อเสียง โดยการไม่รับเงินที่เขาแจก ไม่เช่นนั้นสังคมไทยจะไม่สามารถหลุดพ้นจากระบอบเผด็จการได้...."
    ครับ...ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไปหาเสียงเลือกตั้ง อบจ.ที่จังหวัดสมุทรสาคร แล้วปราศรัยเอาไว้แบบนั้น 
    คอร์รัปชันเป็นปัญหาใหญ่สำหรับสังคมไทยทุกระดับ  และไม่มีทีท่าว่าจะแก้ไขกันได้เสียที 
    ประเทศไทยผ่านการซื้อสิทธิ์ขายเสียงมาอย่างยาวนาน แต่...ธนาธร น่าจะเข้าใจบางอย่างผิดไป 
    พรรคการเมืองที่ทุ่มซื้อเสียงแต่ไม่ชนะการเลือกตั้งก็มี
    ที่อ้างว่าเป็นรัฐบาลเผด็จการ บางรัฐบาลก็มิได้มาจากการเลือกตั้ง 
    กลับกันบางรัฐบาลอ้างเป็นรัฐบาลประชาธิปไตยจ๋า  จนถึงวันนี้ยังยกก้นตัวเองว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย กลับซื้อ ส.ส.ยกพรรค ซึ่งหนักกว่าซื้อเสียงของประชาชน 
    ไม่เชื่อลองไปถามทักษิณดู 
    บางพรรคหนักกว่าซื้อเสียง เจ้าของพรรคมองว่าการเมืองคือการลงทุน โยนเศษเงินตัวเองให้พรรคใช้ในการเลือกตั้ง อ้างว่าเป็นการกู้เงิน แต่เจตนาครอบงำพรรค ไม่ต่างจากเผด็จการ
    แต่...คอร์รัปชันวันนี้ไม่ได้มีเฉพาะการซื้อ-ขายเสียงเท่านั้น และหากสามารถแก้ปัญหาคอร์รัปชันได้ ประเทศจะหลุดพ้นจากนักการเมืองชั่วๆ ทันที 
    และหาก ธนาธร จริงจังที่จะแก้ปัญหาคอร์รัปชัน ต้องเริ่มกับคนใกล้ตัวก่อน  
    "อิทธิพร แก้วทิพย์" โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ชี้แจงเหตุไม่ฟ้อง สกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ กรณีสินบน ๒๐ ล้าน เพื่อให้ได้สิทธิเช่าที่ดินของทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
    ....ผู้ต้องหา ๒ คน คือ นายประสิทธิ์ อภัยพลชาญ  อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์  และ นายสุรกิจ ตั้งวิทูวนิช พร้อมกับระบุข้อเท็จจริงในสำนวนว่าในส่วนของนายสกุลธรที่ได้ให้เงินเพื่อจูงใจพนักงานเจ้าหน้าที่โดยไม่ผ่านขั้นตอนปกติเป็นลักษณะของการกระทำผิด จึงทำให้นายสกุลธรไม่เป็นผู้เสียหายนิตินัย ซึ่งเป็นอีกคดีที่พนักงานสอบสวนจะดำเนินการตรวจสอบต่อไป จากนั้นศาลได้พิพากษาให้ผู้ต้องหาทั้งสองคนมีความผิดตามกฎหมาย... 
    ...พนักงานสอบสวนได้ให้ความเห็นแล้วว่าประสงค์จะแยกสำนวนนายสกุลธรเป็นคดีต่างหาก ด้วยเหตุนี้อัยการจึงไม่ได้แจ้งให้ดำเนินคดี เพราะอัยการไม่สามารถเริ่มต้นสอบสวนเองได้ ต้องรอพนักงานสอบสวนดำเนินการให้เสร็จและส่งมาให้อัยการก่อน จากนั้นอัยการถึงจะดำเนินการตามหน้าที่ต่อไป....
    เมื่อ ธนาธร อ่านตรงนี้เข้าใจแล้ว รีบกลับไปบอกน้องชาย แสดงความรับผิดชอบ 
    อย่างน้อยก็เพื่อตระกูล จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่ให้เสียหายไปมากกว่านี้  
    เหมือนที่ ธนาธร มักเรียกร้องความรับผิดชอบจากผู้อื่น
    ในเมื่อ ธนาธร บอกว่าจะปฏิรูปประเทศ ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ต้องการความโปร่งใส ลดความเหลื่อมล้ำ ธนาธร ต้องเคลียร์กรณีพี่สาวแจกทุน น้องชายติดสินบน ให้ได้ 
    อย่าเอาแต่เงียบ  
     ไม่เช่นนั้นจะติดตัวไปจนตาย.