ไม่ใช่ไวรัสกระจอก 'แพทย์จุฬาฯ' ลั่นต้องสู้ทุกวิถีทางสกัดโควิดระบาดระลอกสอง เพราะจะแรง เร็ว คุมยาก!


เพิ่มเพื่อน    

19 ธ.ค.63 - รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ดังนี้

สถานการณ์ทั่วโลก 19 ธันวาคม 2563...

อินเดียมียอดทะลุ 10 ล้านแล้ว ถือเป็นประเทศที่สองของโลก

เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่มถึง 692,917 คน รวมแล้วตอนนี้ 75,857,686 คน ตายเพิ่มอีก 12,197 คน ยอดตายรวม 1,677,984 คน 

อเมริกา เมื่อวานติดเชิ้อเพิ่ม 236,629 คน รวม 17,805,150 คน ตายเพิ่มอีก 2,911 คน ยอดตายรวม 320,002 คน

อินเดีย ติดเพิ่ม 27,065 คน รวม 10,004,825 คน

บราซิล ติดเพิ่มถึง 52,545 คน รวม 7,162,978 คน

รัสเซีย ติดเพิ่มอีก 28,552 คน รวม 2,791,220 คน 

ฝรั่งเศส ติดเพิ่ม 15,674 คน รวม 2,442,990 คน 

อันดับ 6-10 เป็น ตุรกี สหราชอาณาจักร อิตาลี สเปน และอาร์เจนตินา ส่วนใหญ่ติดกันหลายพันถึงหลักหมื่นต่อวัน 

เยอรมัน เนเธอร์แลนด์ สวีเดน โปแลนด์ ยูเครน แคนาดา รวมถึงอิหร่าน บังคลาเทศ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย เมียนมาร์ และเกาหลีใต้ ติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลายหมื่น 

คาดว่าพรุ่งนี้เยอรมันน่าจะแซงโคลอมเบียขึ้นเป็นที่ 11 ของโลกได้

แถบสแกนดิเนเวีย รอบทะเลบอลติก และแถบยูเรเชียยังไม่ดีขึ้น ติดเชื้อเพิ่มอย่างต่อเนื่อง 

สวีเดน เคยเน้นมาตรการที่ไม่บังคับเข้มงวด แต่สุดท้ายแล้วก็ทำให้ประสบปัญหาการระบาดหนัก ล่าสุดทางกษัตริย์ของสวีเดนทรงออกมาชี้แนะว่ามาตรการที่ผ่อนคลายแบบที่เคยทำมานั้นไม่สามารถควบคุมโรคได้ และมีคนเสียชีวิตจำนวนมาก

เดนมาร์กติดเพิ่มหนักมากขึ้นไปอีก ทำลายสถิติเดิม 4,508 คน นอกจากนี้ใช้เวลาแค่ 5 วันในการมียอดติดเชื้อสะสมแซง 7 ประเทศ ทั้งโอมาน อียิปต์ เอธิโอเปีย ปาเลสไตน์ ตูนีเซีย ฮอนดูรัส และเมียนมาร์   

ส่วนจีน ฮ่องกง นิวซีแลนด์ และออสเตรเลีย ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่สิงคโปร์ และเวียดนาม ยังมีติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ

...สถานการณ์ในเมียนมาร์ เมื่อวานติดเพิ่มขึ้นอีก 1,116 คน ตายเพิ่มอีก 21 คน ตอนนี้ยอดรวม 114,198 คน ตายไป 2,398 คน อัตราตายตอนนี้ 2.1%

วันนี้เป็นวันครบรอบ 9 เดือน นับจากวันที่ 19 มีนาคม 2563 ที่โรงเรียนแพทย์ได้เรียนเสนอให้นายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ตัดสินใจดำเนินมาตรการเข้มข้นเพื่อจัดการการระบาดในระลอกแรก

นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เราจึงมีตัวเลขติดเชื้ออยู่ระดับหลักพันดังเช่นวันนี้ 

