เคาต์อัพ!โควิด48จ. ศบค.สั่งผู้ว่าฯออกแผนสกัด ขอฉลองปีใหม่ในครอบครัว


เพิ่มเพื่อน    


    สัญญาณอันตราย! ศบค.พบติดโควิดพุ่ง 250 ราย  ชลบุรีพีกสุด 108 ราย สมุทรสาครแนวโน้มลดลง ติดเชื้อกระจาย 48 จว. เกินครึ่งของประเทศแล้ว หวั่นเคาต์ดาวน์ปีใหม่กลายเป็น "เคาต์อัพ" ซัดพวกผีพนันไร้วุฒิภาวะทำติดเชื้อเพิ่ม สธ.ชง จว.ทำแผนรับมือให้เหมาะกับสถานการณ์ตามพื้นที่ 4 ระดับ ผู้ว่าฯ ระยองอ้างเหตุไม่ล็อกดาวน์เป็นจังหวัดทางผ่าน มีสนามบินอู่ตะเภา ย้ำให้ทุกคนล็อกดาวน์ตัวเอง “บิ๊กตู่” ลงพื้นที่ชลบุรีให้กำลังใจ จนท.-ปชช. วอนขอสามัคคีกัน รู้จักควบคุมตัวเอง ย้ำยังไม่ล็อกดาวน์ให้ จว.ประเมินเอง 
    ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 30 ธันวาคม นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน  โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า สถานการณ์ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 250 ราย ในจำนวนนี้อยู่ในสถานกักตัวของรัฐ 8 ราย ผู้เดินทางเข้าประเทศโดยไม่ได้อยู่ในสถานกักตัวของรัฐ 1 ราย ติดเชื้อในประเทศ 241 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 6,690 ราย หายป่วยสะสม 4,212 ราย อยู่ระหว่างรักษา 2,417 ราย เสียชีวิตสะสมคงที่  61 ราย ขณะนี้มีจังหวัดที่มีรายงานผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 48 จังหวัด เกินกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศแล้ว โดยเพิ่มขึ้นมาอีก 3 จังหวัด ได้แก่ ระนอง อำนาจเจริญ ตราด ขณะจากตัวเลขสถิติพบผู้ติดเชื้อที่เป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย และกลุ่มติดเชื้อเป็นวัยอายุเฉลี่ย 40 ขึ้นไป 
    นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อวันนี้เชื่อมโยงกรณี จ.สมุทรสาคร 9 ราย ซึ่งจะเห็นว่าตัวเลขที่เชื่อมโยง จ.สมุทรสาคร เริ่มลดลงแล้ว ขณะที่ผู้มีประวัติเชื่อมโยงกรณี จ.ระยองมี 3 ราย  แต่ไม่ได้หมายความว่ามีเท่านี้ เพราะยังมีกลุ่มที่อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 198 ราย ที่น่าสังเกตคือในจำนวนนี้พบในพื้นที่ จ.ชลบุรี 108 ราย และยังมีกลุ่มที่มีประวัติเที่ยวสถานบันเทิง มีอาชีพเสี่ยง 29 ราย ส่วนสถานการณ์โลก มีผู้ติดเชื้อสะสม 82,322,167 ราย เสียชีวิตสะสม 1,796,292 ราย  
     "ที่ผ่านมาต่างประเทศเขาล็อกดาวน์หลายรอบ เป็นสิ่งที่เขาพบมา แต่ตัวเลขวันนี้ทำให้หวั่นใจว่ามันจะเดินไปทางไหน สิ่งที่เราไม่อยากจะเห็นภาพคือการล็อกดาวน์รอบที่ 2 และ 3 ไม่อยากให้เกิด วันนี้ตัวเลขสามหลัก และตัวเลขนำหน้าคือเลขสอง พรุ่งนี้จะเป็นเท่าไหร่ ถ้าสถานการณ์ที่เราควบคุมกันไม่ได้ คุยกันไม่ได้ แทนที่จะเป็นเคาต์ดาวน์ปีใหม่ อาจจะเป็นเคาต์อัพ ซึ่งเป็นคำของ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร อดีต รมว.สาธารณสุข เคาต์ดาวน์เพื่อนับถอยหลังฉลองปีใหม่ แต่บรรยากาศแบบนี้ถ้าทุกคนไม่เว้นระยะห่าง ไม่สวมหน้ากาก ยืนเกาะกลุ่ม ในมือมีแอลกอฮอล์ก็ขาดสติในช่วงเวลาตอนนั้น หลังจากนั้นเราจะต้องเคาต์อัพ นับจำนวนเพิ่มขึ้นแน่นอนกับคนที่ติดเชื้อโควิด-19 เราไม่อยากจะเห็นภาพนั้น" 
