ผวจ.สั่งฟันผู้จัดคอนเสิร์ต


เพิ่มเพื่อน    

 

ศบค.พบป่วยโควิดเพิ่ม 28 ราย มีติดในประเทศ 1 คนเป็นบุคลากรทางการแพทย์ "บิ๊กตู่" ยันยกเลิก "บิ๊กเมาน์เทน" ไม่เกี่ยวการเมือง ชี้อำนาจ ผวจ.-สสจ.โคราช เหตุไม่ทำตามกติกา หวั่นแพร่เชื้อต้องกลับไปชัตดาวน์อีก สธ.ขอ 3 ประสานยึดชีวิตวิถีใหม่ยังฉลองปีใหม่ได้ พ่อเมืองนครราชสีมาสั่งตำรวจดำเนินคดีผู้จัดคอนเสิร์ต
    เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แถลงความคืบหน้าผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทยว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 28  คน โดย 27 คนเป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ เข้ารับการกักตัวในสถานกักกันตัวที่รัฐจัดให้ โดยประเทศต้นทางมาจากประเทศบาห์เรน 7 ราย เมียนมา 6 ราย สหราชอาณาจักร 3 ราย ฝรั่งเศส 2 ราย โปแลนด์ 2 ราย ยูเครน  1 ราย ปากีสถาน 1 ราย อาเซอร์ไบจาน 1 ราย  อินโดนีเซีย 1 ราย เยอรมนี 1 ราย สวีเดน 1 ราย และจอร์แดน 1 ราย ส่วนใหญ่พบติดเชื้อโดยไม่แสดงอาการป่วย โดยพบข้อสังเกตว่าผู้ที่ติดเชื้อส่วนใหญ่ต่อเครื่องมาจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สวิตเซอร์แลนด์ และ อินโดนีเซีย
    ทั้งนี้ต้องขอความร่วมมือคนไทยที่เดินทางออกไปนอกประเทศไม่ว่าจะถูกหรือผิดกฎหมาย ขอให้เดินทางกลับเข้าประเทศไทยในช่องทางปกติไม่ต้องหลบซ่อน  เพื่อเข้ารับการกักกันตัวในสถานกักกันตัว หากพบว่าป่วยติดเชื้อจะได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
    นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ส่วนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1 คน ซึ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ อยู่ในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ อายุ 27 ปี ติดเชื้อเพิ่ม 1 คน โดยอยู่ในกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง มีประวัติรับประทานอาหารร่วมกับผู้ป่วยกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์รายที่ 4 และรายที่ 6 ถูกนำตัวเข้ากักกันเพื่อสังเกตอาการในโรงพยาบาล ทำให้มีโอกาสแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นได้น้อย โดยตรวจหาเชื้อครั้งแรกวันที่ 8 ธ.ค. ให้ผลเป็นลบ และในการตรวจครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. พบติดเชื้อร่วมกับมีอาการเจ็บคอและแน่นจมูก
    ส่วนคอนเสิร์ตบิ๊กเมาน์เทนเฟสติวัล 2020 จะเป็นบรรทัดฐานให้กับการจัดงานบันเทิงรื่นเริงอื่นๆ อย่างไรนั้น  โฆษก ศบค.กล่าวว่า การให้คนเข้าไปร่วมงานจำนวนมากล้วนมีความเสี่ยงทั้งสิ้น มีคอนเสิร์ตได้แต่ต้องสร้างระยะห่าง ภาคเอกชน ภาครัฐ และประชาชนที่ไปร่วมงานต้องปฏิบัติตามมาตรฐานนิวนอร์มอลในทิศทางเดียวกันให้ได้  และยิ่งมีแอลกอฮอล์เข้ามาเกี่ยวข้องจะทำให้การควบคุมขอความร่วมมือทำได้ยากขึ้น ดังนั้นความร่วมมือสำคัญที่สุดจึงอยู่ที่ภาคประชาชน ซึ่งทำให้เราเอาชนะโควิด-19 มาได้
แนะจัดปีใหม่วิถีใหม่
    "ในประเทศจีนพบการติดเชื้อ 2 คนสั่งปิดเมืองทันที  แต่ในประเทศไทยเราต้องการให้ดำเนินชีวิตในวิถีปกติใหม่  พบการติดเชื้อก็จัดการปัญหาเป็นพื้นที่ ถ้าถามว่ากังวลหรือไม่ ก็ยอมรับว่ากังวล เพราะเมื่อมีเทศกาลเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทำให้เราคุมสติไม่ได้ เราเคยเห็นภาพการห้ามขายแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จนทำให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตลดลงอย่างชัดเจน ปีใหม่นี้เราจะผ่านไปได้ด้วยดี  และอยากเห็นภาพการพบปะสังสรรค์กันได้ในวิถีนิวนอร์มอล โดยไม่ต้องกักตัวอยู่ในบ้าน" นพ.ทวีศิลป์ระบุ
    นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป  กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในกรณีกลุ่มคนที่เป็นคนรู้จักกันแล้วไปแคมปิ้งในภูเขาเป็นที่โล่งแจ้ง ความเสี่ยงก็จะน้อย ก็เหมือนการเปลี่ยนสถานที่รับประทานอาหารร่วมกัน ดังนั้นความเสี่ยงก็จะไม่ต่างกัน แต่อย่างกรณีคอนเสิร์ตที่บิ๊กเมาน์เทน คนที่ไม่รู้จักกันไปรวมกัน ความเสี่ยงที่อาจจะมีผู้ติดเชื้อเข้าไปในงานจะมีมากขึ้น แต่หากเป็นกลุ่มเล็กความเสี่ยงที่จะพบผู้ติดเชื้อจะลดน้อยตามลงไป จึงแนะนำว่า การจัดกิจกรรมควรแบ่งออกเป็นโซนหรือกลุ่มย่อยเพื่อลดความเสี่ยง ส่วนในเรื่องของการงดดื่มแอลกอฮอล์นั้นเป็นเรื่องที่ควบคุมได้ยาก แต่ถ้าเป็นงานขนาดเล็กความเสี่ยงก็จะน้อยกว่างานขนาดใหญ่อยู่แล้ว
    เมื่อถามว่า มาตรการควบคุมป้องกันโรคของคอนเสิร์ตบิ๊กเมาน์เทนเหมาะสมกับสถานการณ์โควิด-19  ในไทยหรือไม่ นพ.โสภณกล่าวว่า ความเสี่ยงของการแพร่ระบาดของโรคจะแปรไปตามจำนวนคน เรากำลังเล่นกับคน 30,000 คน หากจะเจอคนติดเชื้อก็มีความเสี่ยงมาก  แต่ถ้าจัดแค่ 30 คนโอกาสที่จะพบคนติดเชื้อก็น้อย ดังนั้นหากเรานำผู้เข้าร่วมงานกว่า 30,000 คนมาจัดเป็นกลุ่มเล็ก  การติดตามผู้สัมผัสจะมีวงจำกัดมากขึ้น ซึ่งในกรณีการจัดกิจกรรมเคาต์ดาวน์ปีใหม่ก็ควรไปในทิศทางเดียวกัน
    สำหรับความคืบหน้าของวัคซีนป้องกันโควิด ซึ่งจะเริ่มนำมาใช้ในช่วงกลางปี 64 นั้น จะทำให้ประชากรจำนวนหนึ่งได้รับการฉีดวัคซีน โดยขณะนี้คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติกำลังศึกษาว่า หากมีคนได้รับวัคซีนจนมีภูมิคุ้มกันแล้วจะได้รับการดูแลที่แตกต่างอย่างไร กรณีเดินทางเข้ามาในประเทศอาจมีการผ่อนคลายมาตรการเรื่องการกักตัว 14 วัน ซึ่งคาดว่าจะมีรายละเอียดและวิธีปฏิบัติออกมาในเร็วๆ นี้
    ที่สโมสรทหารบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาสั่งให้ยกเลิกการจัดเทศกาลดนตรีบิ๊กเมาน์เทน ที่สนามกอล์ฟดิโอเชียน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ว่า เป็นเรื่องของสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา (สสจ.นครราชสีมา) ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดมีสิทธิ์และมีอำนาจพิจารณา โดยรัฐบาลมีหน้าที่ปลดล็อกต่างๆ เพื่อให้มีการจัดคอนเสิร์ตหรือกิจกรรมต่างๆ แต่ถ้าไม่ดำเนินการตามกติกาต้องปิด เพราะสิ่งสำคัญคือการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19  หากมีคนเดือดร้อนจากการแพร่ระบาดใครจะรับผิดชอบ  ซึ่งเป็นหน้าที่รัฐบาลที่ต้องรับผิดชอบอีก ทั้งนี้เป็นหน้าที่ของแต่ละพื้นที่ที่ต้องปฏิบัติเช่นเดียวกัน เพราะช่วงระยะเวลาต่อจากนี้จะมีการจัดงานคอนเสิร์ต การแสดงกิจกรรมมากมาย ขอให้ปฏิบัติตามกติกาและทำให้ได้ตามนั้น
    "ผมไม่ได้ขัดข้องกับใครและไม่ใช่การเมือง ผมไม่ต้องสั่ง ทุกคนทำหน้าที่ของตนเองอยู่แล้ว และขอชมเชยทางสาธารณสุขนครราชสีมา ผมทราบว่ามีการแสดงคอนเสิร์ตแล้วสั่งให้ยุติไปก็เพื่อความปลอดภัยของพวกเรา" พล.อ.ประยุทธ์ระบุ
    เมื่อถามว่า การจัดงานเคาต์ดาวน์ในช่วงเทศกาลปีใหม่จะสามารถทำได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่าต้องทำตามกติกา โดยเมื่อช่วงเช้าได้ประชุมศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค.ชุดเล็ก ถึงการจัดงานในช่วงต่อจากนี้จะต้องทำอย่างไร สิ่งสำคัญที่สุดคือการป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด เพราะหากมีการแพร่ระบาดในกรุงเทพฯ จะหนัก ต้องไปดูว่าแต่ละงานจะมีมาตรการอย่างไร ถ้าทำแบบเดิมๆ แล้วเกิดการแพร่ระบาดขึ้นมารัฐบาลก็รับอีก อย่างไรก็ตามเรามีมาตรการควบคุมและมีเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานเขาพร้อมอยู่แล้ว เพียงแต่ทุกคนต้องให้ความร่วมมือ ตนไม่ได้ขัดข้องอะไร
