พท.ดาหน้าปัด‘แม้ว’ครอบงำ


เพิ่มเพื่อน    

  เพื่อไทยมั่นใจ “แม้ว” เขียนจดหมายเชียร์ผู้สมัคร นายก อบจ.เชียงใหม่ ไม่เข้าข่ายครอบงำพรรค "เด็จพี่" ข้องใจ "ศรีสุวรรณ" มีเบื้องหลังหรือไม่ หลังประกาศจะร้อง กกต.ตรวจสอบ ขณะที่ "จตุพร" เดินหน้าลากไส้ "เจ๊เฮงซวย"

    เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.63 นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เตรียมยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อไต่สวนสอบสวนกรณีนายทักษิณ ชินวัตร  เขียนจดหมายถึงคนเชียงใหม่ให้สนับสนุนผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่ ซึ่งสังกัดพรรคเพื่อไทย เป็นการควบคุมครอบงําพรรคการเมืองหรือไม่ ว่าการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นหรือระดับชาติ ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งมีสิทธิหาเสียง หรือแสดงเจตจำนงช่วยเหลือผู้สมัครได้ เป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ อีกทั้งระเบียบว่าด้วยการเลือกตั้ง อบจ. ก็เปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกช่วยผู้สมัครได้ เพียงแต่กำหนดว่าหากช่วยแล้วต้องใช้จ่ายเงินเกิน 5,000 บาท ก็ต้องแจ้ง กกต.จังหวัด
    "ดังนั้นคิดว่าการช่วยเหลือผู้สมัคร การแสดงความเห็นสนับสนุนใครเป็นเสรีภาพที่ทำได้ ส่วนการที่จะบอกว่าเกี่ยวข้องกับกฎหมายพรรคการเมืองหรือไม่ว่ามีบุคคลภายนอกครอบงำพรรคเพื่อไทย ซึ่งบุคคลนั้นไม่เคยได้พูดถึงพรรคเพื่อไทยเลย และมีการแสดงเจตนาว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ได้บอกว่าให้พรรคเพื่อไทยไปช่วยสนับสนุนอะไร ดังนั้นโดยรวมผมยังสบายใจอยู่" นายชูศักดิ์ กล่าว
    นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า โดยข้อกฎหมาย การครอบงำ ชี้นำพรรคการเมืองนั้น จะต้องครอบงำกรรมการบริหารพรรคด้วย กรรมการบริหารพรรคต้องรู้เห็นเป็นใจด้วย ส่วนการช่วยหาเสียงเป็นการมุ่งไปที่ตัวบุคคล ไม่ได้มาบังคับว่าพรรคเพื่อไทยต้องทำอย่างนั้น หรือให้กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยทำอย่างนั้น ดังนั้นประเด็นข้อกฎหมายอย่างนี้ชัดอยู่แล้ว หากจะไปร้องตีความเอาผิดก็คิดว่ามีเป้าหมายพิเศษ
    ขณะที่นายชัยเกษม นิติสิริ ประธานคณะกรรมการการเมือง พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เรื่องการเชียร์ใครในฐานะประชาชนคนไทย ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็ย่อมเชียร์ได้ อาจจะไม่ได้เชียร์คนที่อยู่ในพรรคเพื่อไทย ไปเชียร์พรรคอื่นก็สามารถทำได้ ไม่มีอะไรห้ามเลย และในแต่ละถ้อยคำก็ไม่มีการเชียร์ในลักษณะของการครอบงำพรรคเพื่อไทย ดังนั้นจึงไม่มีอะไรน่าติดใจ
    นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงใหม่ ในนามพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การเลือกตั้งท้องถิ่นนั้น ตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง กำหนดให้บุคคลที่มิใช่ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองหาเสียงสนับสนุนผู้สมัครคนใดทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ การที่ท่านอดีตนายกฯ ทักษิณได้เขียนจดหมายแล้วโพสต์ลงเฟซบุ๊ซในลักษณะสนับสนุนนายพิชัย จึงสามารถทำได้ตามกฎหมาย และท่านก็ได้ระบุเหตุผลไว้ในจดหมายดังกล่าว ว่าท่านเป็นคนเชียงใหม่ มีความเป็นห่วงประชาชน และต้องการเห็นจังหวัดเชียงใหม่มีการพัฒนา ประชาชนอยู่ดีกินดี
