เมื่อมีโชคดี...ย่อมต้องมีโชคร้าย!!!


เพิ่มเพื่อน    

          เห็นรายละเอียดตัวเลข ว่าด้วยเรื่อง หนี้สินครัวเรือน ที่เว็บไซต์ โพสต์ทูเดย์ เขาเอามาถ่ายทอดไว้ในข้อเขียน บทความ เรื่อง พิษร้ายหนี้ครัวเรือน ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่แล้ว ก็เรียกว่า...เล่นเอา อึ้ง-กึม-กี่ กันไปมิใช่น้อย คือออกจะเป็นอะไรที่น่าห่วง น่ากังวล อยู่พอสมควร เผลอๆ อาจหนักซะยิ่งกว่าบรรดา ม็อบกาเหว่าที่บางเพลง ไม่รู้กี่เท่า ต่อกี่เท่า...

                                                --------------------------------------------------

            แม้ว่าการเป็นหนี้ เป็นสิน ของบรรดาครัวเรือนต่างๆ...คงต้องถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา ของสังคมไหนๆ ประเทศไหนๆ ก็แล้วแต่ แต่การที่ปริมาณหนี้สินที่ว่า มันชักเด้ง ชักโด่ ปาเข้าไปถึงระดับ 13.59 ล้านล้านบาท เพิ่มพรวดๆ พราดๆ ขึ้นไปอีก 3.8 เปอร์เซ็นต์ หรือมีปริมาณเทียบเท่ากับ 83.3 เปอร์เซ็นต์ ของผลิตผลมวลรวมประชาชาติ หรือของตัวเลข GDP นั้น อันนี้...คงจะอยู่นิ่งๆ เฉยๆ ไม่คิดจะเอารั้วลวดหนาม เอาตู้คอนเทนเนอร์ มาสกัดขัดขวางเอาไว้มั่ง คงไม่น่าจะได้ หรือไม่น่าจะเข้าท่ากันซักเท่าไหร่นัก...

                                    ----------------------------------------------

            อีกทั้งเนื่องจากภายในจำนวนและปริมาณของหนี้ดังกล่าว...มันยังเริ่มกลายสภาพเป็น หนี้เสีย หรือหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ปาเข้าไปถึง 152,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นไปถึง 19.7 เปอร์เซ็นต์ อันถือเป็นภาพสะท้อนให้เห็นถึงความเสื่อมประสิทธิภาพ ความไร้ศักยภาพ ของบรรดาผู้คนในครัวเรือนต่างๆ ที่ชักออกอาการ สาละวัน-เตี้ยลง...สาละวัน-เตี้ยลง ยิ่งเข้าไปทุกที ยิ่งเมื่อมีการชี้แนะ ชี้นำ มาจากองค์กรระหว่างประเทศ อย่าง ธนาคารโลก ระบุเอาไว้ทำนองว่า บรรดาผู้คนประเภทสาละวันเตี้ยลงๆ ทั้งหลายนี้ หรือผู้มีรายได้วันละไม่เกินกว่า 5.5 เหรียญสหรัฐ ที่เคยมีจำนวนประมาณ 4.7 ล้านคนในเมืองไทย มีแนวโน้มที่จะเพิ่มพูนขึ้นไปเป็น 9.7 ล้านคน ในอีกไม่ไกล-ไม่ใกล้ ก็ยิ่งหนักไปทาง จากไป...สวีวี่วี ยิ่งขึ้นไปเท่านั้น...

                                    ----------------------------------------------

            คือจะไปพึ่งพา รัฐบาล เพียงลูกเดียว...ก็ออกจะลำบากอยู่อีกนั่นแหละ เพราะภาวะเศรษฐกิจของโลกทั้งโลกในช่วงนี้ แทบไม่ได้เอื้ออำนวยใดๆ ให้กับการทำโน่น ทำนี่ ได้มากมายซักเท่าไหร่ ยิ่งตัวเลขเศรษฐกิจปีนี้ เห็นว่าน่าจะ ติดลบ ไม่น้อยไปกว่า 6 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป โอกาสที่จะ คนละครึ่ง กันในเฟสหนึ่ง เฟสสอง เฟสสาม ฯลฯ ก็น่าจะยิ่งลำบากยิ่งขึ้นไปเท่านั้น เพราะอย่างที่ผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญ แห่งสหประชาชาติ อย่างนาย David Beasley ผู้อำนวยการโครงการอาหารโลก ท่านได้พูดๆ เอาไว้เมื่อไม่นานมานี้นั่นแหละว่า การทุ่มเทเงินๆ ทองๆ จำนวนไม่น้อยกว่า 19 ล้านล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 500-600 ล้านล้านบาท ของรัฐบาลต่างๆ ทั่วทั้งโลก ก็แค่พอช่วยให้เกิดการ เยียวยา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ การลงทุน อันเป็นตัวก่อให้เกิดการผลิดอก ออกผล หรือเกิดขีดความสามารถในการใช้หนี้ใดๆ ได้เลย...