    ผู้สื่อข่าวถามว่า บางพื้นที่ยังไม่ยกเลิกกิจกรรมเคาต์ดาวน์ จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ศบค.กังวลใจในเรื่องดังกล่าว จึงจะมีการออกประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการ แก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ซึ่งอาจจะเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด โดยจะให้มีผลตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค. เพื่อห้ามมั่วสุมในลักษณะที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค ส่วนการชุมนุมหรือการทำกิจกรรมในพื้นที่เฝ้าระวังสูงและพื้นที่เฝ้าระวังต้องขออนุญาตต่อผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) และผู้ว่าราชการจังหวัด เว้นแต่การทำกิจกรรมภายในครอบครัว ทั้งนี้ การฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามจะต้องรับโทษตามมาตรา 18 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548
จวกก๊วนเล่นพนันไร้จิตสำนึก
     "กรณีพื้นที่ควบคุมและพื้นที่ควบคุมสูงสุด เดี๋ยวจะมีการประกาศออกมา กระทรวงมหาดไทยโดยผู้ว่าราชการจังหวัดจะมีการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด และเอาตัวเลขที่เกิดขึ้นรายวันมาประเมินสถานการณ์ แล้วบอกว่าจังหวัดตัวเองเป็น พื้นที่อะไร พื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) หรือพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) ส่วนพื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) และพื้นที่เฝ้าระวัง (สีเขียว) ในการชุมนุมหรือทำกิจกรรม ต้องขออนุญาต จากผู้ว่าฯ กทม.หรือผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่นั้นๆ ก่อน" นพ.ทวีศิลป์กล่าว
     เมื่อถามว่าผู้ที่เดินทางออกจากจังหวัดที่มีการติดเชื้อจำนวนมาก จะต้องมีการกักตัวหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับจังหวัดปลายทางที่จะไปว่าเขามีประกาศและข้อกำหนดอย่างไรบ้าง หากกำหนดว่ามาพื้นที่ใดแล้วต้องกักตัว ก็ต้องปฏิบัติตามนั้น รวมถึงหากเดินทางไปจังหวัดต่างๆ แล้วจะกลับจังหวัดต้นทาง ต้องดูด้วยว่าทางจังหวัดต้นทางมีการเปลี่ยนแปลงประกาศและข้อกำหนดอะไรหรือไม่ ซึ่งก็ต้องปฏิบัติตามเช่นกัน ส่วนกรณีการจองตั๋วเครื่องบินตามโครงการเราเที่ยวด้วยกัน แต่เมื่อมีการแพร่ระบาดเกิดขึ้นพอขอเลื่อนกลับ ทางเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการ ศบค. ได้ประสานสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยเพื่อช่วยเหลือเยียวยาคนที่ทำตามคำแนะนำของ ศบค. ซึ่งแต่ละสายการบินมีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน ขอให้ประชาชนไปติดตามรายละเอียดและรีบประสานกับสายการบินนั้นๆ 
