ว่าด้วยการต่อสู้เพื่อเอาชนะ “นายใหญ่”


เพิ่มเพื่อน    

         ฮื่ออ์อ์อ์...คงต้องยอมรับเอาจริงๆ นั่นแหละว่า โดย ตบะ และ บารมี ของ นายใหญ่ ท่านยังคงเป็นอะไรที่ เอาเรื่อง อย่างมิอาจปฏิเสธได้ เพราะเห็นว่า...ผลการเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงใหม่ นับกันถึงช่วง 8 โมงเช้า หรือ 99 เปอร์เซ็นต์เข้าไปแล้ว ผู้ที่ นายใหญ่ ท่านให้การสนับสนุนอย่าง ส.ว.ก้อง ยังคงทิ้งห่างมวยรองอย่างอดีตนายกฯ บุญเลิศ ถึงเกือบ 7 หมื่นคะแนน ชนิดแทบไม่มีโอกาสไล่ทันอีกต่อไปแล้ว...

                                  -----------------------------------------------------

                ด้วยลักษณะอาการเช่นนี้...ก็คงต้องมุ่งทำ ความดี เพื่อเอาชนะ ความร้าย อย่างไม่คิดจะลด-ละ-เลิก หรือไม่จำเป็นต้องคิด ถอดใจ ต่อไปอีกนั่นแหละ ไม่ว่าจะในแง่ภายนอกหรือภายใน ไม่ว่าในแง่กิจกรรม กิจการ ของบ้านเมือง ไปจนถึงภายในอารมณ์-ความรู้สึก ความเป็นตัวตนของตน ไม่ปล่อยให้ความโกรธ ความโลภ ความหลงใดๆ มีโอกาสครอบงำได้โดยเด็ดขาด เพราะอย่างที่ว่าเอาไว้แล้วนั่นแหละว่า การต่อสู้เพื่อเอาชนะ นายใหญ่ นั้น มันออกจะยาวอีเหลนเป๋น พอๆ กับมหากาพย์รามายณะ หรือภควัคคีตา ของคนอินตะระเดีย ยุคโบร่ำโบราณ โน่นเลย...

                                    -----------------------------------------------------

                ต่างไปจากการต่อสู้เพื่อเอาชนะพวก กาเหว่าที่บางเพลง หรือบรรดาพวกเด็กๆ ทั้งหลาย...อันนี้ ต้องเรียกว่า จะเป็นเพราะไวรัสหรือไวรัลใดๆ ก็มิอาจสรุปได้ บรรดาพวกอาสาสมัครช่วงชิงตำแหน่ง อบจ.ของพรรคการเมืองยุคใหม่ ของคนรุ่นใหม่ อย่างพรรคก้าวหน้า หรือก้าวไกล ก็จำไม่ค่อยได้ซะแล้ว อุตส่าห์ส่งใครต่อใครเข้าประกวด เข้าชิง ถึง 42 จังหวัด เห็นว่า...ดันไม่ผุด-ไม่เกิด เอาเลยซักจังหวัด ขนาดจังหวัดที่ดันไม่มีคู่แข่ง คู่ต่อสู้ แต่ดันไปแพ้ โหวตโน ซะเฉยเลย สะท้อนให้เห็นถึงความละอ่อน ความเปราะบาง เอวบาง ร่างน้อย ในทางการเมือง อย่างมิอาจปฏิเสธได้โดยเด็ดขาด...

                                  --------------------------------------------------------

                คือคงต้องยอมรับนั่นแหละว่า...ความละเอียด ลึกซึ้ง ความรอบรู้ในแบบทั่วด้าน รอบด้าน ไม่ใช่รู้แบบ ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด ของพวกเด็กๆ ทั้งหลายนั้น ยังมีอยู่สูงเอามากๆ แม้จะมีเครื่องมือและอุปกรณ์ในการค้นหาข้อมูล แบบชนิดกดปั๊บ รู้ปุ๊บ สามารถ Copy แล้วเอามา Paste อะไรต่อมิอะไรได้เป็นแถบๆ หรือแม้แต่ขยันอ่าน ขยันซื้อ หนังสือประเภทประวัติศาสตร์ การเมืองและปรัชญาใดๆ ก็ตาม แต่โดยนิสัย ใจคอ โดยการอบรม บ่มเพาะ การสั่งสอนให้โตๆ ขึ้นมาในแบบ หัวไม่ถึงฟ้า-ตีนไม่ถึงดิน ซะเป็นหลักใหญ่ ไม่ว่าคิดจะต่อสู้ เคลื่อนไหว ในลักษณะใดๆ มักหนักไปทาง เบบี้ทางการเมือง โดยตลอด...