ปิดคอนเสิร์ตไม่เกี่ยวการเมือง
    เมื่อถามย้ำว่า มีการนำเรื่องนี้ไปเชื่อมโยงกับเรื่องการเมือง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "ก็พูดไปเมื่อกี้ว่ามันมีการเมืองอะไรล่ะ จะไปเกี่ยวอะไร แล้วผมก็ไม่รู้ว่าจะมีกิจกรรมอะไรในคอนเสิร์ต เขาก็ไปดูคอนเสิร์ตกันไม่ใช่หรือ ใครที่ทำก็ไปถามคนทำสิ ผมไม่ได้ไปตามเขาด้วยซ้ำไป"
    ถามว่า การชุมนุมยังคงมีอยู่ต่อเนื่อง จะมีการแก้ไขอย่างไรเพื่อไม่ให้เป็นแหล่งการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 นายกฯ กล่าวว่า ต้องใช้มาตรการที่รัดกุม ทำตามกฎหมาย และอย่าทำผิดกฎหมายเท่านั้นเอง เพราะกฎหมายอยู่เฉยๆ แต่หากคนไปละเมิดกฎหมายก็ต้องถูกลงโทษ
    เมื่อถามว่า จำเป็นต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงเพื่อห้ามชุมนุมเกิน 5 คนหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยกเลิกไปตั้งนานแล้ว แต่หากถึงจุดนั้นก็ต้องกลับมาแบบเดิม ต้องย้อนกลับมาใหม่ แต่วันนี้ยังไม่มีสถานการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น ซึ่งกังวลว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ อย่างเช่นการไปจัดคอนเสิร์ตบิ๊กเมาน์เทน หากมีการแพร่ระบาดโควิดออกมาข้างนอกจะทำอย่างไร หรือหากในกรุงเทพฯ จัดงานคอนเสิร์ตแล้วมีการแพร่ระบาดจะทำอย่างไร ทุกอย่างต้องกลับไปชัตดาวน์ใหม่ทั้งหมด ฉะนั้นทุกคนต้องช่วยกัน นายกฯ ไม่ได้เข้าไปทุกงานเพราะรัฐบาลบริหารในภาพรวม การใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ต้องใช้ในสิ่งที่จำเป็น
    พล.อ.ประยุทธ์ยังได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "ขอเน้นย้ำให้พี่น้องประชาชนยังคงเข้มงวดกับทุกมาตรการในการป้องกันการระบาด รวมถึงการเช็กอินผ่านระบบ 'ไทยชนะ' เวลาเดินทางไปสถานที่ต่างๆ เพราะจะทำให้สามารถตรวจสอบ ติดตาม และแจ้งเตือนผู้ที่มีความเสี่ยงได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ"
    ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า คำสั่งของ ผวจ.นครราชสีมา ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดถือว่าเป็นที่สิ้นสุดแล้ว ซึ่งการยกเลิกการจัดงานครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับการเมือง รัฐบาลต้องใช้มาตรการกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพราะไม่ต้องการปล่อยให้ประชาชนมีความเสี่ยงต่อการรับเชื้อจากคนที่ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบ ในเบื้องต้นไม่พบผู้ป่วยโควิด-19 เข้าไปในงานคอนเสิร์ตดังกล่าว จึงไม่ต้องมีการกักตัวผู้มาร่วมงานคอนเสิร์ต ขอให้ปฏิบัติตามแนวทางการป้องกันควบคุมโรค ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมือและเว้นระยะห่าง  สังเกตอาการตนเอง 14 วัน หากมีไข้ ไอ จาม เจ็บคอ คัดจมูก มีน้ำมูก จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส หรือหายใจเหนื่อย ขอให้รีบไปพบแพทย์พร้อมแจ้งประวัติเสี่ยง หากมีข้อสงสัยโทร.สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422