    โฆษก ศบค.กล่าวตอนท้ายว่า การมายืนรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อที่สูงขึ้นทุกวัน ตนไม่สบายใจ ไม่เข้ากับบรรยากาศปีใหม่ แต่ต้องเผชิญความเป็นจริง ตอนนี้เราทราบว่าแหล่งของการแพร่เชื้อมีทั้งสถานบันเทิงในตอนกลางคืนที่มีความใกล้ชิดและไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำ หรือสถานที่ลักลอบเล่นการพนัน กลุ่มคนเหล่านี้ก็ยังไม่ได้มีวุฒิภาวะเพียงพอในการรับผิดชอบตัวเอง ภาพเหล่านี้สะท้อนออกมาว่ามีคนติดเชื้อมากขึ้น 
    “คนสูงอายุ คนที่ยังเล่นอยู่ ทั้งที่จากเดิมเป็นคนที่ระมัดระวังตัวเองมาก กลับกลายเป็นว่ามีตัวเลขสูงขึ้น เพราะฉะนั้นการสะท้อนภาพเช่นนี้ทำให้อึดอัดใจมาก อยากผ่องถ่ายความไม่สบายใจนี้ให้ประชาชนต้องรับร่วมกัน วันนี้คือ 30 ธ.ค. เป็นช่วงที่ควรเคาต์ดาวน์แบบมีความสุข แต่กลับกลายเป็นเคาต์อัพ จะกลายเป็น 300 หรือ 400 ในวัดถัดไปหรือไม่ หรือจะเป็นพันเป็นหมื่นอย่างที่เราตกใจกลัว ความทุกข์ด้านนี้จะอยู่ที่ภาครัฐ เอกชน หรือประชาชนคนใดคนหนึ่งไม่ได้ ทุกคนต้องช่วยกัน” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว 
    ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค, นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป และปฏิบัติราชการรองอธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงว่า  สำหรับเหตุการณ์ จ.ระยอง และกรุงเทพฯ ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับสถานบันเทิง ยิ่งช่วงปีใหม่ก็จะมีกิจกรรมฉลองกันมากขึ้น ที่ประชุม ศปค.สธ.จึงมีมติให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดทำแผนความพร้อมรับมือให้เหมาะสมกับสถานการณ์จังหวัดของตนเองตามพื้นที่ 4 ระดับ ส่วนการจัดกิจกรรมปีใหม่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดให้งดจัด ส่วนพื้นที่เฝ้าระวังขอให้ลดการจัดกิจกรรมลงให้มากที่สุด ให้อยู่เฉพาะในครอบครัว หากจะจัดกิจกรรมใดๆ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ว่าฯ ส่วนแรงงานต่างด้าวให้อยู่ภายในพื้นที่จังหวัด อยู่ในที่พักตนเอง 
    นพ.โอภาสกล่าวว่า ให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ( อสม.) เคาะประตูบ้านให้ความรู้ประชาชน และตรวจสอบว่ามีแรงงานต่างด้าวเข้ามาหรือไม่ หากพบเห็นให้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ ขณะที่ประชาชนขอให้หลีกเลี่ยงสถานที่เสี่ยง เช่น ตลาดกลางกุ้ง สถานที่ลักลอบเล่นการพนัน สถานบันเทิง ถือเป็นจุดเสี่ยง ยิ่งช่วงโควิดมีการเปิดบ่อน ถือว่าอันตรายต่อประเทศมาก ต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา หากพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
สธ.ย้ำเลี่ยงสถานที่เสี่ยง
    ด้าน นพ.โสภณกล่าวว่า เหตุการณ์พบผู้ป่วยที่เดินกลับจาก จ.ระยอง ความเสี่ยงคือมีผู้เดินทางไป จ.ระยอง และ จ.จันทบุรี ในวันที่ 17-20 ธ.ค. เนื่องจากมีผู้ป่วยมาจากพื้นที่ระบาด รายที่ 1 หญิง อายุ 57 ปี มีอาการจมูกไม่ได้กลิ่น เจ็บคอ เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. ไปรับการตรวจวินิจฉัยที่โรงพยาบาล (รพ.) พบผู้เกี่ยวข้องเป็นผู้ร่วมเดินทางและครอบครัว ได้แก่ ย่า เป็นหญิงอายุ 68 ปี, ปู่ ชายอายุ 66 ปี, หลาน หญิงอายุ 4 ขวบ และคนที่เป็นมารดาและบิดา อายุ 41 ปี โดยช่วงวันที่ 25-27 ธ.