                                 --------------------------------------------------------

                ขาดความ Tough ขาดกึ๋น ขาดม้าม ขาดปอด หรือขาด Gut อะไรประมาณนั้น...ลักษณะอาการแบบ แพ้ภัยตัวเอง คล้ายๆ บรรดาพวกเด็กๆ กาเหว่า ที่ถูกไวรัสเล่นงาน ซะจนเกลี้ยงไปเป็นแผงๆ ตามแบบฉบับนวนิยายของอาจารย์ คึกฤทธิ์ ปราโมช จึงปรากฏให้เห็นอย่างถนัดชัดเจนยิ่งขึ้นเรื่อยๆ นอกจากพยายามจะสรรหาความ แปลก ความ ใหม่ หรือหา มุก ใหม่ๆ ออกมานำเสนอ ก็ดันออกอาการ มุกแป้ก และ มุกด้าน กันไปเป็นรายๆ แทบไม่มีอะไรที่พอสะท้อนให้เห็นถึงลำหัก ลำโค่น ไม่ว่าในระยะสั้นและระยะยาว ได้มากมายซักเท่าไหร่ หรือยังไม่ถึงกับ อันตราย มากมายเกินไปนัก...

                                 ---------------------------------------------------------

                ชนิดเล่นเอาบรรดาผู้ที่ถนัดในการ เลียร์ตูดเด็ก ทั้งหลาย...ชักเลียร์ไม่ออก ชักลิ้นสึก ลิ้นด้าน หรือขนติดปากกันไปเป็นแถบๆ เรียกว่า...เจอ ของจริง-ของแท้ เจอผู้ที่รู้ ผู้ที่เชี่ยวชาญ ในทางวิชาการ ทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองขึ้นมาเมื่อไหร่ โอกาสที่จะเกิดอาการแพแตก หนียะย่ายพ่ายจะแจ แทบไม่อาจนำเอามาตรฐานความแตกต่างระหว่าง เรื่องจริง กับ นวนิยาย มาพิสูจน์ ยืนยัน มาอ้างอิง ได้เลยแม้แต่น้อย ต่างไปจากบรรดาพวกที่มากไปด้วย ประสบการณ์ เคยผ่านการบริหาร จัดการ บ้านเมืองมาไม่รู้กี่สมัยต่อกี่สมัย เคยควบคุม ดูแล กองทัพทั้งกองทัพ ไปจนตำรวจ ข้าราชการ หรือบรรดานักธุรกิจใหญ่ๆ อันนี้นี่แหละ...ที่คงต้องหาทาง ตั้งรับ เอาไว้ให้ดี เพราะเผลอๆ...อาจ อันตราย ซะยิ่งกว่าเชื้อไวรัส โควิด-19 เอาเลยก็ไม่แน่!!!

                                  ---------------------------------------------------------

                เพราะอย่างที่เคยว่าๆ เอาไว้แล้วนั่นแหละว่า เรื่องของ การเมือง นั้น สุดท้าย...มันคงหนีไม่พ้นต้องตั้งคำถามไปถึงผู้ที่มี อำนาจชี้ขาดในขั้นตอนสุดท้าย ว่าเอาเข้าจริงๆ แล้ว อยู่ในมือของใครกันแน่??? อำนาจที่สามารถไล่ทุบกองบัญชาการของฝ่ายตรงข้าม ไม่ให้มีโอกาสโงหัว ไม่ให้สามารถหยิบเอา เงื่อนไข ใดๆ มาใช้กดดัน ต่อรอง อีกต่อไปได้เลย ส่วนอะไรอื่นๆ นั้น...ล้วนแล้วแต่เป็น องค์ประกอบ หรือเป็น เบี้ย กลางกระดาน ไม่ว่าจะคว่ำ หรือหงาย ก็แล้วแต่ ด้วยเหตุนี้นี่เอง...ที่ทำให้บรรดาผู้ที่มากไปด้วยประสบการณ์ หรือบรรดาคนแก่ทั้งหลาย ที่ยังสามารถวางหมาก วางเกม ไม่ว่าในรัฐสภา กองทัพ สำนักงานตำรวจแห่งชาติไปจนถึงบรรดานักธุรกิจ นายทุน ระดับร้อยล้าน พันล้าน จึงคงเป็นอะไรที่ อันตราย กว่าพวกเด็กๆ ไม่รู้กี่สิบ กี่ร้อยเท่า...

                                   --------------------------------------------------------

                แต่ก็นั่นแหละ...การต่อสู้เพื่อเอาชนะสิ่งดังกล่าว ก็ย่อมหนีไม่พ้นต้องอาศัย อำนาจ ในแบบที่จอมจักรพรรดิ นโปเลียน โบนาปาร์ต ได้เคยสรุปเป็นบทเรียนเอาไว้นั่นแหละว่า...ในโลกนี้มีอำนาจอยู่เพียง 2 ประการ คืออำนาจแห่งดาบกับอำนาจแห่งใจ ที่สุดท้าย...ใจ...ก็สยบ...ดาบ...ลงไปในทุกๆ ครั้ง และการที่จะมี ใจ ในลักษณะที่ว่าขึ้นมาได้ ก็ย่อมหนีไม่พ้นไปจากการยึดมั่นอยู่ใน ธรรม หรือไม่คิดจะเบี่ยงเบนไปจากครรลอง คลองธรรมนั่นแล...

                                   ----------------------------------------------------

                ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Anne Bradstreet... “Authority without wisdom is like a heavy ax without and edge, fitter to bruise than polish. – อำนาจอันไร้ความชาญฉลาด เปรียบได้เช่นขวานใหญ่ไร้คม รอยแผลถลอกปอกเปิกย่อมมีมากกว่าความเกลี้ยงเกลา...”

                                     ------------------------------------------------------

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"