    "ทั้งหมดนี้ไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับการดำเนินกิจการหรือการบริหารงานของพรรคเพื่อไทยเลย และไม่ใช่เป็นการเข้าไปควบคุมหรือครอบงำพรรคตามที่นายศรีสุวรรณจะไปยื่นคำร้องต่อ กกต. จึงขอให้พี่น้องประชาชนไม่ต้องเป็นห่วงและกังวลต่อเรื่องดังกล่าว เพราะจะไม่มีผลใดๆ ต่อการเลือกตั้งครั้งนี้แน่นอน ขณะนี้ทางผู้สมัครกำลังสืบหาข้อเท็จจริงว่ามีบุคคลใดอยู่เบื้องหลังการดำเนินการของนายศรีสุวรรณ เพื่อมีเป้าหมายในการทำลายชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของพรรค และต้องการให้เกิดความเข้าใจผิดในคะแนนนิยมของนายพิชัยหรือไม่ หากปรากฏว่าเป็นการร้องเท็จ ก็จะดำเนินการทางกฎหมายทั้งผู้ร้องและผู้ที่อยู่เบื้องหลัง โดยมีข้อสังเกตว่านายศรีสุวรรณอยู่นอกพื้นที่เลือกตั้ง และมาทำในช่วงที่ใกล้วันลงคะแนน จะมีเจตนาใดแอบแฝงหรือไม่" นายพร้อมพงศ์ กล่าว
    วันเดียวกัน นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เฟซบุ๊กไลฟ์ peace talk โดยย้ำว่า เจ๊ที่ใกล้ชิดนายบุญทรงนั้น ตลอดเวลากว่า 7 ปีได้ทำความเสียหายต่อบ้านเมือง และยังพังพรรคพินาศ พร้อมทำลายขบวนการต่อสู้ประชาชนย่อยยับมาแล้ว
    “มีการถามว่าเจ๊เป็นใครนั้น จะสรุปความง่ายๆ ว่าเจ๊ที่ว่า ไม่ได้เป็นคุณหญิง ไม่เคยเป็นนายกฯ แต่เจ๊ที่ว่ายังมีสิทธิ์ใกล้ชิดบุญทรง ดังนั้นเจ๊อื่นๆ ไม่เข้าข่ายทั้งปวง ถ้าอธิบายว่าเจ๊ที่ใกล้ชิดบุญทรงนั้น คนทั้งบ้านทั้งเมืองจะเข้าใจ” นายจตุพรกล่าว และว่า ความจริง ถ้าไม่มีใครมาเล่นกับตนก่อน ด้วยการกล่าวหาให้เสียหาย ทั้งที่ตนต่อสู้ทางประชาธิปไตยมาค่อนชีวิต และไม่ได้เป็นคนลมเพลมพัดไปตามกาลเวลา ดังนั้นหากไม่ลุกขึ้นมาต่อสู้กับคนที่กล่าวหา เพื่อปกป้องจุดยืนทางการเมืองของตัวเองแล้ว ตนก็เป็นคนที่ใช้ไม่ได้เช่นกัน
    นายจตุพรกล่าวช่วงหนึ่งว่า “เมื่อเกิดกรณีเชียงใหม่ขึ้น พฤติกรรมของนักเลือกตั้งและของเจ๊เฮงซวยทั้งหลายนี่ เขาก็ใช้วิธียืมพร้าที่ใส่ด้ามไผ่มาฟาดฟันกอไผ่ คือยืมมือคนเสื้อแดงมากล่าวหาว่าผมไปพลังประชารัฐ ไปรับจ้างบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ มาแก้เกม เมื่อเล่นวิธีการโสมมแบบนี้ ผมก็ไม่ไว้หน้าเหมือนกัน ไม่ว่าหน้าเจ๊หรือหน้าใครก็ตาม เพราะเป็นวิธีที่สามานย์ชั่วช้าที่สุดที่รู้กันเต็มอก”
    อีกทั้งเรื่องราวมากมายนั้น คนที่ตนพูดถึงย่อมรู้ดีว่าเจ๊หมายถึงใคร พรรคเพื่อไทยถ้าไม่ไขสือกันก็รู้กันเต็มอก แต่มาไขสือกันแล้ว ตนขอถามหัวใจหน่อยว่ารับพฤติกรรมในคดีบอส กระทิงแดง ได้หรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องหลักที่ตนออกมาพูดถึงเจ๊ แต่ตนทนไม่ได้คือ กล่าวหาว่าไปร่วมกับเผด็จการ นั่นเป็นเรื่องสำคัญในอันดับรอง
    "ผมถามพรรคการเมืองที่ส่ง กล้าการันตีหรือไม่ว่าคนที่ส่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ หากดูข่าวย้อนหลังไป โดยพิจารณาผลการสอบของชุดนายวิชา มหาคุณแล้ว ย่อมรู้กันทั้งนั้นว่า ส.ว.ชื่อ ช. หมายถึงใคร” นายจตุพรกล่าว.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"