ค. มีผลตรวจพบเชื้อในกลุ่มนี้ เป็นการตรวจพบเชื้อที่มากผิดปกติ ทำให้เราส่งสัญญาณเตือนพื้นที่ต่างๆ ซึ่งทยอยรายงานเข้ามา ดังนั้นผู้ที่มีประวัติเดินทางไป จ.ระยอง ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม ใน 5 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองฯ อ.แกลง อ.บ้านฉาง อ.นิคมพัฒนา และ อ.บ้านค่าย ซึ่งขณะนี้เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดแล้ว หากพบอาการป่วย ขอให้เข้ารับการตรวจรักษาที่ รพ.ใกล้บ้าน
    นพ.โสภณกล่าวว่า อีกเหตุการณ์ที่มีความเกี่ยวข้องกับร้านอาหารและสถานบันเทิงในกรุงเทพฯ ซึ่งข้อมูลวันที่ 29 ธ.ค. พบผู้ป่วย 22 รายข้อมูลล่าสุด ทำให้พบผู้ป่วยรวมเป็น 33 ราย ส่วนใหญ่มีอาการน้อย หรือไม่มีอาการ จึงขอให้ผู้ที่ท่องเที่ยวในสถานบันเทิงแถวพาต้าปิ่นเกล้า เว้นระยะห่างจากคนอื่นจนครบ 14 วัน  ทั้ง 2 เหตุการณ์จะเห็นได้ว่าความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในสถานที่ปิด อากาศไม่ถ่ายเท และผู้เข้าใช้บริการส่วนหนึ่งไม่สวมหน้ากากอนามัย เมื่อมีผู้ติดเชื้อเข้าไปก็มีโอกาสรับเชื้อได้ จึงขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงสถานที่เหล่านี้
    ที่ศาลาว่าการ กทม. (เสาชิงช้า) ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษก กทม. แถลงภายหลังการประชุม ศบค.กทม.ว่า วันนี้พบผู้ติดเชื้อในกรุงเทพมหานครเพิ่ม 17 ราย มี 2 รายที่เชื่อมโยง จ. สมุทรสาคร และ 15 ราย เป็นกลุ่มเสี่ยงจากชุมชนหรือในอาชีพเสี่ยง เช่น สถานบันเทิง รวมแล้วกรุงเทพฯ มีผู้ติดเชื้อ 125 ราย จากการสอบสวนโรคกลุ่มก้อนของสถานบันเทิงทั้ง 22 ราย มีจำนวน 20 รายอยู่ในซอยอยู่ออมสิน หลังห้างพาต้าปิ่นเกล้า อีก 2 รายอยู่ที่เทเวศร์ โดยขยายผล 20 ราย ทั้งนี้ ได้ตรวจคัดกรองพนักงานร้านน้องใหม่คาราโอเกะ ซึ่งมีพนักงานทั้งหมดจำนวน 75 คน ตรวจเสร็จแล้ว 39 คน พบว่าติดเชื้อ 21 ราย จึงต้องติดตามสถานการณ์กลุ่มก้อนดังกล่าวว่าจะแพร่ระบาดไปได้แค่ไหน ส่วนของการจัดงานปีใหม่ยืนยันว่าจะไม่มีการจัดงานแล้ว 
      นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊ก หลังร่วมประชุมกับผู้บริหารศูนย์ปฏิบัติการสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุข ระบุว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุกคนหนักใจกับจำนวนผู้ติดเชื้อจากสถานที่ผิดกฎหมายและสถานที่แออัดที่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว ยอมรับว่าเจ้าหน้าที่ทำงานยากมาก เพราะผู้ติดเชื้อเหล่านี้ปกปิดข้อมูล ไม่พูดความจริง กว่าจะสอบสวนโรคได้ก็แพร่เชื้อไปยังผู้อื่นหลายทอดแล้ว อย่าง จ.ระยอง ที่ต้องล็อกดาวน์ 5 อำเภอ ก็เกิดความสูญเสียทางธุรกิจ ผลกระทบเกิดขึ้นกับประชาชนส่วนใหญ่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 
