นายกฯ แจงขั้นตอนใช้วัคซีน ยันรัฐบาลดูแลเต็มที่-สั่งเพิ่มวงเงินแล้ว วอนอย่าเพิ่งรีบไปฉีดเอง


เพิ่มเพื่อน    

28 ธ.ค.63 - ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ครั้งที่ 3/2563 ถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ว่า สำหรับกรณีผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ติดเชื้อโควิด-19 ก็มีโอกาสติดได้ เพราะไปดูแลประชาชนในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาด ดูแลเรื่องการสร้างโรงพยาบาลสนาม ในเมื่อจะเป็นหรือไม่เป็นตรวจสอบแล้วก็รักษาพยาบาล ยาฟาวิพิราเวียร์มีเพียงพอ รักษาก็หาย ซึ่งเขาไม่ได้ไปเที่ยวเตร่มาจากที่ไหน ตนเองก็มีโอกาสติด ถ้าตนไปที่นั่นที่นี่เหมือนกับเขาไป เมื่อเช้าวันเดียว (28 ธ.ค.) ตนได้ตรวจเลือด แต่ไม่ใช่ว่าตรวจแล้วทุกคนจะตื่นตระหนกไปเสียหมด แล้วไปพาดหัวข่าวว่าในทำเนียบฯตรวจพบ 6 คน แต่พอถึงเวลาไปตรวจเหยื่อในโพรงจมูก (Swab) แล้วเขาไม่เป็น ไม่เห็นออกข่าวให้เลย ควรช่วยกันดูแลพื้นที่ในทำเนียบฯให้มีความปลอดภัยดีกว่า แล้วสื่อเองควรไปตรวจ ไม่ห่วงชีวิตตัวเองกันหรืออย่างไร ไม่ได้หมายความว่าให้ทุกคนตื่นตระหนกว่าเป็น แต่อยากให้ไปตรวจสอบว่ามีภูมิต้านทานกันหรือไม่ นี่คือ การตรวจหาภูมิคุ้มกัน (Rapid Test)

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ว่า ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนจากที่ไหนก็ตาม สรุปว่าจะต้องผ่านการตรวจสอบจากองค์การอาหารและยา (อย.) เสียก่อน ไม่ว่าใครจะมาประกาศอย่างไร โรงพยาบาลนั้น โรงพยาบาลนี้ จำนวนพันราย แต่ถ้าไม่ผ่าน อย.ก็เข้าประเทศไทยไม่ได้ นี่คือ ความห่วงใย เพราะจำเป็นต้องมีการตรวจสอบเพื่อคัดกรองคุณภาพ ประสิทธิภาพ และความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น เนื่องจากมีคนหลายประเภทที่จะต้องฉีด เช่น คนชรา เด็ก คนมีโรคประจำตัว ซึ่งต้องรับฟังคำรับรองของแพทย์ หน่วยงานสาธารณสุข ดังนั้น วันนี้ยังไม่อยากให้ไปฉีดวัคซีน ไม่ว่าใครจะได้มาอย่างไรก็ตาม อย่าเพิ่งไปฉีดก่อน เพราะถ้ามีอันตรายเกิดขึ้น รัฐบาลจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบอีก จะกลายเป็นว่ารัฐบาลไม่ควบคุม ตนเองก็ได้แต่แนะนำแบบนี้ว่าทุกอย่างมันยังไม่ชัดเจน ถึงแม้ว่าจะมีความก้าวหน้าในสื่อต่างประเทศก็ตาม ขอให้ติดตามผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย ตนเป็นห่วงประชาชนคนไทยตรงนี้ จึงต้องมีกติกาและกฎเกณฑ์

นายกฯ กล่าวว่า ในส่วนของวัคซีนที่เราจองไป 20 ล้านโดสขั้นต้นนั้น ได้มีข้อสัญญาไว้ว่าเราสามารถมาวิจัย พัฒนา และผลิตเองได้ ซึ่งจะฉีดกันได้ครบทั้งประเทศ โดยการจองวัคซีนต้องใช้งบประมาณจำนวนหนึ่ง เพราะถือเป็นธุรกิจของบริษัททางยาด้วย สำหรับการส่งเสริมในประเทศก็มีแพทย์บางกลุ่มไปขอรับบริจาค รัฐบาลไม่ต้องการให้ทำแบบนั้น รัฐบาลมีวงเงินงบประมาณอยู่ที่ได้ให้กับสถาบันวัคซีนแห่งชาติไปแล้วก้อนแรก 400 ล้านบาท เพื่อที่จะไปแจกจ่ายในโรงพยาบาลที่มีคณะทำงานอยู่ ส่วนโรงพยาบาลไหนที่ยังไม่ได้ เป็นเพราะยังไม่ครบตามหลักเกณฑ์ที่สถาบันวัคซีนแห่งชาติเขากำหนด เนื่องจากต้องมีผลการทดลองตามลำดับ เช่น ห้องทดลองกับหนู ลิง และมนุษย์ ทุกอย่างเป็นเรื่องของยาที่จะต้องใช้เวลาในการตรวจสอบอยู่พอสมควร อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้สั่งการให้เพิ่มวงเงินตรงนี้ไปแล้ว โดยกำชับไปว่าให้ไปพูดคุยตกลงกันให้ได้ในหลายๆ กลุ่มหมอด้วยกันนั้น ก็จะกลายเป็นว่ารัฐบาลไม่ดูแลไม่รับผิดชอบประเทศไทย แล้วกลับมาด่ารัฐบาลอีก แต่ต้องขอให้เข้าใจว่าการทำงานเป็นระบบนั้นคืออะไร  


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"