เลือกตั้งท้องถิ่นปักษ์ใต้ แมตช์ล้างตา 'ปชป.' ฟื้น


เพิ่มเพื่อน    

 

         การเลือกตั้งขององค์การบริหารส่วนจังหวัด เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.63 สะท้อนถึงการเมืองใหญ่หลายแง่มุม เนื่องจากการเลือกตั้งดังกล่าวยึดโยงกับการเมืองระดับประเทศ

            โดยผู้สมัครนายก อบจ. ลงในนามต่างๆ ทั้งในนามพรรคการเมืองส่งเข้าประกวด ในนามกลุ่มอิสระซึ่งเป็นที่รู้กันว่าก็เป็นคนของพรรคการเมืองเช่นกัน และในนามบุคคล

            ภายหลังจากมีการเลือกตั้งใหญ่ หรือการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเมื่อเดือน มี.ค.62 จนกระทั่งประชาชนได้เข้าคูหาอีกครั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แน่นอนว่าทุกคนต่างต้องการยึดเก้าอี้นายก อบจ. แต่จุดประสงค์ไม่ได้มีเพียงเท่านี้ พรรคใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยชิมลางการเมืองท้องถิ่นก็ต้องการขยายอำนาจลงท้องถิ่น บางพรรคที่พลาดโดนเจาะไข่แดงจากการเลือกตั้งใหญ่ ก็ใช้โอกาสนี้ล้างตา พร้อมๆ ไปกับการเช็กเรตติ้งพรรคในเวลานั้นๆ

            เริ่มต้นที่พรรคเพื่อไทย พื้นที่เป้าหมายที่เสียไม่ได้อย่างจังหวัดเชียงใหม่ยังคงต้องอยู่ในคาถาของตระกูลชินวัตร ส่วนพรรคก้าวไกลไม่ได้เก้าอี้ นายก อบจ.แม้แต่ที่นั่งเดียว

            พี่น้องประชาชนจำนวนมากคงไม่ปลื้มกับวิถีของอนาคตใหม่ หรือก้าวไกลกระมั้ง อาจยังคงจดจำวาทกรรมของ “ทวีชัย วงศ์ไพโรจน์กุล” ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ในนามพรรคอนาคตใหม่

                เพราะเขาเขียนข้อความทวีตบนทวิตเตอร์ว่า "เป็น ส.ส. หรือพระครับ วิ่งรอบ (วิ่งรอก) ออกงานศพขนาดนั้น? #สสตลาดล่าง" แม้สอบตกเลือกตั้งปี 62 แต่คำพูดนี้มีผลกระทบและเป็นตราบาปพรรคไปอีกนาน ที่สำคัญ พิสูจน์แล้วว่าการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์จุดยืนของพรรค มันระคายเคืองหูคนไทยส่วนใหญ่ จนส่งผลมาถึงการเลือกตั้งท้องถิ่น

            แม้การเลือกตั้งระดับประเทศชนะเยอะ เพราะกระแสช่วย แต่การเมืองท้องถิ่นแตกต่างมาก ชาวบ้านยึดความใกล้ชิด เห็นหน้าเห็นตา อยู่ด้วยกันในยามสุข โดยเฉพาะยามทุกข์ที่สุดก็ต้องโผล่หน้าไปหาให้กำลังใจ เพื่อแสดงให้เห็นว่าไม่ได้ทอดทิ้ง

            ข้ามมาดูฝั่งพรรคที่ชื่นมื่น อย่าง พรรคประชาธิปัตย์ แม้การเลือกตั้งใหญ่ปี 62 ล้มเหลว แต่เมื่อมีการเลือกตั้งท้องถิ่น ต้องบอกว่า “ประชาธิปัตย์” กลับมาแล้ว แม้จะส่งลงในนามพรรคเพียง 3 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดสงขลา และจังหวัดสตูล คว้าชัยได้เพียง 1 จังหวัด คือ จังหวัดสงขลา