    นายอนุทินกล่าวว่า ช่วงนี้เป็นช่วงการจัดเทศกาลปีใหม่ การจัดกิจกรรมทุกอย่างต้องขออนุญาตจากผู้ว่าราชการจังหวัด และปฏิบัติตามมาตรฐานการจัดงานของกระทรวงสาธารณสุข คือจะต้องจำกัดผู้เข้าร่วมงาน วัดอุณหภูมิ ใส่หน้ากากอนามัย มีทางเข้าทางเดียว มีจุดวางเจลล้างมือให้พอเพียง ผู้จัดงานต้องแจ้งให้ประชาชนทราบ ว่าต้องใส่หน้ากากอนามัย หากทำตามมาตรการต่างๆ จะช่วยลดการติดเชื้อได้ ย้ำอีกครั้งความสำเร็จในการป้องกันโควิด-19 ของประเทศเกิดจากความร่วมมือของประชาชนที่ทำตามคำแนะนำของบุคลากรทางการแพทย์ ขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่ได้ต้องร่วมมือกัน
ตร.ดำเนินคดีผู้จัดงาน
    ที่ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยภายหลังร่วมประชุมกับหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับการยังคงจัดแสดงคอนเสิร์ตบิ๊กเมาน์เทนภายหลังที่สั่งระงับการแสดงแล้วว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากช่อง เจ้าของพื้นที่ดำเนินคดีกับผู้จัดคอนเสิร์ตที่ฝ่าฝืนคำสั่งดังกล่าว โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1  แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งเป็นอำนาจของพนักงานสอบสวนในการลงโทษ ทั้งนี้ยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวไม่มีเรื่องของการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เป็นเรื่องของการบังคับใช้กฎหมาย
    อย่างไรก็ตาม การแสดงคอนเสิร์ตและงานบันเทิงรื่นเริงต่างๆ ในพื้นที่ที่ขออนุญาตแล้วยังคงจัดขึ้นได้ตามปกติ แต่ทุกงานที่จัดต้องมีมาตรการป้องกันโควิด-19 ตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข โดยจังหวัดจะส่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ไปตรวจสอบควบคุมอย่างใกล้ชิด  ซึ่งหากพบว่างานใดมีมาตรการบกพร่องจะมีคำสั่งให้ยุติเช่นเดียวกัน
    พล.ต.ต.พรชัย นลวชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่ไปดูแลความสงบเรียบร้อยภายในงานแสดงคอนเสิร์ตบิ๊กเมาน์เทน  โดยได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่จำนวน 120 นายกระจายอยู่ตามจุดต่างๆ ซึ่งพบว่าช่วงที่กำลังยื่นอุทธรณ์ของผู้จัดงาน มีประชาชนเดินทางเข้ามาชมคอนเสิร์ตอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะมีไม่ต่ำกว่า 30,000 คน ภายหลังจากที่ได้รับทราบว่าที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมามีมติยกคำร้องอุทธรณ์ จึงเข้าไปพูดคุยกับผู้จัดคอนเสิร์ตเพื่อให้ยุติการแสดง ซึ่งผู้จัดพร้อมที่จะให้ความร่วมมือแต่ขอเวลาเคลียร์พื้นที่ เพราะหากจะให้หยุดแสดงคอนเสิร์ตพร้อมกันทั้ง 8 เวทีจะทำให้ประชาชนแตกฮือออกมาพร้อมกัน อันจะส่งผลให้เกิดความโกลาหล การจราจรติดขัดอย่างหนัก  กระทั่ง 22.00 น.ทุกเวทีก็หยุดแสดง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เข้าไปถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจคงจะต้องดำเนินคดีตามกฎหมายไม่มีข้อยกเว้น
    ต่อมานายจักรกฤษณ์ ศรีสุวรรณ นิติกร สสจ.นครราชสีมา ได้รับมอบหมายจาก นพ.นรินทร์รัตน์  พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา  ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน  สภ.ปากช่อง ให้ดำเนินคดีผู้จัดงานคอนเสิร์ตบิ๊กเมาน์เทน มิวสิก เฟสติวัล ครั้งที่ 11 ในฐานความผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558 และความผิดตามมาตรา 9 พ.ร.ก.ฉุกเฉิน  หลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะเรียกผู้ที่ถูกกล่าวหามารับทราบข้อหาต่อไป.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"