เต้นรำ..ป้องกันอัลไซเมอร์


เพิ่มเพื่อน    

    มีงานวิจัยมากมายที่ยืนยันว่า การออกกำลังกายด้วยการเต้นรำนั้น ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์สมองได้มากกว่าการออกกำลังกายประเภทอื่นๆ เพราะเวลาเราเต้นรำนั้น นอกจากต้องใส่ใจมีสมาธิกับจังหวะเพลงแล้ว เรายังต้องจดจำท่าทางการเต้นด้วย 

    ผู้วิจัยของมหาวิทยาลัยในนิวยอร์กได้ทดลองแบ่งคนออกเป็น 3 กลุ่ม ซึ่งกลุ่มที่ 1 ให้เดินเร็ว ส่วนกลุ่มที่ 2 ออกกำลังกายด้วยการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ และกลุ่มที่ 3 จับคู่เต้นรำ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ครั้งละ 1 ชั่วโมงในสตูดิโอ ด้วยท่าเต้นที่ละเอียดซับซ้อน แต่ออกสเต็ปด้วยความอ่อนช้อย และลื่นไหลไปกับเสียงเพลง ในลักษณะเดินเป็นสีเหลี่ยมจัตุรัส จากนั้นผู้เต้นก็จะย้ายคู่เต้นรำไปเรื่อยๆ

    ข้อมูลจากบทความวิจัยดังกล่าวระบุว่า "หลังจาก 6 เดือนผ่านไป ผู้ทำการวิจัยได้เชิญคนทั้ง 3 กลุ่มที่เข้าร่วมทดสอบมาทำการวิจัยซ้ำอีกรอบ ผลปรากฏว่า ผู้ที่เข้าร่วม 2 กลุ่มแรก คือกลุ่มเดินเร็วและกลุ่มออกกำลังกายด้วยการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ มีภาวะความเสื่อมของเซลล์สมองที่เห็นได้ชัด แต่กลุ่มที่สามที่ "จับคู่เต้นรำ" ไม่เพียงแต่หลีกเลี่ยงภาวะสมองเสื่อมได้แล้ว แต่ในสมองของพวกเขายังมีความหนาแน่นขึ้นของ "ฟอร์นิกซ์" (fornix) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่อยู่ภายในสมอง มีหน้าที่ในการประมวลผลสิ่งที่ได้สัมผัสได้อย่างรวดเร็ว และควบคุมหน่วยความจำให้ทำงานได้เป็นปกติ"

    การเต้นรำจึงเป็นตัวช่วยให้เราห่างไกลโรคอัลไซเมอร์ได้อีกหนทางหนึ่ง
    ใครไม่เชื่อ ก็ลองไปเข้าคลาสเต้นรำดูก็จะได้รู้ว่า จริงแท้แน่นอนจ้า  
    มนุษย์ป้าที่ไม่ชอบลีลาศ เพราะรู้สึกว่าไม่ถูกจริต หรือเห็นว่า การลีลาศนั้นผูกติดเชื่อมโยงกับการแต่งตัวให้เนี้ยบให้สวย โดยต้องมีรองเท้าส้นสูงเป็นองค์ประกอบสำคัญจึงจะดูเริ่ดเชิดหยิ่งให้สมกับท่าเต้นนั้น ก็ลองเลือกการเต้นแอโรบิก หรือการเต้นซุมบ้าก็ได้ค่ะ เพราะเป็นการออกกำลังกายภาคบังคับต้องจดจำ "ท่าเต้น" แบบเดียวกับลีลาศค่ะ เพียงแตกต่างกันที่ทำนองเร้าใจตื่นเต้นเหนื่อยมากกว่าเท่านั้น

    สำหรับ "ป้าเอง" นั้นเชื่อสนิทติดใจเลยค่ะว่า การเต้นที่ต้องจำท่าทางนั้น ช่วยในการพัฒนาสมอง และส่งเสริมความจำได้ดีมากจนถึงดีที่สุด แถมยังได้เหงื่อมากมาย ไม่แตกต่างจากการออกไปวิ่งในสวนสาธารณะหรือในซอยแถวบ้านนะคะ

    นอกจากนั้น สิ่งที่เป็นเครื่องยืนยันอีกอย่างคือ การเต้นรำนั้นทำให้บุคลิกดูดี หน้าตาอ่อนวัยกว่าอายุจริงอีกต่างหาก โดยเฉพาะมนุษย์ลุงมนุษย์ป้าที่เต้นลีลาศเป็นประจำ จะเห็นได้ว่าเวลานั่ง เดิน ยืน เขาหลังตรง ตัวตรงสง่างามอย่างยิ่ง 

    ล่าสุด ได้ไปพบเห็นอาจารย์วัย 73 ปี เธอเต้นลีลาศได้อย่างพลิ้วไหว สะโพกสะบัดยิ่งกว่าสาว 17 เลย หากไม่ถามอายุก็ไม่มีทางรู้ว่า เลข 7 นำหน้าแล้ว ไถ่ถามได้ความว่า เรียนลีลาศมาเมื่อหลังเกษียณอายุ 60 ทำให้ชีวิตดี๊ดีมีชีวา ได้ยินเสียงเพลงเมื่อไหร่ เป็นต้องลุกขึ้นมาขยับกาย หน้าเชิด อกผายไหล่ผึ่ง รับรองได้ว่า แก่ตัวกว่านี้ หลังไม่งอไม่งุ้มอย่างแน่นอน 
    รู้แบบนี้แล้ว ฝึกเต้นรำกันเถอะค่ะ แบบไหนก็ได้เอาที่สะดวกและสบายใจนะคะ.
                                        "ป้าเอง" 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"