                                                -----------------------------------------------

            ด้วยเหตุนี้...องค์กรเพื่อการพัฒนา อย่างเช่น UNDP (United Nations Development Program) เขาจึงกล้าที่จะออกมา ฟันธง แบบชนิดเต็มผืน เต็มด้าม ว่าโอกาสที่จำนวนประชากรโลกไม่ต่ำกว่า 270 ล้านคน จะต้องตกอยู่ในสภาพ ยากจนอย่างรุนแรง (extreme poverty) ย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ ภายในปีนี้ และแนวโน้มแห่งความยากจนในลักษณะที่ว่าน่าจะต่อเนื่อง ยาวนาน ลุกลาม บานปลาย จนผู้ที่ตกอยู่ในสภาพดังกล่าว อาจเพิ่มขึ้นไปถึง 1,000 ล้านคน ภายในปี ค.ศ.2030 ค่อนข้างเป็นไปได้ อย่างมิพึงต้องสงสัยต่อไปอีกเลย...

                                                ----------------------------------------------

            อันนี้นี่แหละ...ที่ต้องเรียกว่า เป็นอะไรที่น่าห่วง น่ากังวล ซะยิ่งกว่าพวกที่เพรียกหาพอร์นฮ้ง พอร์นฮับ ไม่รู้กี่สิบ กี่ร้อยเท่า คือถ้าหากปริมาณความจน และความไร้คุณภาพของความจน มันดันอุบัติขึ้นมาในบ้านเราแบบเป็นระบบและเป็นกระบวนการ หรือแบบจริงๆ จังๆ แล้ว โอกาสที่จะไปขอร้อง วิงวอน ให้อดทน อดกลั้น ให้ยึดมั่นใน ขันติธรรม เข้าไว้ให้จงหนัก เพื่อที่จะนำไปสู่ สามัคคีธรรม หรือความสมานฉันท์ในรูปไหน แบบไหน โดยใครต่อใครก็แล้วแต่ มันคงเป็นอะไรที่ยากซ์ซ์ซ์เย็น ยิ่งขึ้นไปอีก แนวโน้มที่ทุกสิ่งทุกอย่างจะออกไปทาง หน้ามืด ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ...

                                                            -------------------------------------------------

            ดังนั้น...ไม่ว่าท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ท่านจะดวงดี โชคดี กันไปถึงขั้นไหน จะทำบุญ สุนทาน ด้วยการแอบหยอดยาเสน่ห์เอาไว้ในบาตรพระ ตั้งแต่ชาติที่แล้ว ชาติปางก่อน หรือไม่? อย่างไร? ก็ตามที แต่ถ้าหากต้องเจอกับฉากสถานการณ์ หนี้ครัวเรือน ที่กำลังก่อให้เกิด พิษร้าย อยู่ในช่วงขณะนี้ โอกาสที่จะ ลั้ลลา ต่อไปได้เรื่อยๆ โอกาสที่จะเด้งเชือก ฉากหลบ กระชากตัวเองออกจากมุม มาเต้นย็อกๆ แย็กๆ กลางเวทีเหมือนเก่าๆ นั้น ยังไงๆ...น่าจะลดน้อยถอยลงไปตามลำดับ นอกเสียจากต้องหาทางรับมือกับบรรดาสิ่งทั้งหลาย ทั้งปวง เหล่านี้เอาไว้ซะแต่เนิ่นๆ ส่วนจะถึงขั้นต้องขึงรั้วลวดหนาม ตั้งตู้คอนเทนเนอร์ เอาไว้ซักกี่ตู้ต่อกี่ตู้ ถึงจะพอ เอาอยู่ ได้มั่ง อันนั้น...ก็คงต้องปล่อยให้ผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญ และผู้ซึ่งมีอำนาจ-หน้าที่-รวมไปถึง ความรับผิดชอบ คงต้องไปว่ากันเอาเองก็แล้วกัน...

                                                --------------------------------------------------

            ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้จาก H.G. Wells” (อีกครั้ง)... Poverty wants some things, luxury many, avarice all things.- ความจนอยากได้บางสิ่งบางอย่าง ความฟุ่มเฟือยอยากได้หลายอย่าง ความโลภอยากได้ทุกสิ่งทุกอย่าง...”.

                                                            ---------------------------------------------------

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"