    "ดังนั้นหากไม่อยากให้จังหวัดของตัวเองถูกล็อกดาวน์ ก็ต้องช่วยกันเฝ้าระวังชุมชนของแต่ละคน ช่วยให้ข้อมูลกับทีมสาธารณสุข เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดและเข้าควบคุมโรคได้อย่างรวดเร็ว เพื่อความปลอดภัยของทุกคน และสำหรับผู้ที่ไม่อยากถูกเปิดเผยไทม์ไลน์ เพราะมีเรื่องราวส่วนตัว ก็ขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของกรมควบคุมโรค คือใส่หน้ากาก เว้นระยะห่าง หมั่นล้างมือ" นายอนุทินระบุ 
    ช่วงบ่ายวันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และคณะ ลงพื้นที่ตรวจสถานกักกันโรค และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กับประชาชนที่โรงแรมแกรนด์เบลลา แหลมบาลีฮาย จ.ชลบุรี โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวตอนหนึ่งว่า ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน หน้ากากอย่าถอด ใส่ให้ถูกวิธี ตนเองทำอะไรก็ต้องระวัง เพราะมีคนเตือนมาว่านายกฯ ป่วยไม่ได้ จึงต้องระวัง ปัญหาต่างๆ ต้องแก้ให้ได้ด้วยมือคนไทยทุกคน ถ้ารักกัน สามัคคีกัน แก้ได้ทุกปัญหา  
"บิ๊กตู่"วอนควบคุมตัวเอง
    จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลติดตามสถานการณ์ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง น่าเสียใจที่ช่วงปีใหม่มาเกิดเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น มาตรการต่างๆ คงต้องให้ผู้ว่าฯ เป็นผู้ตัดสินใจ และสถานการณ์ที่แพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ จากข้อมูลทางด้านสาธารณสุขพบว่าติดกันง่ายขึ้น ใครไปพื้นที่เสี่ยงกลับมาบ้านก็ต้องดูแลตัวเอง อย่าให้ติดที่บ้าน เราปลอดภัย ครอบครัวปลอดภัย เพื่อนบ้านปลอดภัย 
    "ยืนยันจะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดร่วมกับเจ้าหน้าที่ ทั้ง ส่วนกลางและท้องถิ่น ประชาชน ประชาสังคม ต้องร่วมมือกันแก้ปัญหาโควิด-19 เราต้องช่วยกันอุดรูรั่วทุกรูด้วยความรักสามัคคีกัน ถ้าเรามัวแต่ต่อต้านการทำงานมันจะทำงานไม่เสร็จ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่ได้รับความเดือดร้อน ปีหน้าจะมีวันหยุดชดเชยให้"  
     เมื่อถามว่าสถานการณ์ภาพรวมของ จ.ชลบุรี จากการรับฟังรายงานเป็นอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนติดตามการรายงานมาตลอด วันนี้เมื่อมีการคัดกรองมากขึ้นก็เจอมากขึ้น ที่สำคัญคือควบคุมได้หรือไม่ แต่ที่ตนเป็นห่วงคือคนที่ไม่แสดงอาการ แต่ทุกคนรู้ว่าตัวเองเสี่ยงหรือไม่ไปสถานที่ที่มีการแพร่ระบาดหรือไม่ ต้องรู้ด้วยตัวเอง เป็นห่วงตัวเอง เป็นห่วงครอบครัว เป็นห่วงชุมชน สังคมวันนี้เราต้องรักกันให้มาก สร้างจิตสำนึกที่จะอยู่ร่วมกันได้อย่างไร ทุกเรื่องจะแก้ปัญหาได้ ถ้าทะเลาะกันเสียก่อนจะแก้ได้หรือไม่  
     เมื่อถามว่า 7 วันหลังจากนี้จะมีการประกาศล็อกดาวน์ประเทศหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ยัง ยังไม่ถึงตรงนั้น วันนี้จังหวัดเขาประเมินอยู่แล้ว ให้เขารับผิดชอบไป ถ้าประชาชนรู้จักการควบคุมตัวเอง รู้จักกักตัวเอง ถ้าคนที่สงสัยว่าติดเชื้อก็ไปตรวจสอบ แบบนี้จะเบาไปเยอะ 