            แต่เมื่อดูดีๆ พบว่า สุราษฎร์ฯ เป็นการแพ้กันเอง ในนามประชาธิปัตย์ส่ง “ชุมพล กาญจนะ” แต่พ่ายแพ้ให้กับ “พงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว” ที่ลงในนามกลุ่มคนรักสุราษฎร์ ซึ่งเมื่อครั้งเลือกตั้งใหญ่ “พงษ์ศักดิ์” คือคนหนึ่งที่ทำให้ประชาธิปัตย์ชนะยกจังหวัด ซึ่งแต่เดิมมีการคาดการณ์ว่าอดีตกำนันคนดังอย่าง “สุเทพ เทือกสุบรรณ” จะแบ่งพื้นที่ไปได้บ้าง ที่สุดแล้วค่ายสีฟ้ารวบตึง

            ส่วนที่จังหวัดสงขลา ว่าที่ ร.ต.ไพเจน มากสุวรรณ์ สังกัดประชาธิปัตย์ ได้รับชัยชนะเหนือเบอร์ใหญ่แห่งพรรคพลังประชารัฐ พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล ซึ่งเมื่อเลือกตั้งใหญ่เขาเป็นผู้อำนวยการเลือกตั้ง ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐของภาคใต้ เจาะพื้นที่ของประชาธิปัตย์ได้จำนวนหนึ่ง

            ต่อกันที่จังหวัดสตูล รอบนี้ประชาธิปัตย์ส่ง “เกตุชาติ เกษา” คนสนิทนายหัวชวน หลีกภัย ท้าชิงแชมป์เก่า “สัมฤทธิ์ เลียงประสิทธิ์” อดีตนายก อบจ.สตูล และบิดาของ “วรศิษฏ์ เลียงประสิทธิ์” ส.ส.สตูล เขต 2 พรรคภูมิใจไทย สุดท้าย “เกตุชาติ” ต้องกอดกับความผิดหวังกลับบ้าน

                อย่างไรก็ตาม พื้นที่ภาคใต้มีทั้งหมด 14 จังหวัด จังหวัดหนึ่งที่น่าสนใจคือ พัทลุง เปรียบเสมือนเป็นแมตช์ล้างแค้น ในครั้งเลือกตั้งระดับชาติ “เจ๊เปี๊ยะ” นาที รัชกิจประการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย หมายมั่นยึดพัทลุงทั้งจังหวัด ปรากฏว่าได้มา 2 ที่ โดยสอย “นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” และ “สุพัชรี ธรรมเพชร” ตกสวรรค์ ฉะนั้นในศึกท้องถิ่นจึงยอมไม่ได้อีกแล้ว ฮึดสู้เย็บตา จน “วิสุทธิ์ ธรรมเพชร” คว้าชัยชนะเหนือคู่แข่ง “ภุชงค์ วรศรี” คนของซุ้มเจ๊เปี๊ยะ และอดีตประธานสภา อบจ.พัทลุง

            นอกจากนี้ ที่จังหวัดภูเก็ต “เรวัต อารีรอบ” ส.ส.หลายสมัยของพรรคประชาธิปัตย์ แต่สอบตกในการเลือกตั้ง ส.ส.รอบล่าสุด ระหว่างนั้นไปเป็นเลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สาธิต ปิตุเตชะ) และตัดสินใจหันไปเล่นการเมืองท้องถิ่น วันนี้ได้เป็นนายก อบจ.ดั่งใจหวัง

            งานนี้ ประชาธิปัตย์ฟื้นคืนชีพในปักษ์ใต้อย่างที่ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่าไว้ว่า “สำหรับภาคใต้ในภาพรวมจากผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการที่ออกมาก็ต้องถือว่าได้รับการตอบรับอย่างมีนัยสำคัญ นั่นก็คือ ได้สะท้อนให้เห็นว่าทั้งผู้สมัครในนามพรรค และไม่ว่าจะเป็นผู้สมัครนายก อบจ. หรือสมาชิกสภาจังหวัดก็ตาม ในนามที่เป็นสมาชิกของพรรค ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดียิ่ง และอย่างมีนัยสำคัญ”.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"