เราช่วยกันทั้งประเทศอย่างเต็มที่เพื่อจัดการระลอกแรกได้ แต่ปัจจุบันคงต้องยอมรับกันเสียทีว่าสถานการณ์มีความเสี่ยงมากที่จะเกิดการระบาดซ้ำ

เนื่องจากมีเคสติดเชื้อในประเทศหลากหลายรูปแบบ หลายเคสหาต้นตอไม่ได้ นอกจากนี้ยังมีปัญหาการลักลอบเข้าเมืองอีกจำนวนไม่น้อย

ล่าสุดของเคสติดเชื้อที่ตลาดแพปลานั้น หากวิเคราะห์ตามหลักระบาดวิทยาแล้ว เหมือนเป็นปรากฏการณ์ swiss cheese phenomenon คือรูของเนยแข็งมาเรียงตรงกันพอดี 

ทั้งในแง่ของตัวผู้ติดเชื้อที่ดูจะมีประวัติไม่ค่อยได้ใส่หน้ากากป้องกัน ทำอาชีพที่ต้องพบปะคนเยอะทั้งคนงานและคนที่มาซื้อของ นอกจากนี้ในแง่ของเชื้อที่มีนั้นก็มีปริมาณมาก โอกาสแพร่กระจายไปสู่ผู้อื่นย่อมสูง และในแง่ของสิ่งแวดล้อม ที่มีโอกาสแออัด และมีการจับต้องสิ่งของสาธารณะต่างๆ ร่วมกันได้มาก
จำนวนผู้ติดเชื้อที่รายงานกันมาดูเพิ่มขึ้นจากเดิม และยังไม่รู้ว่าจะจบลงที่ตัวเลขเท่าใด ลักษณะแบบนี้ผมจัดเป็น superspreading event หรือการแพร่ในวงกว้าง ที่ต้องรีบจัดการอย่างเร่งด่วนและเข้มงวด

สถานการณ์เช่นนี้ ควรพิจารณาคัดกรองคนเข้าออกพื้นที่จังหวัด รณรงค์ให้เลี่ยงการเดินทางเข้าออกโดยไม่จำเป็น ใส่หน้ากาก 100% และให้ประชาชนทุกคนในพื้นที่สังเกตอาการตนเองและสมาชิกในครอบครัว รวมถึงการเร่งทำการตรวจคัดกรองโควิดวงกว้าง เน้นการตรวจให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

การจะจัดการปัญหานี้ ใช้เวลามากกว่าหนึ่งสัปดาห์แน่นอน 

การสั่งหรือประกาศนโยบายอะไรออกไปในช่วงวิกฤตินั้น ต้องใช้สติ และปัญญาในการไตร่ตรองอย่างรอบคอบ มิฉะนั้นแทนที่จะเกิดผลดี กลับทำให้เกิดภาวะเครียด และโอกาสผิดพลาดสูงขึ้นได้

หวัดธรรมดา...เห็นคำนี้ก่อนระลอกแรกมาแล้ว โชคดีที่ทุกคนในประเทศช่วยกันเต็มที่จึงรอดมาได้ ดังนั้นมันจึงไม่ใช่หวัดธรรมดา

ไวรัสกระจอก...เห็นคำนี้แล้ว เราต้องสู้ทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้เกิดการระบาดระลอกสอง เพราะจะแรง เร็ว คุมยาก ยืนยันว่ามันไม่ใช่ไวรัสกระจอก เห็นชัดๆ ว่าติดไปแล้วเกือบ 76 ล้าน ตายไปแล้วกว่า 1.6 ล้านคนทั่วโลก

#โควิดไม่ใช่โรคประจำถิ่น #การติดเชื้อไม่ใช่เรื่องปกติ #ยึดติด0ไม่ได้แต่เลี่ยงการนำความเสี่ยงสู่ประเทศได้ #ไม่ใช่เน้นโกยเงินแลกเชื้อ

ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ภาคสนามทุกท่านครับ

ด้วยรักต่อทุกคน


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"