    ด้าน นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร  เปิดเผยว่า จากกรณีเจ้าหน้าที่รัฐสภาที่ร่วมอยู่ในห้องประชุมคณะอนุกรรมาธิการศึกษาผลกระทบกาสิโนออนไลน์ที่มาจากต่างประเทศ ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมา และเมื่อวันที่ 29 ธ.ค. ได้ให้ทั้งเจ้าหน้าที่ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง 29 คนไปตรวจหาเชื้อโควิด  และผลออกมามี 1 คน ที่ยังสรุปผลไม่ได้นั้น ในวันที่ 30 ธ.ค. ได้รับทราบผลจากสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุขออกมาแล้วว่าไม่พบสารพันธุกรรมเชื้อโควิดในตัวผู้ต้องสงสัย ซึ่งแปลว่าไม่มีการติดเชื้อ ดังนั้นตอนนี้ถือว่าสภายังปลอดเชื้อโควิดโดยสิ้นเชิง ทั้ง 29  คนยังต้องกักตัว 14 วันอยู่
    นายอนันต์ ผลอำนวย ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานกรรมาธิการกิจการสภาฯ กล่าวว่า กมธ.กิจการสภาฯ ได้ทำหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ขอให้เลื่อนการประชุมสภาหลังปีใหม่ในวันที่  6-8 ม.ค.2564 ออกไป 1 สัปดาห์ เนื่องจากเป็นห่วงสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อโควิดที่แพร่ระบาดเร็วมาก จึงเป็นห่วงพื้นที่อาคารรัฐสภาที่มี ส.ส. 500 คน มีผู้ติดตามกว่า 2,000 คน และแรงงานต่างด้าวที่กำลังก่อสร้างอาคารรัฐสภา ที่ส่วนใหญ่เป็นชาวเมียนมา จึงมีความเสี่ยงสูงที่อาจเกิดการแพร่ระบาดเชื้อโควิดในสภา ที่กองบัญชาการกองทัพเรือ (บก.ทร.) พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ได้นำผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพเรือ และ ศรชล. ร่วมรับประทานอาหารเมนูที่ปรุงจากอาหารทะเลส่งตรงจากเรือประมงในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อยืนยันว่าอาหารทะเลของจังหวัดสมุทรสาครมีความปลอดภัยปลอดเชื้อไร้การปนเปื้อนจากโควิด-19 โดย ทร.ได้รับซื้อผลิตภัณฑ์อาหารทะเล ทั้งหมดจำนวน 10 ตัน หรือ 10,000 กิโลกรัม
ระยองยังไม่ล็อกดาวน์
      ด้านนายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าฯ ระยอง เปิดเผยว่า วันที่ 30 ธ.ค. พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 54 ราย รวมผู้ติดเชื้อสะสม 202 ราย เสียชีวิต 1 ราย ที่สำคัญมีบุคคลทางการแพทย์ติดเชื้อ 1 ราย แต่สาเหตุไม่ได้มาจากในโรงพยาบาล เนื่องจากสัมพันธ์กับผู้ป่วยติดเชื้อกลุ่มเก่าอยู่แล้ว สถานที่สุ่มเสี่ยง ได้แก่ บ่อน บขส.เก่า, ซุ้มไก่,ตลาดสตาร์, ฟิตผับ, ตลาดวัดลุ่ม, ร้านรายอง, ซูดผับ ตลาดปากน้ำ, ร้านวัน, ตลาดแม่แดง, ที่เล่นการพนันทับมา, ที่เล่นการพนันสตาร์, ฟิตเนส โกลเด้นท์, สนามฟุตบอลบ้านเพ ตอนนี้ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจัดรถชีวอนามัยพระราชทานมาประจำที่เนินอุไร เพราะฉะนั้นการตรวจจะได้ปริมาณมากขึ้น จะเร่งการตรวจให้เร็วที่สุด 
     "ตอนนี้มีประมาณ 20 จังหวัด ระบุชัดหากเป็นคนระยองเดินทางเข้าไปต้องกักตัว 14  วัน สาเหตุที่จังหวัดไม่สามารถล็อกดาวน์การเดินทางข้ามจังหวัดได้ เพราะระยองเป็นเมืองผ่าน หากล็อกดาวน์แล้วคนจันทบุรี ตราด ชลบุรี จะเดินทางอย่างไร จ.ระยองมีสนามบินอู่ตะเภา เพราะฉะนั้นต้องมองหลายมิติ การสั่งอะไรง่าย แต่ผลกระทบแรง แต่สิ่งที่ช่วยกันได้คือล็อกดาวน์ตัวเอง ดูแลตัวเอง ออกนอกบ้านให้น้อยที่สุด" ผู้ว่าฯ ระยองกล่าว
    ที่ จ.อำนาจเจริญ หลังจากมีการกระจายข่าวพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด เป็นเพศหญิง อายุ 37 ปี อยู่บ้านเดียวกับผู้ป่วยที่ตรวจพบเชื้อที่ จ.ระยอง ซึ่งเป็นบุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลจังหวัดระยอง เป็นพี่สาว เดินทางมาพร้อมกันกับสามีผู้ป่วย ระยอง และเดินทางกลับจังหวัดอำนาจเจริญ เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.63 พักอยู่บ้านพักที่บ้านโนนแดน ต.สร้างถ่อน้อย อ.หัวตะพาน นายพรชัย วงศ์งาม นายอำเภอหัวตะพาน มีหนังสือด่วนที่สุด ถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้าน ขอให้งดการจัดงานหรือจัดกิจกรรมที่มีการแสดงดนตรีหรือมหรสพ ซึ่งมีการรวมกลุ่มหรือประชาชนร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก ที่มีลักษณะเสี่ยงต่อการสัมผัสใกล้ชิดและแพร่เชื้อโควิด
    นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าฯ มหาสารคาม ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดมหาสารคาม เผยว่า จากข้อมูล สาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 1 ราย เป็นหญิง อายุ 42 ปี ในพื้นที่ อ.บรบือ มีอาชีพขายส้มตำอยู่หลังตลาดไทยยูเนี่ยน ต.ท่าทราย อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร สำหรับกลุ่มเสี่ยงประกอบด้วยบุคคลในครอบครัว จำนวน 6 คน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและ อสม. รวมถึงผู้เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 จำนวน 32 คน 
    สำหรับผลการตรวจหนุ่มใหญ่ อายุ 53 ปี ชาวชุมชนท่าโพธิ์ ต.ท่าวัง อ.เมืองฯ จ.นครศรีธรรมราช มีอาชีพขับรถกุ้งไป จ.สมุทรสาคร และไม่ได้กลับบ้านมาเป็นเวลานานแล้ว จนกระทั่งมีการแพร่ระบาดโควิดรอบใหม่ใน จ.สมุทรสาคร จึงให้พรรคพวกขับรถมาส่งที่บ้านในชุมชนท่าโพธิ์ ต.ท่าวัง โดยไม่ได้มีอาการไข้ใดๆ แต่เมื่อไปตรวจร่างกายในฐานะบุคคลกลุ่มเสี่ยงที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง จ.สมุทรสาคร ผลการตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโควิดเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงจัดรถมารับตัวไปรักษาและกักตัวที่ รพ.มหาราช พร้อมกักตัวผู้สัมผัสใกล้ชิด 7 คน และนำสารคัดหลั่งส่งตรวจหาเชื้อไวรัสโควิดไว้
    นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ภูเก็ตมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 3 ราย เป็นพ่อกับลูก รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต จะออกจากโรงพยาบาลได้ในวันที่ 4 ม.ค.2564 ส่วนคนใกล้ชิดกับผู้ป่วยทั้ง 3 ราย ได้รับการตรวจคัดกรองโรคแล้ว จำนวน 199 คน ผลตรวจทั้งหมดไม่พบเชื้อ และได้รับการกักกันในสถานที่รัฐกำหนดแล้ว วันนี้น่าจะเบาใจกันมากขึ้น.  


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"